สำนักข่าวรอยเตอร์ส มีรายงานเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2557 ว่า อาเจะห์ จังหวัดหนึ่งบนเกาะสุมาตรา ของอินโดนีเซีย ได้ผ่านกฎหมายการลงโทษผู้มีความประพฤติเข้าข่ายรักร่วมเพศ ด้วยการโบย 100 ที จำคุก 100 เดือน และปรับเป็นทองคำ 1,000 กรัม นับเป็นจังหวัดเดียวของอินโดนีเซียที่นำกฎหมายอิสลามมาบังคับใช้ปกครอง ในขณะที่กฏหมายกลางของอินโดนีเซียไม่มีข้อบังคับนี้
ทั้งนี้ อาเจะห์ได้ต่อสู้เรียกร้องเพื่อขอแบ่งแยกดินแดนออกจากอินโดนีเซียมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งได้มีการลงนามเห็นชอบให้อาเจะห์เป็นเขตการปกครองพิเศษในปี 2548 นำมาสู่การสามารถมีกฎหมายเป็นของตนเองได้
อย่างไรก็ดีกฎหมายประการนี้จะยังไม่มีบังคับใช้ในทันที แต่จะค่อย ๆ เริ่มปรับเปลี่ยนไปสู่กระบวนการลงโทษตามกฎหมายอิสลามทีละนิด โดยทางจังหวัดชี้ว่า แต่ละหมู่บ้านจะต้องมีผู้นำกฎหมายไปบังคับใช้อย่างน้อย 1 คน ซึ่งนอกจากจะเป็นบทลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดฐานรักร่วมเพศแล้ว ยังรวมถึงการก่ออาชญกรรมทางเพศ การกอดจูบจับมือถือแขนทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน การนอกใจ และการล่วงละเมิดทางเพศแก่เยาวชนด้วย
ในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดอาเจะห์ได้บังคับใช้กฎหมายอิสลามอย่างเคร่งครัด ทั้งการควบคุมสตรีมิให้ใส่เสื้อผ้ารัดรูปแนบเนื้อ ต้องส่วมใส่ผ้าคลุมใบหน้าตลอดเวลา ตลอดจนควบคุมเรื่องการเล่นพนันและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเมื่อยิ่งมีการผ่านกฎหมายประการล่าสุดออกมา ก็ยังมาซึ่งความตื่นตัวของกลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้ประกอบการธุรกิจในอาเจะห์ ซึงเกรงว่ากฎหมายอิสลามที่เข้มข้นจะทำให้นักธุรกิจไม่กล้าเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้
ที่มา: กระปุกดอทคอม
