หมอนิจ ธิตินิจ แพทย์หญิงประจำ Fortune Clinic อีกหนึ่งแพทย์หญิงที่อยากจะมาแนะนำให้ทุกๆ คนได้รู้จักกันอีกแล้วค่ะ สำหรับคุณหมอนิจ คุณหมอที่ประจำอยู่ที่ฟอร์จูนคลินิก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งลูกศิษย์ของคุณหมอเฉลิม คุณหมอนิจจะเป็นใครมาจากไหน และเหตุใดถึงตัดสินใจมาเป็นคุณหมอที่ฟอร์จูนคลินิกไปทำความรู้จักกันเลยค่ะ
ทำไมถึงเลือกที่จะเรียนหมอคะ?
“ตอนเด็กๆเป็นเด็กธรรมดา ปานกลางที่ไม่ได้มีความสนใจด้านไหนเป็นพิเศษ ประมาณว่าจะให้เรียนอะไรก้อได้ ทางครอบครัวเลยแนะนำว่า เรียนหมอมั้ย อยากให้มีคนในครอบครัวจบหมอซักคน เราก็รู้สึกว่ามันก็น่าจะยากนะ แต่ก้อจะลองดู สุดท้ายก็เลยได้เรียนค่ะ”
อยากทราบว่า ทางคุณหมอจบจากมหาวิทยาลัยที่ไหนมาบ้างคะ?
“จบ แพทยศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ จ พิษณุโลกค่ะ จากนั้นจบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน โสต ศอ นาสิกวิทยา จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ แล้วมาต่อยอดอนุสาขา ทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า ที่ รพ จุฬาลงกรณ์ค่ะ”
ทำไมถึงเลือกมาเป็นหมอทางด้านศัลยกรรมเสริมความงามคะ?
“เปนคนชอบเรื่องความสวยความงามอยุ่แล้ว หลังจากเรียนหู คอ จมูก ก้อพบว่ามีการเรียนต่อยอด เกี่ยวกับศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้าอีก 2 ปี จึงสนใจค่ะ”
แล้วเพราะอะไรถึงมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับอาจารย์หมอเฉลิมคะ?
“อาจารย์ที่เคารพที่จุฬาท่านนึง ที่รู้จักกับ อาจารย์เฉลิม ช่วยฝากฝังให้ค่ะ ตอนแรกคือได้มาดูอาจารย์เฉลิมผ่าตัด ก้อประทับใจมาก เพราะอารจารย์ผ่าละเอียดมาก เก็บทุกรายละเอียด จากนั้น อาจารย์เมตตาเลยรับให้มาทำงานด้วยค่ะ”
ปัจจุบันได้ผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่ใดบ้างคะ?
“ทำที่ฟอร์จูนคลินิคที่เดียวค่ะ”
เวลาว่างหลังไม่ได้ทำศัลยกรรมคนไข้ คุณหมอมี life style ยังไงบ้างคะ?
“เหมือนคนทั่วๆไปนะคะ ดูหนัง ฟังเพลงออกกำลังกาย หาของอร่อยๆทาน”
สุดท้ายนี้ อยากให้คุณหมอนิจฝากข้อคิดถึงคนที่คิดจะทำศัลยกรรมหน่อยค่ะ
“การทำศัลยกรรมมีทั้ง 2 ด้าน หากตัดสินใจทำ ควร 100% กับมัน ต้องเข้าใจว่ามีทั้งผลดีและในบางครั้งอาจมีผลแทรกซ้อนได้ ผลดีคือ เรื่องความสวยงาม ทำให้คนๆนั้นสวยมากขึ้น ซึ่งอันนี้ไม่มีปัญหาเพราะเป็นความต้องการของคนที่จะทำอยู่แล้ว แต่อย่่างที่ 2 คือ การผ่าตัดทุกอย่่งสามารถมีผลแทรกซ้อน หลังทำที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งอันนี้ในฐานะที่เราเปนหมอผ่าตัด เราไม่ได้ต้องการให้มันเกิด แต่บางครั้งมันก็เกิดขึ้นมา ซึ่งอันนี้จะเป็นปัญหาเพราะคนไข้จะรับไม่ได้ ดังนั้น ความรับผิดชอบ การดูแลและการเข้าไปแก้ปัญหา ของหมอเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ”