ที่มา: dodeden

เรียบเรียงข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม

ภาพประกอบจาก  โดดเด่นดอทคอม

หากพูดถึง หอยนางรม หลายคนคงจะน้ำลายไหล เพราะด้วยความอร่อย และ คุณประโยชน์มากมาย โดยหอยชนิดนี้เป็นอาหารทะเลที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย เป็นอาหารที่จัด ได้ว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง

เนื้อหอยนางรมนอกจาก จะใช้รับประทานสด และปรุงอาหารได้หลายอย่างไว้ ยังแปรรูปเป็นอาหารสำเร็จรูปได้อีก เช่นหอยนางรมดอง หอยรมควัน และสกัดเป็นน้ำมันหอย

สำหรับ “หอยนางรม” สถาบันหัวใจและปอดแห่งชาติของแคนาดา ระบุว่า เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เป็นแหล่งของวิตามินเอ (Vitamin A) วิตามินบีหนึ่ง (Vitamin B1) วิตามินบีสอง (Vitamin B2) วิตามินบีสาม (Vitamin B3) วิตามินซี (Vitamin C) และวิตามินดี (Vitamin D)

การบริโภคหอยนางรมตัวที่มีขนาดกลาง 4-5 ตัว ช่วยให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุประเภทเหล็ก ทองแดง ไอโอดีน แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี แมงกานีส และฟอสฟอรัส

สถาบันหัวใจและปอดแห่งชาติของแคนาดา ระบุว่า หอยนางรมอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร คือเป็นแหล่งของวิตามินเอ บีหนึ่ง (ไทอามิน) บีสอง (ไรโบฟลาวิน) บีสาม (ไนอาซิน) ซี (กรมแอสคอร์บิค) และดี (แคลซิฟีรอล)

การบริโภคหอยนางรมตัวที่มีขนาดกลาง 4-5 ตัว ช่วยให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุประเภท แร่เหล็ก ทองแดง ไอโอดีน แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี แมงกานีสและฟอสฟอรัส

ประโยชน์ของหอยนางรม เพิ่มความรู้สึกทางเพศในผู้ชายมากขึ้น ,ช่วยรักษาและป้องกันการเป็นหมันในผู้ชาย,ป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากอักเสบ

ควบคุมความดันโลหิต , ควบคุมการแลกเปลี่ยนของออกซิเจนในเซลล์ และ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ

เรื่องน่าสนใจ