ที่มา: Matichon Online

เมื่อวันที่ 29 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีหญิงวัยวัยรุ่นคนหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวิดิโอ ผ่านโซเซียลมีเดีย สอนการฉีดสาร ที่อ้างว่าเป็นสารเมโสเข้าที่ใบหน้า โดยบอกว่าฉีดเข้าไปแล้วทำให้ใบหน้าใสอ่อนเยาว์ พร้อมทั้งโฆษณาว่าตัวเองเป็นเจ้าของสารดังกล่าวเอง 

รศ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ปัจจุบันการทำเมโสหรือการฉีดสารบางอย่างเพื่อหวังให้ใบหน้าขาวใสนั้น ยังไม่ได้รับการรับรองว่าเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ และสารที่ฉีดเข้าไปนั้นยังไม่ได้รับการรับรองว่าได้ผลจริง ดังนั้นเมื่อมีการรับรองทางการแพทย์ ทางอย.จึงไม่ได้ให้การรับรองสารที่อ้างว่าเป็นการทำเมโสในประเทศไทยแม้แต่ตัวเดียว ที่สำคัญคือ การใช้เข็มฉีดเข้าที่ใบหน้านั้นแม้กระทั่งแพทย์เป็นผู้ดำเนินการยังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ อาทิ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อวัณโรค เพราะฉะนั้นหากประชาชนฉีดเองจึงยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้ เพราะไม่มีความชำนาญ นอกจากนี้ยังไม่ทราบว่าสารที่ฉีดเข้าไปนั้นเป็นสารอะไรกันแน่จึงอาจจะทำให้เกิดอันตราย การแพ้ยา แพ้สารเคมี เนื่องจากปฏิกิริยาของแต่ละคนไม่เหมือนกันดังนั้นเกิดผลเสียหายถาวรได้ เพราะส่วนใหญ่พวกนี้จะเป็นคอกเทลสารหลายๆ ตัวผสมกัน

38

“ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาจากการทำอย่างนี้บ้าง ที่เจอส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการติดเชื้อ ดังนั้นอยากจะขอเตือนประชาชนว่าไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้ เสียงต่อการติดเชื้อ รุนแรงหน่อยก็เป็นแผลเรื้อรัง ติดเชื้อในกระแสเลือดยิ่งน่ากลัวใหญ่ และการฉีดบริเวณรอบดวงตาอาจจะอันตรายได้” รศ.นภดล กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เป็นบุคคลทั่วไปไม่ได้มีใบประกอบโรคศิลปะมาทำการสอนใช้สารเคมี โดยเฉพาะการใช้เข็มฉีดยาเพื่อฉีดสารต่างๆ เข้าร่างกายถือว่ามีความผิดหรือไม่ รศ.นพ.นภดล กล่าวว่า ที่จริงเขาไม่ได้ทำให้คนไข้จริง จึงไม่ถือว่าเป็นหมอปลอม แต่การเอาสารต่างๆ มาขาย โดยที่ยา หรือสารนั้นๆ ไม่ได้ผ่านการรับรองจาก อย.ก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยาทา หรือยาฉีดก็ตาม

ด้าน ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาก่อนว่า เนื้อหาการโฆษณาเป็นอย่างไรและจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ แต่การขายยา หรือ เครื่องมือแพทย์ ตามกฎหมายระบุว่า ต้องขออนุญาต ถ้าทำโดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะเข้าข่ายความผิด และเมื่อพิจารณาจากลักษณะการโฆษณาที่นำเข็มฉีดยามาจิ้มบนใบหน้านั้น ตามหลักกฎหมาย เข็มฉีดยา ถือเป็นเครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่ง การนำสารใดๆ มาฉีดเข้าร่างกาย จะเข้าข่ายเรื่องของการประกอบโรคศิลปะ ซึ่งผู้กระทำต้องมีใบประกอบโรคศิลปะ ส่วนน้ำยาหรือยาที่ขายในเข็มนั้น ก็ต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ซึ่งตามกฎหมายได้มีข้อกำหนดไว้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวจะมีการตรวจสอบต่อไป

“สำหรับประชาชนอยากเตือนว่า การตัดสินใจนำสารใดๆเข้าร่างกาย จำเป็นต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ หากอุปกรณ์ไม่สะอาดจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง หากไม่ระวังเข็มถูกเส้นเลือด หรือ เส้นประสาท ซึ่งที่ใบหน้าจะตื้นกว่าผิวหนังทั่วไป ก็อาจะทำให้เสี่ยงต่อการทำให้ใบหน้าอักเสบหรือผิดรูปได้ การใช้อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ จึงต้องกระทำโดยบุคคลที่เชี่ยวชาญ มีความชำนาญ และใช้น้ำยาที่ได้รับการรับรองจากอย. รวมทั้งเครื่องมือที่สะอาด” ภก.ประพนธ์ กล่าว

เรื่องน่าสนใจ