จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปในร้าน นางฟ้าคาราโอเกะ ย่านเมืองพัทยา จ.ชลบุรี แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาค้าประเวณี และไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ ซึ่งเรื่องราวยังเกี่ยวพันกับคนระดับบิ๊กอย่าง “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผบ.ตร. จนถูกสั่งเด้งยกแผง จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวสะเทือนวงการสีกากี แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น คล้อยหลัง 2 เดือน ตร. ระดับสารวัตรนายหนึ่งกลับมา และยัดเยียดข้อหาค้ากามอีก จนทำให้ “น.ส. ปะระนิสา ไชยนาพานิชย์กุล” หรือ “คุณเดียร์” เจ้าของร้านติดคุกฟรีเกือบปี รายการโหนกระแส วันที่ 7 พ.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.20 น. ได้เปิดใจสัมภาษณ์คุณเดียร์ รวมทั้ง “คุณสนุ๊ก” ซึ่งเป็นพยาน รวมทั้ง “ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์”
ครั้งก่อนคุณเคยมาร้องว่าร้านคุณถูกจับ?
เดียร์ : “ถูกจับโดนยัดข้อกล่าวหาค้ามนุษย์ค่ะ เราเป็นผู้ดูแลร้าน ร้านนี้เป็นของน้องชาย ชื่อว่าร้านนางฟ้าคาราโอเกะ อยู่ที่พัทยาสาย 3 มีตร.กลุ่มหนึ่งบุกไปที่ร้าน ไปยัดเงินให้ดีเจ ทางพนักงานเสิร์ฟก็โทรตามดิฉันไปที่ร้าน พอไปถึงร้านเขาบอกว่าโดนจับข้อหาค้ามนุษย์”
ยัดเงินให้ดีเจคืออะไร?
เดียร์ : “เขาบอกว่าเงินนี้เป็นเงินค้ามนุษย์”
เหมือนตร.ไปล่อจับ เอาเงิน 2 พันให้ดีเจ แล้วบอกว่าค้ามนุษย์?
เดียร์ : “ค่ะ เขาก็โทรตามเรา พอเราไปถึงเขาก็บอกว่าขอจับกุมเราข้อหาค้ามนุษย์ ค้าประเวณี เราก็เถียงกันในร้าน เราไม่ยอม เขาก็จะเอาเราไปแต่เราไม่ยอม ก็ถกเถียงกันรุนแรงในร้าน เราก็โทรหาญาติที่ภาคใต้ ญาติก็ให้เบอร์ท่านผบ.ตร.มา ไปร้องเรียนกับท่านว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรม มาแบบไหนเราไม่รู้ เป็นตร.จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะเขาไม่ได้แต่งชุดตร.มา”
คุณยืนยันได้ยังไงว่าเขาเป็นคนยัดเงินให้ดีเจ?
เดียร์ : “ก็เขาชี้และเขาถ่ายภาพเงินสองพันกับน้องอ้อมดีเจ พอไปถึงปุ๊บเขาก็ล็อกตัวเราไปด้านใน”
อ้อมเป็นผู้หญิงแล้วบอกว่าเขาขายตัวให้?
เดียร์ : “ค่ะ เราก็ไม่ยอม เพราะมันไม่ใช่ เขาก็เลยบอกว่าขอดูใบอนุญาต ซึ่งโซนสายสามไม่มีใบอนุญาต”
ถ้าจับต้องจับทั้งโซน?
เดียร์ : “ค่ะ ซึ่งตอนที่เขาไปร้านก็ยังไม่เปิด เราก็ไม่ยอมให้จับ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็โทรร้องผบ.ตร. ท่านบอกว่างั้นขอปลายสายหน่อย อยากรู้ว่ามาจากหน่วยไหน ถ้าคุณทำผิดเขาจับนะ ก็บอกว่ายืนยัน ถ้าหนูทำผิดก็จับได้เลย ทางโน้นก็ไม่ยอมรับสาย หนูก็เลยเปิดลำโพง ท่านก็บอกว่าผมแค่จะถามว่าเป็นตร.หน่วยไหน จากไหน จะได้รู้ว่าเขาทำผิดอะไร เสร็จปุ๊บเขาบอกว่าถ้าเป็นผบ.ตร. ก็ให้โทรหานายกู แล้วให้นายกูมาสั่งกู หนูเลยหันมาทางสาย บอกว่าท่านได้ยินนะคะ ท่านก็บอกว่าครับ แค่นั้นเอง แล้วหลังจากนั้นท่านก็ประสานไปทางผู้การชลบุรี ให้ดูว่าตร.ที่ไหนไปตรงร้านนี้ๆ ให้เข้ามาตรวจสอบว่าเป็นตร. จริงมั้ย พอผู้บังคับการชลบุรีประสานงานมา เขาถึงได้รู้ว่านั่นเป็นผบ.ตร. จริงๆ เขาก็เผ่นไป เราก็เข้าแจ้งความ ทางร้อยเวรก็รับเรื่องแจ้งความเราทั้งหมด นำพยานหลักฐานชี้ภาพตร.กลุ่มนั้น 6-7 นาย ส่งเรื่องไปปปท. แล้วตัวเขาโดนสั่งย้ายวันถัดมาทั้งกลุ่ม 7 นาย ตั้งแต่สารวัตรลงมาเลยค่ะ”
ดูเหมือนจบแล้ว?
เดียร์ : “ค่ะ เราก็รอดำเนินคดีของเราไป”
แล้วเรื่องใหม่เกิดอะไรขึ้น?
เดียร์ : “ช่วงระยะเวลาสองเดือนสารวัตรคนนี้รู้ว่าร้านเคยโดนจับเมื่อ 7 ม.ค. 59 ก็เลยเข้าไปหาผู้ดูแลร้านคนเก่าคือน้องสะใภ้ดิฉัน ไปคุยกันยังไงก็ไม่ทราบ แล้วสารวัตรคนนี้ ทำหนังสือเข้าสอบปากคำน้องสะใภ้แล้วเอาถ้อยคำ รวบรวมพยานหลักฐานที่ดิฉันโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับร้าน ซึ่งดิฉันโพสต์หลังจากที่เข้าไปดูแลร้าน ไม่ได้โพสต์ในช่วง 7 ม.ค.ที่น้องสะใภ้โดนจับ แต่เขารวบรวมพยานให้ร้อยเวร เพื่อขออนุมัติหมายจับดิฉันว่าร่วมกระทำผิดกับน้องสะใภ้ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.”
ตัวคุณครั้งแรกที่ถูกจับคือเดือนอะไร?
เดียร์ : “ก.ค. 59”
ย้อนกลับมาแล้วรวบรวมเหมาว่าคุณเกี่ยวข้องกับน้องสะใภ้?
เดียร์ : “ค่ะ เขาก็มีพยานหลายๆ ปากที่มา เอกสารหลายๆ อย่างที่เป็นเท็จค่ะ แต่เราให้ดูไม่ได้ค่ะที่เป็นเท็จ เช่นเฟซบุ๊กที่เขารวบรวมส่งร้อยเวรขอหมายศาลจับเรา ซึ่งในเฟซบุ๊กที่เราโพสต์ เราโพสต์ช่วงที่เรามาดูแลร้าน หลัง 7 ม.ค. 59 ณ เวลานั้นเราไม่มีการกระทำผิด เขาก็รวบรวมมาแล้วเป็นคำให้การของน้องสะใภ้ที่ซัดทอดเรามา ว่าเรานี่แหละเป็นเจ้าของร้านตัวจริง ตัวเขาเป็นแค่แม่ครัว เป็นแม่บ้าน ซึ่งโดนเราบังคับให้รับสมอ้างว่าเป็นเจ้าของร้าน ซึ่งที่จริงไม่ใช่ เพราะมีพนักงาน น้องคนนี้ อยู่ตั้งแต่สมัครกับน้องสะใภ้ อยู่กับน้องสะใภ้ตลอด”
เป็นพยานยังไง?
สนุ๊ก : “ก็ตั้งแต่มาสมัครงานเลย พี่เขาไม่เคยมายุ่งเลย ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเป็นใคร”
น้องสะใภ้เป็นคนดูแลร้าน?
สนุ๊ก : “ค่ะ ไม่มีแม่ครัวค่ะ เพราะที่ร้านไม่เคยมีครัวเลย (หัวเราะ) วันที่แม่เขาโดนจับ มีลูกค้ามาคนหนึ่งแล้วเขาเลือกเลยว่าไปนั่งกับน้องแพร”
เป็นผู้เสียหายในเดือนม.ค.?
สนุ๊ก : “ค่ะ เขานั่งกับน้องแพร แล้วเปิดเพลง ขอสั่งเบียร์ขวดหนึ่ง พวกเขาก็นั่งคุยกัน วันนั้นก็นั่งทำงานปกติ หนูอยู่หน้าร้าน ซักพักหนึ่งเขาเดินออกมา แล้วบอกว่าลูกค้าจะพาไปกินข้าวนะ แม่หมายก็จัดการ ก็บอกว่าต้องเสียค่าขาดงาน 400 นะ เพราะถ้าคุณพาเด็กออกไป เขาจะต้องหยุดงาน”
คุณเดียร์ยังไม่ได้เข้ามาในร้าน?
สนุ๊ก : “เขาไม่เกี่ยวเลยค่ะ ยังไม่มา”
คุณเริ่มมาวันไหน?
เดียร์ : “เมษายนค่ะ ก่อนหน้านั้นไม่ได้เข้าไปดูแล แต่ไปเที่ยวไปอะไรเป็นปกติเพราะเป็นร้านน้องชายอยู่แล้ว นานๆ ทีไป”
แต่ สมหมาย น้องสะใภ้เวลามาให้ปากคำกับตำรวจบอกว่าเป็นแม่ครัว?
สนุ๊ก : “แต่ร้านไม่มีค่ะ เตาแก๊สยังไม่มีเลย”
เดียร์ : “เราก็ไม่รู้หรอกว่าช่วง 2 เดือนเขารวบรวมหลักฐานอะไรยังไง อย่างเข้าไปหาน้องสะใภ้เราในเรือนจำ ไปหาพยานปากอื่นที่เป็นเท็จมา เขาไปเรือนจำกับลูกสาวน้องสะใภ้ค่ะ”
คุณไปขอประกันตัวกี่ครั้ง?
เดียร์ : “29 ครั้งที่ศาลชั้นต้น เพราะอยู่ในคุกอยู่ในเรือนจำ ให้แม่เขียนคำร้องขอประกันตัวว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ศาลท่านยกคำร้อง เราก็ให้การเคารพในคำสั่งศาล ในเมื่อ 29 ครั้งไม่ได้ เราก็สู้กันในคุก”
ก่อนที่คุณจะติดคุก 11 เดือน เขาเอาหลักฐานมามัดคุณจนต้องติดคุกเลยเหรอ?
เดียร์ : “ค่ะ มีพยานที่เป็นลูกของน้องสะใภ้ มีพวกที่เขาเมคขึ้นมาบางคน”
สิ่งที่คุณสงสัยคือ?
เดียร์ : “สงสัยว่าในระยะเวลาแค่ 2 เดือน เขากลับมาทำหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ได้ไง แล้วเขามีข้อพิพาทกับดิฉันอยู่ เรื่องนี้อยู่ที่ปปท. เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบ เขาก็โดนเด้งไปแล้ว ในคำสั่งของผู้บัญชาการภาค 2 สั่งให้เด้งไปแล้ว แล้วกลับมาได้ยังไง”
เขาทำคดีเองเหรอ?
เดียร์ : “เป็นผู้กล่าวหา”
ทนายสงกานต์ : “คือผู้หนึ่งผู้ใดสามารถกล่าวโทษได้ ยิ่งเขากล่าวโทษยิ่งมัดตัวเขาเอง เพราะเขาเคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับคุณเดียร์มาก่อน สองพนักงานสอบสวนในท้องที่ ก็น่าจะมีดุลยพินิจว่าไอ้ผู้กล่าวโทษเคยมีเหตุการณ์กันมาก่อน แล้วรับกล่าวโทษ มันเหมือนกับว่าคุณมีเจตนาพิเศษหรือไม่อย่างไร”
กรณีนี้ช่วงถูกจับไปติดคุก 11 เดือน ขอประกัน 29 ครั้งทำไมไม่ได้ประกัน?
เดียร์ : “อธิบายนิดหนึ่งว่าเป็นคดีนโยบาย เพราะค้ามนุษย์เป็นคดีที่อัตราโทษสูง ศาลท่านเลยยกคำร้องไม่ให้ประกัน เป็นดุลยพินิจของศาลท่านมองด้วยค่ะ”
คุณเดียร์สู้ในเรือนจำ?
เดียร์ : “ค่ะ ก็รวบรวมพยานหลักฐาน ให้ลูกสาวเป็นผู้จัดการ ทั้งเฟซบุ๊ก ทั้งบุคคล ตามน้องรุ่นเดียวกับที่อยู่กับน้องสะใภ้ ซึ่งเป็นผู้ดูแลร้าน ซึ่งสนุ๊กเนี่ย พนักงานสอบสวนมีชื่อตั้งแต่วันแรกที่จับน้องสะใภ้อยู่แล้ว เขาก็ให้การตามความจริงมาตั้งแต่โน้นอยู่แล้ว”
ตอนนี้คุณจะทำยังไงต่อไป?
เดียร์ : “จะร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด จะไปทุกที่ แล้วอยากให้รื้อเรื่องนี้ขึ้นมาให้หมดว่ามีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง ทำไมถึงรังแกเราผู้หญิงคนหนึ่ง ทำได้ถึงขนาดนี้ สองครั้งสองคราว”
คุณได้กลับไปเจอสารวัตรนี้มั้ย?
เดียร์ : “เจอบนบัลลังก์ตอนที่สืบพยาน เขาไม่พูดแต่สายตาที่เขามองเราเหมือนเขาสะใจ เพราะเราขึ้นบัลลังก์ต้องใส่กุญแจมือเหมือนนักโทษ คำสืบเรารู้แหละว่าไม่ใช่ เพราะช่วงที่ทนายถามว่ามีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนมั้ย เขาบอกว่าไม่มี เราก็ยื่นพยานหลักฐานให้กับทางศาลว่ามี แต่ทางโน้นเขาไม่ทราบว่าเรามีอะไรมั่งสืบเสร็จเราก็ให้ทนายยื่นประกอบไปค่ะ ใบแจ้งความใบอะไรทุกอย่าง ตอนขึ้นสืบพยาน คดีค้ามนุษย์ผู้พิพากษาท่านเป็นผู้ไต่สวนเอง ทนายกับอัยการจะเป็นคนถามค้าน ท่านก็ยุติธรรมมากๆ ค่ะ”
มีการบอกสภ.ที่เขาจับคุณมั้ย?
เดียร์ : “ตอนเราโดนจับไปที่โรงพัก ร้อยเวรไม่ได้แจ้งด้วยว่าใครเป็นผู้กล่าวหา เรามาทราบทีหลังว่าเป็นสารวัตรคนเดิมกล่าวหาเรา เราก็โดนกลั่นแกล้งแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ประเด็นหลักคือร้อยเวรคนนี้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ที่ส่งเรื่องดิฉันไปให้ปปท. ในช่วงเดือนม.ค. ทำไมถึงรับสำนวนและมาทำ ทั้งที่รู้ว่ามีข้อพิพาท ท่านเป็นรองผู้กำกับสอบสวน ท่านเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ส่งเรื่องดิฉันในช่วงก.ค. ที่ยัดข้อหาให้กับทางปปท.”
หลัง 11 เดือนออกจากเรือนจำ ทางโน้นติดต่อมามั้ย?
เดียร์ : “ไม่ค่ะ แต่มีรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดดูหน้าบ้าน เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เราก็กลัว เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเล่นสกปรกอะไรกับเราอีก เราอยู่ในคุก 11 เดือนเต็มๆ ถ้าเราไม่บริสุทธิ์จริงๆ โทษอัตราสูงแน่นอน”
เรื่องนี้ไปร้องที่เพจบิ๊กเกรียนด้วย?
เดียร์ : “ใช่ค่ะ 11 เดือนเราลำบาก ข้างนอกมีแม่ ลูก หลานๆ ต้องดูแล”
ท้อแท้มั้ย?
เดียร์ : “ไม่ท้อค่ะ เราสู้ค่ะ แต่รู้สึกว่าทำไมใช้วิธีสกปรกขนาดนี้กบเรา เรายืนยันว่าเราไม่ได้ค้ามนุษย์ ถ้าเราแพ้เราจะสู้ถึงฎีกา ถ้าฏีกายังไงเราก็น้อมรับ แต่เรามั่นใจว่าเราไม่ได้ทำ”
ติดคุก 11 เดือน ใครจะมาเยียวยาหรือรับผิดชอบ?
ทนายสงกานต์ : “หนึ่งเขาสามารถยื่นคำร้องขอเงินช่วยเหลือได้จากกระทรวงยุติธรรม ส่วนที่สองสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ จากตัวชุดจับกุมทั้งหมด ให้ร่วมรับผิดชอบกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จริงสามารถฟ้องได้เลย ถ้าศาลจะจำหน่ายคดีรอผลก็ไม่เป็นไร เพื่อให้ตัวผู้กระทำต่อคุณเดียร์ได้ทราบผลการกระทำนั้น”
ยืนยันว่าฟ้อง?
เดียร์ : “ฟ้องค่ะ ถึงที่สุด ตอนนี้รวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างแล้ว ก็ถ้าคิดว่าบริสุทธิ์ใจไม่ได้กลั่นแกล้งหรืออะไร ให้มาคุยตรงนี้ต่อหน้ากันเลยเอาเอกสารมายืนยันต่อหน้ากันเลยค่ะ คุณมีใบโดนสั่งย้าย แล้วกลับมาภายใน 2 เดือน เอามายืนยันกันตรงนี้เลยค่ะ ว่าตรงไหนจริง ตรงไหนเท็จ”
อยากบอกอะไร?
เดียร์ : “อยากร้องขอความเป็นธรรมนะคะว่าที่เราโดนกลั่นแกล้งสองรอบ รอบแรกพยายามยัดข้อหาเรา เราก็ต่อสู้โดยไม่มีหลักฐานอะไร เขาก็โดนสั่งย้ายไปแล้ว รอบสองยังสร้างพยานเท็จหลายๆ อย่าง มากลั่นแกล้งให้เราไปอยู่ในคุก 11 เดือน จนเราต่อสู้คดีชนะออกมา เราก็อยากให้ผู้ใหญ่หรือหน่วยงานที่ดูแลในส่วนนี้ ช่วยเข้ามาดูให้หน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นคะ ตัวดิฉันได้รับความกระทบหลายๆ อย่าง ทั้งส่วนตัวทั้งธุรกิจพังหมดเลยค่ะ”
ทุกวันนี้ระแวงกลัวคนมาทำร้าย?
เดียร์ : “ก็กลัวค่ะ แต่เราไม่สามารถระวังตัวได้ตลอดเวลา”
