หนังตาตก ทำให้หน้าดูแก่เพราะเมื่ออายุมากขึ้น มักเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าไม่กระชับเต่งตึงเหมือนในวัยสาว ผิวหนังในส่วนต่างๆ เริ่มหย่อนคล้อยไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก และสิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนนั้นก็คือ มักพบว่าหนังตาบนเริ่มตกลงมาส่งผลให้หน้าดูแก่ลงไปอีก แถมบางคนเริ่มรู้สึกว่าต้องพยายามเบ่งตาให้กว้างขึ้น เวลาเพ่งมองสิ่งต่างๆ หรือขณะอ่านหนังสือ รวมถึงหลายคนเริ่มมีอาการเคืองตาจากการที่ขนตาแยงเข้ามาในตาก็มี
หนังตาตก มักเกิดจากการที่เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ทําให้ความยืดหยุ่นของผิวลดน้อยลง หรือบางคนอาจจะมีเนื้อหนังตามากเกินไป หรือมีชั้นไขมันบริเวณนั้นมาก ทําให้ไม่เห็นเป็นชั้นตา แต่จริงๆ แล้วปัญหาหนังตาตก นอกจากสาเหตุต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ยังพบว่ามีสาเหตุมาจากการที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงลง เกิดจากกรรมพันธ์ หรือสาเหตุจากระบบประสาท ที่ควบคุมการทํางานของกล้ามเนื้อตาบกพร่อง ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาข้างนั้น ต่ำลงมามากกว่าอีกข้างหนึ่ง ตาจะเปิดได้ไม่เต็มที่ ตา 2 ข้างจะดูไม่เท่ากัน และเห็นได้อย่างชัดเจน หรือมีสาเหตุจากเนื้องอกในสมอง หรือเส้นเลือดในสมองแตก หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งโรคนี้ อาจเกิดอาการแขนขาอ่อนแรง หายใจ และกลืนลําบากด้วย ซึ่งต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง ก่อนการตัดสินใจว่าจะรักษาด้วยวิธีใด
ปัญหาหนังตาตก สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด แต่การแก้ไขคนที่หนังตาตกเพราะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงข้างเดียว อาจมีวิธีการและขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า ปัญหาหนังตาตกที่มาจากอายุ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใด หลังผ่าตัดไปแล้ว คนไข้ต้องมีดวงตาที่ดูสวยงาม และลดวัยไปได้อีกหลายปีอย่างแน่นอน
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
การผ่าตัดแก้ไขหนังตาตก เป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ที่มีการเตรียมตัวเช่นเดียวกัยการผ่าตัดทั่วไป ซึ่งเราจะต้องแจ้งประวัติการแพ้ยา แจ้งชื่อยา หรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบัน ก่อนเข้ารับการผ่าตัด หากมีโรคประจําตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบ โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแล และแจ้งแพทย์ผู้ทําการผ่าตัดด้วย งดยาแอสไพริน ไอบิวโพรเฟน และวิตามินอี ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด งดสูบบุหรี่ก่อน-หลังผ่าตัด 2 อาทิตย์
วิธีการผ่าตัด
การผ่าตัด จะใช้การฉีดยาชาเฉพาะที่ ในกรณีที่หนังตาตกในลักษณะที่มีหนังบริเวณนั้นมากเกินไป หลังจากฉีดยาชาแล้ว แพทย์จะใช้มีดกรีดเพื่อเปิดแผลบริเวณรอยพับของชั้นตา (ถ้าไม่มีความหย่อนคล้อยมาก อาจใช้การเจาะเป็น 3 จุดเล็กๆ ก็ได้) หลังจากกรีดแผลแล้ว แพทย์จะทําการตัดหนังส่วนเกินออกไป หากมีไขมันมาก ก็จะเลาะไขมันออกไปด้วย โดยมากมักจะมีการเลาะไขมันและกล้ามเนื้อออกไปบางส่วน ในการผ่าตัด แพทย์มักจะใช้เลเซอร์ CO2 ช่วยในการเลาะ ซึ่งการใช้เลเซอร์ช่วย จะทําให้การผ่าตัดทําได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้เลือดออกน้อยลง ส่งผลให้เกิดอาการช้ำบวมน้อยกว่าการผ่าตัดธรรมดา
สําหรับการผ่าตัดคนที่มีกล้ามเนื้อตาตกข้างเดียว วิธีการผ่าตัดขึ้นอยู่กับลักษณะตาของแต่ละคนด้วย แพทย์มักจะทําการเย็บกล้ามเนื้อชั้นตาให้สูงขึ้น เพื่อให้ใกล้เคียงกับข้างที่ปกติ ความยากจึงอยู่ตรงที่ แพทย์จะต้องประเมินว่าจะต้องเย็บมากน้อยขนาดไหน เพื่อให้สองข้างพอดีกัน (การใช้เลเซอร์ช่วยในการผ่าตัดวิธีนี้ จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อได้ดีในระดับหนึ่ง) แผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่ระหว่างรอยพับของชั้นตา หลังผ่าตัด สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่จําเป็นต้องนอนรพ.
ผลลัพธ์ที่ได้
ปกติหลังทําไปแล้ว จะอยู่ได้ประมาณ 5-10 ปี แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการผ่าตัดแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาตกข้างเดียว อาจจะไม่ 100% (เมื่อเทียบกับกรณีหนังตาที่ตกจากอายุ) คืออาจจะเห็นผลลัพธ์ประมาณ 80-90%
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
หลังเข้ารับการรักษา จะมีอาการบวมในช่วง 2-3 วันแรก กรณีที่แพทย์ตัดหนังตาออกมากจนเกินไป หรือมีการเย็บรั้งสูงเกินไป อาจทําให้เกิดอาการตาเหลือก หรือหลับตาได้ไม่สนิท (ผลลัพธ์จึงขึ้นอยู่กับความชํานาญของแพทย์) ปกติแพทย์จะให้หลับและลืมตาให้ดูในระหว่างผ่าตัด ว่าสามารถหลับตาได้สนิทดี และไม่มีปัญหาเรื่องตาเหลือก เพราะถ้าเกิดปัญหา จะได้แก้ไขได้อย่างทันท่วงที (ในกรณีที่ตัดหนังตาออกมากเกินไป อาจแก้ไขโดยการไปคลายกล้ามเนื้อออกส่วนหนึ่ง หรืออาจจะต้องหาหนังส่วนอื่นมาเสริม ซึ่งวิธีการนี้ค่อนข้างยุ่งยาก การประเมินของแพทย์จึง ป็นสิ่งสําคัญ)
………………………………………………………………
หลังการผ่าตัด จะต้องประคบตาด้วยความเย็นประมาณ 3 วัน เพื่อลดอาการบวมช้ำ ไม่ควรยกของหนัก ในวันแรกไม่ควรขับรถ ไม่ขยี้ตารุนแรง งดโดนน้ำบริเวณแผลผ่าตัดจนกว่าจะตัดไหม โดยทั่วไป จะนัดตัดไหมประมาณ 7 วันหลังการผ่าตัด อาจจะรู้สึกบวมตึงหนังตาบนบ้าง แต่อาการจะหายไปได้เอง
เนื้อหาโดย Dodeden.com