เป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้วที่ “อิ้งค์-วรันธร เปานิล” ได้โลดแล่นในเส้นทางดนตรี เราได้ติดตามผลงานและการพูดคุยของเธอในหลากหลายสื่อ ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกที่ อิ้ง มานั่งเปิดใจพูดคุยกับ วู้ดดี้ เกี่ยวกับเรื่องรัก เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยพูดเรื่องความรักแบบลึกซึ้งเลย อีกทั้งเรื่องราวที่เคยสอบไม่ติดจนกลายมาเป็นคนคิดเยอะในทุกๆ เรื่อง และวันนี้เธอจะมาเปิดใจพูดคุยครั้งแรกผ่านรายการ Woody FM

 

อิ้งค์ วรันธร

 

การเป็น อิ้งค์ วรันธร สำหรับวู้ดดี้รู้สึกว่าเพลงได้เข้าไปอยู่กลางใจทุกคน มีโมเม้นต์แบบที่เราเจอ มันเป็นความรู้สึกจริง ชอบอะไรมากที่สุดเวลาเราได้ฟีคแบคจากแฟนๆ ชอบโมเม้นต์แบบไหน ?
อิ้งค์ วรันธร : ชอบโมเม้นต์ที่เวลาเราร้องเพลง หรือว่าปล่อยเพลงอะไรไป มีคอมเมนต์กลับมาว่าเหมือนพี่พูดแทนหนูเลย ทำไมพี่รู้ว่าตอนนี้หนูรู้สึกอะไรอยู่ สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราตั้งใจทำงานกับพี่ๆ คอนเทนต์ที่เรานั่งหามาเป็นเพื่อนเขาในวันนี้ ไม่ว่าเขาจะแอบรักใครสักคนอยู่ วันที่เขาอกหัก วันที่เขาคิดมาก เสียใจ รู้สึกว่าดีจังเลยที่เขามาบอก มันทำให้เราแฮปปี้อยากทำงานต่อ

เราใช้เซ้นส์ยังไง ?
อิ้งค์ วรันธร : มันเป็นเพราะความพอดีของตัวเองว่าตัวเราเคยผ่านความรู้สึกนี้มาไหม ถ้าเราไม่เคย เราสามารถเล่ามันอย่างสบายใจได้ไหม หรือสามารถเล่าได้โดยไม่รู้สึกเคอะเขิน อิ้งค์เป็นคนกลางๆ ด้วยแหล่ะเวลาจะทำอะไร คือจะไม่ใช่คนที่จะถ้าเศร้าก็ร้องไห้สุดโต่ง หรือถ้าอกหักร้องไห้จนไม่เหลืออะไรเลย จะไม่ใช่คนที่เกลียดใครแล้วเกลียดเลย อาจเป็นเพราะเราเป็นคนแคร์ความรู้สึกของคนมากๆ ด้วย เวลาเกิดอะไรขึ้น มีปัญหาเรื่องต่างๆ เราจะคิดแทนฝั่งตรงข้ามมากๆ อาจจะไม่ได้คิดในมุมของเราคนเดียว

เป็นคนคิดเยอะไหมครับ ?
อิ้งค์ วรันธร : เยอะมากค่ะ เยอะจนคนรอบตัวรู้ จนกลายเป็นโจ๊กไปเลย เรื่องขำไปเลยก็มี แบบเจอเหตุการณ์คือขำมองหน้ากัน รู้เลยว่าอิ้งจะพูดอะไรขึ้นมา หรือจะเป็นอะไรกับเหตุการณ์นี้

 

 

เคยวิเคราะห์ไหมว่าการคิดเยอะมาจากอะไร ?
อิ้งค์ วรันธร : คิดว่าน่าจะเริ่มช่วง ม.ปลาย เพราะว่าเคยผิดหวังมาก่อน ตอนสอบเข้าแผนการเรียนตอน ม.3 ที่จะเข้า ม.4 คือสอบไม่ติดที่เราอยากได้ ก็เลยทำให้เราได้มาเรียนด้านดนตรี หันเข็มทิศมาทางดนตรีล้วนๆ เพราะไม่อยากรู้สึกถึงตอนที่เราสอบเข้าไม่ติด แล้วทุกคนเฟลกับเรา

ความรู้สึกวันนั้นเป็นยังไง ?
อิ้งค์ วรันธร : เป็นวันที่ประกาศผลแผนการเรียน เขาจะแปะบอร์ดกลางโถงโรงเรียน พอพักเที่ยงทุกคนก็จะวิ่งไปดู ชื่อเราอยู่ไหนก็หาไม่เจอ แต่ไปเจอในรายชื่อสำรองอันดับ 1 แล้วไม่มีใครสละสิทธิ์เลย กลายเป็นว่าเพื่อนๆ ทุกคนเฮ ๆ กัน แล้วตัวเราคือโลกมืดอยู่คนเดียว เหมือนไฟดับ ตอนนั้นเศร้าแล้วรู้สึกว่าถ้าต้องอยู่ในวันประกาศผลอีกสักครั้งเราจะต้องไม่เจอเรื่องนี้ ตั้งเป้าเลย ฉันจะทำให้ได้ เลยกลายเป็นเครียดขึ้นในการเรียน ไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวัง สรุปก็เลยเข้าดนตรี ตั้งเป้าเลยว่าจะเข้า ม.จุฬาฯ เข้าคณะนี้ เอกนี้ แล้วก็มุ่งอย่างเดียว คิดว่าเป็นคนกลัวความล้มเหลวเป็นเพราะวันนั้นเลย

การสอบตกในวันนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องที่แย่ แต่วันนี้กลับกลายเป็นเรื่องดี เธอเอาพลังงานตรงนั้นมามุ่งเป็นศิลปิน เท่าที่ดูอิ้งให้สัมภาษณ์มาโดยตลอด อิ้งไม่เคยพูดเรื่องความรักเลยแบบลึกซึ้ง เป็นเพราะอะไร ?
อิ้งค์ วรันธร : เราพูดคุยกับทีมงานที่ค่ายรู้สึกว่าไม่อยากให้คนมาโฟกัสหรือว่ามามองเราที่ไม่ใช่เรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องงาน ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เข้ามาก็รู้สึกว่าเรามาทำงาน มาทำเพลง ไม่อยากให้เรื่องอื่นๆ มากลายเป็นว่า เราไปดังเพราะเรื่องอื่นหรือว่าคนไปสนใจเราเพราะเรื่องอื่น อยากให้ตัวเองเป็นศิลปินที่เป็นศิลปินจริงๆ ก็เลยทำให้อาจจะไม่ได้มีเรื่องอัพเดตอะไรกับใครเขาเท่าไร เวลาที่พี่นักข่าวถามค่ะ

 

 

ถ้าเกิดเขาจะคุยเรื่องคนรักหรือแฟน เราอายไหม ?
อิ้งค์ วรันธร : ไม่อาย แต่คืออิ้งค์เป็นคนชอบอ่านคอมเมนต์ บางทีแม้กระทั่งอิ้งโพสต์รูปคู่กับพี่ทีมงาน เป็นครีเอทีฟที่ดูแลอิ้งมา แค่ยืนถ่ายรูปคู่ด้วยกันลงเพจตัวเองอัพเป็นอัลบั้มนะคะ แต่รูปนั้นมีคนคอมเมนต์เยอะสุด ไลค์และแชร์เยอะสุด ถามว่ามันเป็นใคร พี่เขาเป็นเหมือนผู้มีพระคุณที่ทำให้อิ้งมีเพลงต่างๆ ให้ทุกคนได้ฟังในวันนี้ แต่อยู่ๆ ก็มาโดนเรียกว่า ใครว่ะ มันเป็นใคร เลยคิดว่าเรื่องอะไรแบบนี้มันทำให้อิ้งไม่อยากเอาคนที่เขาไม่ได้อยู่ในจุดที่จะมาเป็นคนที่โดนพูดถึงเรื่องต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะยอมรับได้มั้ง

อิ้งมีคนรักเยอะมาก ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ?
อิ้งค์ วรันธร : เคยนั่งคุยกับเพื่อนๆ ค่ะ เขาบอกเหมือนเราประมาณว่าเป็น เกิร์ลเฟรนด์แมทิเรียล คือ อิ้งอาจจะไม่ได้เป็นผู้หญิงที่สวยมากหรือเพอร์เฟคมาก แต่ดูง่ายๆ เรียบๆ ดูอยู่ด้วยได้ เป็นแฟนได้ อะไรประมาณแบบนั้นค่ะ

เรากำลังพูดถึงเรื่องนี้ เกิร์ลเฟรนด์แมทิเรียล มาจินตนาการกันในความสัมพันธ์อยู่ตอนนี้ อยากจะรู้ว่าอิ้งในความสัมพันธ์จะเป็นแบบไหน ต้องเลือกกินข้าวร้านอาหาร เราให้เขาเลือก เราเลือก หรือร่วมกันเลือก ?
อิ้งค์ วรันธร : ส่วนมากจะเหมือนว่าช่วยกันเลือก แต่สุดท้ายเป็นเราเลือกอะไรแบบนี้ค่ะ (หัวเราะ)

แล้วเขารู้ไหมว่าเราเป็นแบบนี้ หรือยังคงถามกันอยู่เหมือนเดิม ?
อิ้งค์ วรันธร : รู้สึกว่าใครที่จะมาเป็นแฟนอิ้ง หรือว่าคบกับอิ้งได้ จะต้องเป็นคนที่แบบรู้เรา อ่ะ! ให้ไปเหอะ อะไรแบบนี้ ไม่เรื่องเยอะ

 

 

สมมุติว่าเรากำลังคบกับใครอยู่แล้วทะเลาะกัน จะเคลียร์เลยหรือเคลียร์พรุ่งนี้หรือเดี๋ยวว่ากัน ?
อิ้งค์ วรันธร : เป็นคนเคลียร์เลยค่ะ ต้องคุยให้จบเลย เพราะเป็นคนคิดมากด้วย แล้วยิ่งเป็นคนที่เรารักก็จะยิ่งคิดมากยิ่งขึ้นไปอีก แล้วถ้าเกิดว่าปล่อยให้ถึงพรุ่งนี้ไมน่าดี ไม่น่าจะนอนหลับต้องเคลียร์เลย

แสดงว่าก่อนหน้านี้ไม่เคลียร์แล้วเราคิดเยอะ ?
อิ้งค์ วรันธร : ตอนช่วงเด็กๆ มหาลัย ช่วงมีแฟนแรกก็จะงอนข้ามวัน ก็เลยรู้สึกเหมือนมันไม่ได้อะไร พอเราเก็บเรื่องนี้แบกไปหลายๆ วัน เพราะรอว่าเมื่อไหร่เขาจะมาง้อไปเรื่อยๆ กลายเป็นว่าเราเองก็เครียด เขาเองก็ไม่ได้คำตอบ ต่างคนก็ต่างอารมณ์เสียกันไปหลายๆ วัน แบกเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราจะมีแฟน เราก็ต้องเคลียร์เลย คิดว่าถ้าเกิดปัญหาการพูดคุยเป็นคำตอบที่ดี ที่สุดแล้ว เอาให้มันจบ เหมือนหาทางออกร่วมกัน

แล้วแฟนต้องทำอะไรให้เรารู้สึกสดใสเหลือเกิน ต้องเซอร์ไพร์ส พูดจาดีๆ หรือแค่กอดแล้วก็สัมผัสพอแล้ว เราเป็นคนแบบไหน ?
อิ้งค์ วรันธร : แค่อยู่ด้วยกัน นั่งข้างๆ กันก็แฮปปี้แล้ว ไม่ต้องทำอะไรที่เวอร์วัง หรือเซอร์ไพร์ส แค่ไปกินข้าวกันก็แฮปปี้แล้ว

วัยเด็ก Puppy Love ตอนนั้นคือยังไง ?
อิ้งค์ วรันธร : ถ้าเอาแบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย เป็นช่วง ม.1 เด็กมากเลย เป็น Puppy Love ตั้งแต่อิ้งพึ่งเข้าโรงเรียนเป็นเด็กใหม่ ด้วยความตอนนั้นเราตัวสูงมาตั้งแต่ ม.1 เลยทำให้ดูเหมือนโตเป็นสาวไว ได้ไปเป็นลีดของโรงเรียน แล้วก็มีรุ่นพี่หลายๆ คน แล้วก็กลายเป็นว่ามีรุ่นพี่ ม.6 คนหนึ่งที่เรารู้สึกว่าน่ารักจังเลย ชอบแกล้งกัน แซวกัน ก็เลยรู้สึกดีๆ ว่าพี่เขาน่ารัก แล้วมีวันหนึ่งได้ประกวดร้องเพลงของโรงเรียน ระหว่างที่ประกวดร้องเพลงรอบชิงพี่เขาก็บอกว่าเขาจะไม่มาดู เราก็โอเคไม่เป็นไร เพราะเขาไม่ว่าง แล้วพอเราร้องเพลงใกล้จะจบเพลง เขาก็เดินลงมาจากอาคารถือดอกไม้มาให้เราที่บนเวที อันนี้ก็เป็นความ Puppy Love ครั้งแรกที่ยังรู้สึกว่ากรี้ด เพื่อนๆ ก็กรี้ดกันหมด มันใสๆ น่ารักๆ ค่ะ

เป็นครั้งแรกที่ อิ้ง วรันธร พูดเกี่ยวกับมุมมองความรักในหลากหลายมิติ เชื่อว่าหลายคนอยากฟังจากปากเธอว่าตกลงแล้วสเปคในใจเป็นแบบไหน?
อิ้ง วรันธร : มีครั้งหนึ่ง อิ้ง เคยไปสัมภาษณ์ในรายการของ ก้อย อรัชพร ว่าไม่ชอบผู้ชายตี๋ขาว ชอบคมเข้ม แล้วก็กลายเป็นไวรัลเลย ผู้ชายในโซเชียลแชร์กันว่าผมไม่ตี๋ขาวนะครับ และมี DM มาหาอิ้งว่าแบบนี้จะคมเข้มพอไหมเยอะมาก จนอิ้งตกใจ ในรายการนี้อิ้งขอพูดให้มันกลางๆ นะคะ (หัวเราะ) จะได้ไม่มี DM มา

ตอนนี้เป็นยังไง?
อิ้ง วรันธร : …

 

 

สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่

โดดเด่น
ศัลยกรรม
webdodeden

 

ป้ายกำกับ: |

เรื่องน่าสนใจ