เนื้อหาโดย Dodeden.com

การไปนวดหน้าเป็นประจำหรือไปพบแพทย์ผิวหนังอย่างสม่ำเสมอนั้น คงไม่เท่ากับกับพฤติกรรมที่คุณกระทำต่อผิวหน้าตัวเองอยู่ทุกวัน เพราะพฤติกรรมบางอย่างเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าของคุณเสียสวย หรือต้องเผชิญกับปัญหาผิวร่วงโรยก่อนวัยได้

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
ก็อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าคนส่วนใหญ่มักเกิดอาการแพ้จากน้ำหอมกันบ่อยๆ ฉะนั้น จึงเป็นการดี ที่คุณจะหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมเอาไว้ก่อน เพราะบางทีเราก็แยกแยะไม่ค่อยได้ว่า…อะไรกันแน่ที่ทําให้ผิวของคุณเกิดอาการแพ้ขึ้นมา เนื่องจากน้ำหอมที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น บางทีก็มาจากธรรมชาติ บางทีก็ใช้สารเคมี นอกจากนี้ คุณยังควรหลีกเลี่ยงผงซักฟอกและสบู่ที่มีกลิ่นหอมด้วย เพราะอะไรก็ตามที่ต้องสัมผัสกับผิว สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ทั้งนั้น

ขัดผิวแบบเอาเป็นเอาตาย
ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนําว่า อย่าขัดผิวแรงเกินไปนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีผิวแพ้ง่าย เพราะผิวหนังจําเป็นต้องมีชั้นปกป้องจากมลภาวะต่างๆ ฉะนั้น การขัดผิวหน้าแรงๆ ก็เท่ากับการทําลายชั้นปกป้องบนผิวไป ทําให้ผิวเกิดผื่นแดงและอาการระคายเคืองต่างๆ ได้ง่าย นอกจากนี้ ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องสิว ก็ต้องระวังเรื่องการขัดผิวเป็นพิเศษด้วย เพราะจะยิ่งทําให้ปัญหาสิวลุกลามบานปลายได้มากขึ้น แถมยังทําให้เกิดอาการระคายเคืองชนิดที่ไม่สามารถจะใช้ผลิตภัณฑ์ หรือยาใดๆ มาเยียวยาปัญหาสิวได้เลย

ปล่อยผิวหน้าให้เปลือยเปล่า
สาวๆ ควรท่องให้ขึ้นใจเลยนะว่า คุณจําเป็นต้องเติมความชุ่มชื่นให้ผิวอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะหากปล่อยให้ผิวเปล่าเปลือย ปราศจากการบำรุงไปเรื่อยๆ ผิวก็จะเกิดอาการแห้ง และปัญหาริ้วรอยจะตามมาในที่สุด นอกจากนี้ ความชุ่มชื่นที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมบนผิวนั้น จะช่วยป้องกันโมเลกุลต่างๆ (ที่ทําให้ผิวมีอาการแพ้ง่าย เกิดสิว หรือผื่นแดง) ไม่ให้สามารถเข้ามาสร้างปัญหาภายในผิวได้ง่ายๆ ดังนั้น ควรทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจํา และควรทาซ้ำในระหว่างวันด้วย ถ้ารู้สึกว่าผิวต้องการความชุ่มชื่น

ไม่ยอมทาครีมกันแดดทุกวัน
เมื่อโลกเจริญรุดหน้ามาถึงยุคนี้แล้ว คงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ยังไม่รู้พิษภัยของรังสียูวีในแสงแดด ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่กลางแดดเปรี้ยงๆ ก็ตาม แต่รังสียูวีเอ (ที่เป็นตัวทําลายคอลลาเจนและอิลาสตินภายในผิว ส่งผลให้เกิดปัญหาริ้วรอยก่อนวัย) ก็สามารถซอกซอนเข้ามาทําลายผิวได้โดยคุณไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก และไม่ว่าคุณจะอยู่แต่ในบ้านหรือในออฟฟิศทั้งวัน ทุกๆ เช้า คุณควรทาครีมกันแดดให้เป็นนิสัย เชื่อเราเถอะ…แสงแดดคือตัวการร้ายที่ไม่ควรเอาผิวหน้าของเราเข้าไปเสี่ยงอย่างยิ่ง!

นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทําให้ผิวหน้าพังยับเยินได้ง่ายๆ แต่สาวๆ หลายคนก็ยังไม่ให้ความสําคัญกับการนอนหลับพักผ่อนกันสักเท่าไหร่ เราขอย้ำให้คุณตระหนักถึงพิษภัยของการนอนน้อยอีกครั้งว่า การนอนหลับพักผ่อนจะช่วยให้ผิวมีเวลาในการฟื้นฟูตัวเอง ลองสังเกตสิว่า ถ้าคุณอดหลับอดนอนหลายๆ คืนติดต่อกัน ผิวหน้าจะฟ้องออกมาเป็นความหม่นหมอง และซูบซีด นอกจากนี้ ยังทําให้เกิดความเครียดจนร่างกายและผิวต้องสร้างสารอนุมูลอิสระขึ้นมา ซึ่งสารอนุมูลอิสระนี้ ก็คือตัวทําลายล้างผิวนั่นเอง เพราะฉะนั้น ควรนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงจะดีที่สุด

และการดื่มน้ำเยอะๆ จะส่งผลดีต่อผิวเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้ผิวดูอิ่มเอิบ เปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์ ดังนั้น อะไรที่ทําให้ร่างกายขาดน้ำ ก็ย่อมจะทําให้คุณดูแก่ก่อนวัย จึงควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์กับกาแฟ เพราะสองสิ่งนี้จะทําให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ไม่ได้ ส่งผลให้เกิดอาการผิวแห้งตามมา

เรื่องน่าสนใจ