คนไทยไม่หยุดสวย ไม่รวยก็ต้องเป๊ะ ยกกระชับใบหน้ามาแรงสุด “ หมอชลธิศ ” แชร์ความรู้ใหม่ในงานประชุม “ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย” เผยเทคนิค “Face lock” อีกขั้นของการยกกระชับใบหน้าที่เหมาะกับชาวเอเชีย ภูมิใจผลงานของแพทย์ไทย มุ่งถ่ายทอดต่อแพทย์ไทยเท่านั้น
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ได้มีการจัดงานประชุมประจำปี ครั้งที่ 1/2562 “ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2562 ณ โรงแรม The Zign พัทยา เป็นงานประชุมทางวิชาการของสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ ภายใต้พื้นฐานตามหลักวิชาการและจรรยาบรรณทางการแพทย์ เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถของสมาชิก รองรับการก้าวหน้าของโลกปัจจุบัน รวมทั้งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านศัลยกรรมใบหน้าในอาเซียน
ภายในงานมีหัวข้อการบรรยายที่น่าสนใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ อาทิ การบรรยายในหัวข้อ “Face-lock” โดยผศ.นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน หัวข้อ “Neck rejuvenation” โดย ผศ.พญ.ศริญญา อุราธรรมกุล คณะแพทย์ศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช หัวข้อ “Upper blepharoplasty” โดย นพ.ขันติ วิวัฒน์วิศวกร ศัลยแพทย์ดวงตา เป็นต้น
ผศ.นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านศัลยกรรมของประเทศไทยมีความก้าวหน้าไปมาก เนื่องจากประเทศไทยมีการทำศัลยกรรมตกแต่งมานานถึง 60-70 ปี จึงมีการพัฒนาทางด้านวิชาการทางด้านการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของการศัลยกรรมใบหน้าด้วยการยกกระชับใบหน้า หรือ Face Lift ได้เริ่มต้นขึ้นราว 30 ปีที่แล้ว และมีการวิจัยและพัฒนาให้มีความก้าวหน้าอยู่เสมอ ทำให้วิวัฒนาการของการยกกระชับใบหน้าของแพทย์ไทยมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับของคนไทยและต่างชาติมาโดยตลอด
“ในปัจจุบันการยกกระชับใบหน้า เป็นประเภทของการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุด และมีแนวโน้มที่เติบโตดีมาก เพราะความรักสวยรักงามของคนไทย ซึ่งปัจจุบันการตัดสินใจทำศัลยกรรมเป็นที่แพร่หลายไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มผู้มีกำลังซื้อเท่านั้น เรียกได้ว่า อดอะไรก็ยอมอดได้ เพื่อจะมีเงินสร้างความสวยความงาม เพราะปัจจุบันความสวยงามไม่ใช่แค่ภาพของความประทับใจ แต่หมายถึงบุคลิกภาพที่สร้างความมั่นใจให้กับคนในปัจจุบันอีกด้วย”
เทคโนโลยีของการยกกระชับใบหน้าได้มีการพัฒนาไปมาก ล่าสุดมีเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า “Face lift Face Lock” ซึ่งเป็นความก้าวหน้าของการยกกระชับใบหน้าที่เหมาะสมกับชาวเอเชีย ซึ่งไม่ได้มีปัญหาของความหย่อนคล้อยบนใบหน้ามากเหมือนกับชาวยุโรป ใช้เทคนิคการผ่าตัดเล็ก เพื่อการยกกระชับเฉพาะจุด ด้วยเทคนิคการ Lock เป็นจุดๆ จึงทำให้มีบาดแผลเล็กลง และใช้เวลาไม่นาน
“กว่า 60 ปีแล้วที่เราใช้เทคนิคทางวิชาการของฝรั่ง ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าไม่เหมาะกับคนในเอเชีย เพราะผิวหนังของคนเอเชียมีความตึงและหย่อนคล้อยเป็นบางส่วน ไม่ได้หย่อนคล้อยมากเหมือนคนยุโรป จึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแผลยาวๆ จากการพัฒนาและคิดค้น ทำให้พบกับเทคนิคการล็อคเฉพาะจุดใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่คิดค้นโดยคนไทย เพื่อทำให้ประสิทธิภาพของการยกกระชับใบหน้าอยู่ได้นานมากที่สุด ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุและสภาพผิวของคนแต่ละคนด้วย”
ปัจจุบันเทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้ามีหลายแบบ โดยการผ่าตัดเล็กด้วยเทคนิคเฟสล๊อค เป็นเทคนิคที่กำลังได้รับความนิยมมากทั้งลูกค้าชาวไทยและคนในแถบอาเซียน ซึ่งยอมรับถึงคุณภาพในการใช้บริการในคลินิกศัลยกรรมในเมืองไทย ทั้งนี้ “หมอชลธิศ” แนะนำว่า อายุที่เหมาะสมในการเข้ามาใช้บริการคือ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นอายุเฉลี่ยของคนไทยที่มีความหย่อนคล้อยของใบหน้าอย่างชัดเจน และเป็นช่วงที่ยังมีคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ที่ทำให้ผลของการยกประชับใบหน้าอยู่ได้นานกว่าผู้ที่มีอายุมากราว 60 ปีขึ้นไป โดยเฉลี่ยแล้วการศัลยกรรมใบหน้าด้วยเทคนิค Face lock จะคงประสิทธิภาพที่ประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับสุขภาพของคนไข้
สำหรับการบรรยายในหัวข้อ Face lock ถือเป็นครั้งแรกในการถ่ายทอดความรู้เรื่อง Face lock ที่หมอชลธิศได้ทำการศึกษามานาน ซึ่งก่อนหน้ามีการถ่ายทอดความรู้ให้กับแพทย์ในสถาบันการศึกษาไปบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เทคนิค Face lock จะได้รับการสงวนไว้สำหรับแพทย์ไทยที่อยู่ในสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียนเท่านั้น โดยทางสมาคมมุ่งมั่นในการให้ความรู้ใหม่กับสมาชิกเพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของแพทย์ไทย ภายใต้จรรยาบรรณที่ถูกต้อง
ผศ.พญ.ศริญญา อุราธรรมกุล คณะแพทย์ศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า ปัจจุบันความก้าวหน้าทางด้านการศัลยกรรมใบหน้ามีการเติบโตอย่างมาก พร้อมเทคนิคที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ การดูดไขมันส่วนเกิน ซึ่งปัจจุบัน มีการนำไขมันเหล่านั้นไปพัฒนาทางการแพทย์อีกหลายอย่าง รวมทั้งการนำมาใช้เติมสัดส่วนให้กับใบหน้า ซึ่งแพทย์ไทยมีความสามารถอย่างมาก ทำให้มีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามาทำศัลยกรรมในประเทศไทย ซึ่งนอกจากคุณภาพและมาตรฐานแล้วยังมีเรื่องของราคาที่ช่วยในการตัดสินใจได้ด้วย