เรื่องราวของ Sacha Harland หนุ่มชาวดัทช์ ได้ใช้ตัวเองในการทดลองเพื่อถ่ายทอดผลกระทบของการงดน้ำตาลและแอลกอฮอล์ จากการทดสอบเป็นเวลา 30 วัน โดยให้เพื่อนร่วมงานของเขาถ่ายทำเรื่องราวที่ท้าทายนี้
ก่อนที่ Sacha Harland จะเริ่มงดน้ำตาลและแอลกอฮอล์ เขาได้ไปตรวจร่างกายทั้งอย่างละเอียดเพื่อเป็นประโยชน์ในการเอาไว้เปรียบเทียบกับผลของสุขภาพของเขาในอีก 30 วันข้างหน้า ปรากฏว่า เขามีระดับโคเลสเตอรอลสูง ซึ่ง Sacha หวังว่าการควบคุมอาหารในครั้งนี้จะช่วยเปลี่ยนชีวิตของเขา
ในระหว่างการทดสอบ Sacha จะไม่ได้รับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและแอลกอฮอล์เลย เขาจึงจำเป็นต้องปรึกษากับนักโภชนาการเพื่อวางแผนในการควบคุมอาหาร โดยอาหารที่ควรรับประทาน คือ ผลไม้สด ผักสด น้ำมันปลา ถั่ว ไข่ โยเกิร์ต ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง คือ อาหารแปรรูป เช่น พิซซ่าและเบอร์เกอร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารว่างจำพวกบาร์ช็อคโกแลตและป๊อปคอร์น
“นี่เป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ” Sacha กล่าวในช่วงแรกของการทดสอบ เขาเริ่มหงุดหงิดเนื่องจากอาการขาดความหวาน ซึ่งนั่นทำให้เพิ่มความอยากบริโภคน้ำตาลมากขึ้น และในการทดสอบวันที่ 5 Sacha เริ่มเก็บตัวอยู่ในห้องเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะทำร้ายคนอื่น เพราะเขารู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารก็ได้อนุญาติให้เขารับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก น้ำมันปลา ถั่ว ซึ่งเป็นอาหารประเภทไขมันไม่อิ่มตัวได้
เมื่อมาถึงการทดสอบวันที่ 25 Sacha กล่าวว่า “ผมเพิ่งทำอาหารเช้าเสร็จและเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มการทดลองที่ผมไม่ต้องการอาหารหวานๆ เลยในตอนเช้า น่าประหลาดที่ร่างกายมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งตื่นง่ายขึ้นและรู้สึกมีพลังสำรองเหลือเฟือ”
ก่อนการทดสอบวัน 30 จะจบลง Sacha ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ผลที่ได้คือ น้ำหนักลดลง ความดันเลือดและระดับโคเลสเตอรอลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงระดับน้ำตาลในเลือดก็ลดลงเช่นกัน
ทั้งนี้ผลการทดลองดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพจิตใจและอารมณ์ของ Sacha ผ่านการรับมือของร่างกายที่การขาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “น้ำตาล” ได้อย่างชัดเจน ซึ่งน้ำตาลเป็นอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหารแต่อย่างใด และคนเราสามารถอยู่รอดได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลลงในอาหาร ในขณะเดียวกันร่างกายมนุษย์ก็สามารถรับน้ำตาลได้ตามที่ร่างกายต้องการ จากน้ำตาลธรรมชาติในอาหารหลายๆ ชนิด เช่น คาร์โบไฮเดรต เป็นต้น แต่ถ้าหากได้รับมากเกินไป ร่างกายจะสร้างอินซูลินมาเปลี่ยนกลูโคสจากคาร์โบไฮเดรต ให้เป็นไขมันและจัดเก็บไว้ในกล้ามเนื้อ ซึ่งก็จะแย่ไปอีกถ้าร่างกายมีไขมันที่มากเกินไป อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาได้อีกด้วย
Sacha กล่าวทิ้งท้ายก่อนจบวิดีโอการทดลองนี้ “ผมสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา การที่ผมไม่ได้รับสารปรุงแต่งอาหารและน้ำตาลทำให้ร่างกายของผมมีสุขภาพดีขึ้น ผมมีพลังมากขึ้นแม้จะสูญเสียน้ำหนักไป 8 ปอนด์ก็ตาม ความดันโลหิตก็ดีขึ้น ระดับคอเลสเตอรอลลดลงไปประมาณ 8% รวมไปถึงระดับน้ำตาลในเลือดก็ลดลงเช่นกัน ถึงแม้ว่าจุดเริ่มต้นเป็นเรื่องยากมาก แต่ในที่สุดผมก็สามารถดีท็อกซ์น้ำตาลออกไปได้และมันก็ทำให้สุขภาพดีขึ้นด้วย”
