กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์ สำหรับสาวสวยเจ้าของฉายา “น้องแนนนี่ นมโต” ผู้ทุ่มเงินเกือบล้านพลิกโฉมทำศัลยกรรมตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ปีหนึ่งยันปีสี่ จบออกมากลายเป็นสาวสวย ทำเอาเพื่อนร่วมห้องพากันจำไม่ได้กันหลายคน
เพราะเปลี่ยนไปมาก สวยขึ้นผิดหูผิดตา แต่น้องแนน ไม่อายไม่เถียงว่าทั้งหมดทั้งมวล เพราะศัลยกรรมล้วนๆ
“หนูเรียนที่ ม.ศรีปทุม ตอนเรียน ป.ตรี จบปุ๊ปก็เรียนต่อ ป.โท ที่นี่เลยค่ะ คือตอนเข้ามหาลัยใหม่ๆ แบบเพื่อนๆรอบตัวมีแต่คนน่ารัก สวยๆ มีเราที่แบบหน้าตาไม่ดี อย่าเรียกว่าทุเรศเลย แบบไม่ไหวจะเคลียร์จะดูดีกว่า คือเพลียกับหนังหน้าตัวเองมาก
จนกระทั่งตัดสินใจไปทำศัลยกรรมทำมาหลายรอบมาก ทำจมูกทำตา ทำปากทำจมูก คือส่วนไหนที่มันทำแล้วเราดูดีขึ้น หนูก็ทำ สำหรับแนน การทำศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติ คนเกาหลีเขาก็นิยมทำกัน ปรากฏยิ่งทำ เรายิ่งดูโอเค สุดท้ายก็เพิ่งไปทำนมมาใหม่ เรียกได้ว่าตอนนี้ถึงจุดที่แบบเรียกได้ว่าพีคสุดๆแล้วในชีวิตแนนค่ะ”
หลังจากสวย จากชะนีหน้าปลวกผู้ชายไม่อยากเข้าใกล้ ศัลยกรรมแปลงร่างกลายเป็นสาวสวยหน้าใสสไตล์เกาหลี จนหนุ่ม ๆ เข้าหา แจกเบอร์โทรแทบไม่ทัน
“เคยอ่านข่าวในเว็บไซต์ที่แบบมีผู้หญิงไปทำศัลยกรรมเพราะแบบขี้เหร่ขนาดโจรยังไม่คิดจะข่มขืน ประมาณว่ามีหน้าตาเป็นอาวุธ แนน ก็อารมณ์ประมาณนั้นเลยค่ะพี่ คือแบบไม่มีใครเข้ามาจีบเข้าคุยด้วย ผู้หญิงอย่างว่าแหละเรื่องแบบนี้ไม่มีใครยอมใคร พอเราไปทำศัลยกรรมมา พูดเลยแจกเบอร์โทรแทบไม่ทัน 5555 (หัวเราะ)”
ทั้งนี้ ตนลงทุนทำศัลยกรรมหมดเงินไปเกือบล้าน แต่มารับรีวิวสินค้าแค่หลักร้อย จนกลายได้ฉายาว่า เน็ตไอดอลเอื้ออาทรคนแรกของวงการเน็ตไอดอล
“ก็ตลกนะมีคนตั้งฉายาให้ แต่แบบโดยส่วนตัว หนูเองไม่คิดว่าเราดังหรือคนติดตามเป็นแสนๆหรือเป็นล้าน เอาเป็นว่าแนนมาถึงจุดนี้ก็ถือว่าภาคภูมิใจแล้วนะ เพราะจากผู้หญิงที่ไม่ได้สวย แต่ได้เพราะศัลยกรรมที่เริ่ดจนทำให้แนนชีวิตเปลี่ยนไป ถือว่าช่วยเหลือกันมากกว่า”
โดนเม้าท์ว่าเลียนแบบเน็ตไอดอลชื่อดังอย่าง แอมมี่ บอกรักผัว “ว้ายย!!! ไม่จริงค่ะ แนน ก็เป็นตัวของแนน เขาเป็นตัวของเขา เรามีแบบฉบับของเราเองค่ะ ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใคร ทุกวันนี้ก็แฮปปี้กับชีวิต เรียนใกล้จะจบปริญญาโท แล้วค่ะ สำหรับแนนเอง คิดว่าการเป็นตัวเราสำคัญที่สุด”
ส่วนกรณีมีคนด่าในโลกออนไลน์ว่าไปเรียนถึงปริญญาโท ไม่กลัวคนด่าว่าสมองคิดได้นี้เองเหรอ เพราะลงทุนทำศัลยกรรมเพื่อเป็นเน็ตไอดอลมันดูสวนทางกับความรู้และการศึกษา
“ก็มีคนว่าเราในมุมที่แบบเรียนสูงๆแบบนี้ยังสิ้นคิด คิดได้แค่นี้เหรอ แนนว่ามันก็ไม่ได้เสียหาย อย่างน้อยสิ่งที่เราทำนั้นมีความสุขที่จะทำ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอึดอัดใจ อีกอย่างเราไม่ได้ขอเงินเขากินเขาใช้ หาเลี้ยงชีวิตตัวเอง นอกนั้นแนนไม่สนใจ ใครจะวิจารณ์เรายังไง เพราะเรารู้ตัวเองดีมากที่สุดๆว่าเรากำลังทำอะไร คิดอะไรและผลลัพธ์มันจะออกมายังไง”