เอเอฟพีรายงานวันที่ 23 ม.ค. กลุ่มอนุรักษ์อียิปต์แถลงว่า จะฟ้องร้องนายมาห์มูด อัล-ดามาตี รมว.โบราณวัตถุสถาน เพื่อเอาผิดในกรณีที่การบูรณะหน้ากากจากโลงพระศพกษัตริย์ตุตันคามุน ฟาโรห์ผู้เลื่องชื่อที่สุดของอียิปต์ เป็นไปโดยผิดพลาด
ปรากฏรอยกาวบริเวณเคราที่เชื่อมต่อกับคางอย่างชัดเจน ทั้งที่หน้ากากอายุ 3,000 ปี เป็นสมบัติที่ประเมินค่ามิได้
เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์รายหนึ่งเปิดเผยว่า บริเวณเคราหลุดออกมาโดยอุบัติเหตุ ช่วงที่ทีมงานแกะหน้ากากออกมาจากโลงเพื่อซ่อมแซม จังหวะดังกล่าวหน้ากากหลุดมือเกือบจะไปชนกับโลง
ช่างจึงรีบเอาแขนกั้นไว้ไม่ให้หล่น แต่ปรากฏว่าไปโดนบริเวณเคราเข้าจนหัก ซึ่งบริเวณดังกล่าวเคยหลุดออกมาก่อน แต่ความที่ช่างตกใจก็เลยรีบเอากาวติดไว้ด้วยอาการลุกลี้ลุกลน ปรากฏว่าอีพ็อกซี่นั้นแห้งเร็วมาก จึงทิ้งรอยกาวไว้ให้เห็น ความจริงแล้วต้องใช้วัสดุอื่นที่แห้งช้า บางทีอาจต้องนานหลายชั่วโมง หรือเป็นวัน
นายมาห์มูด อัล-เฮลวากี หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ และรัฐมนตรีดามาตี ต่างปฏิเสธว่าการบูรณะเป็นไปโดยประมาท โดยนายเฮลวากียืนยันว่า การใช้กาวอีพ็อกซีซ่อมแซมโบราณวัตถุนั้นเป็นวัสดุที่ใช้กันสากล
“ข้อกล่าวหานี้ไร้เหตุผลและเกินกว่าจะเข้าใจได้ทีมที่มาบูรณะเป็นเจ้าหน้าที่อนุรักษ์นะไม่ใช่ช่างไม้”หัวหน้าพิพิธภัณฑ์กล่าวขณะที่รัฐมนตรียืนยันว่างานทำอย่างถูกต้อง แต่ไม่อธิบายว่าเหตุใดผู้เชี่ยวชาญถึงต้องไปซ่อมแซมส่วนใบหน้า
ด้านโมนิกาฮันนา ผู้เชี่ยวชาญอียิปต์ศาสตร์กล่าวว่า ตอนที่เห็นตกใจมาก ตนและสมาชิกของกลุ่มอนุรักษ์จะนำเรื่องฟ้องร้องต่ออัยการ ว่าทีมบูรณะจัดการผิดพลาด เข้าข่ายปล้นทำลายโบราณวัตถุของประเทศ