สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดการระบาดของโรคหนองในแท้ (gonorrhoea) สายพันธุ์ใหม่ ในเมืองทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ โดยการระบาดของโรคครั้งนี้เชื่อว่า มีจุดเริ่มต้นที่เมืองลีดส์ ซึ่งพบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันถึง 12 ราย ส่วนอีก 4 รายมีรายงานการพบที่เมืองแม็คเคิลสฟิลด์, โอลด์แฮม และสคันธอร์ป
ขณะที่การรักษาซึ่งนิยมใช้ต่อสู้กับโรคหนองในคือ การใช้ยาปฏิชีวนะ ceftriaxone ร่วมกับ azithromycin หรือ doxycycline ในกรณีที่มีการดื้อยา ceftriaxone ทว่ายา azithromycin ใช้ไม่ได้ผลสำหรับเชื้อหนองในสายพันธุ์ใหม่นี้
ทำให้ปีเตอร์ กรีนเฮาส์ ที่ปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพทางเพศจากเมืองบริสตอล เกิดความวิตกกังวล โดยระบุว่า อังกฤษควรต้องมีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนที่สุด ขณะที่แจน คลาร์กจากสมาคมสุขภาพทางเพศและเอชไอวีแห่งอังกฤษ กล่าวว่า เรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่สุมเสี่ยง ตราบใดที่ยังไม่มีวิธีการจัดการกับโรคหนองในสายพันธุ์ใหม่
ทั้งนี้ โรคหนองในหรือหนองในแท้ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Neiserria gonorrhoea ซึ่งจะทำให้เกิดเยื่อเมือกในระบบทางเดินปัสสาวะ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะ มีหนองสีเหลือง หากโรคแพร่กระจายตามส่วนต่างๆ จะเป็นอันตรายจากภาวะแทรกซ้อน รวมทั้งมีโอกาสรับเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์ได้ง่ายกว่าคนปกติด้วย