นอกจากจะมีอาคมและพัฒนาการทางคาแร็กเตอร์อันสุดเข้มข้นแล้ว “เสือใบ” ใน “ไตรภาคขุนพันธ์” นี้ยังเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ สีสันจัดจ้าน และเต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนจนทำให้ผู้ชมและแฟนหนังหลงรักได้ตลอดกาล โดยนักแสดงหนุ่ม “เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ” ผู้สวมบทนี้ได้เผยความในใจว่าในชีวิตการแสดงมีเพียง “เล็กบาว-ดาอินทร-เสือใบ” 3 บทบาทโดดเด่นในชีวิตของเขาที่สามารถเข้าไปอยู่ในใจผู้ชมและตัวเขาเองได้อย่างลงตัว โดยผู้กำกับ “ก้องเกียรติ โขมศิริ” ที่ขอคืนกำไรให้กับคนดูและแฟนหนังขุนพันธ์แบบหมดหน้าตัก ใส่สตอรี่และอารมณ์เดือด มันส์ ดุดันแบบไม่มียั้งกับการสร้างสรรค์ซีนคัมแบ๊กของเสือใบให้ออกมาว้าว และเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้อย่างอยู่หมัดและสมศักดิ์ศรีตัวละครอย่างแท้จริง
“การกลับมาของตัวละคร “เสือใบ” กับ “กระสุนคต”ของเขานั้น เป็นความตั้งใจของเราที่วางตัวละครเสือใบเอาไว้แบบฟรีฟอร์มตั้งแต่ภาค 2 แล้วว่าเขาแหกคุกออกไป แล้วตัวละครมันจะต้องมีจุดจบ เราไม่อยากให้จบไตรภาคนี้แล้วทุกคนยังตั้งคำถามว่าแล้วเสือใบไปไหน เพราะฉะนั้นภาคนี้เราจะได้เห็นการกลับมาของ “เป้-อารักษ์” ในบทเสือใบกับลูกน้องคู่ใจเขา “เสือเบี้ย” พร้อมกับวิชากระสุนคตของเขา และภารกิจสำคัญที่อยากให้แฟนๆ ของเสือใบ ของเป้ และหนัง “ขุนพันธ์” ได้เต็มอิ่มที่สุดครับ”
ด้านหนุ่ม “เป้-อารักษ์” ก็ได้พูดถึงการกลับมาร่วมปิดไตรภาคจักรวาลขุนพันธ์ครั้งนี้ว่า “ตื่นเต้นและรู้สึกดีใจมากครับที่ได้กลับมาเป็น “เสือใบ” อีกครั้ง นี่คือบทและตัวละครที่ผมรักมากๆ เพราะนี่คือความฝันของเด็กผู้ชายที่ได้ขี่ม้า ยิงปืน และบู๊ ได้เล่นเป็นตัวละครแปลกๆ ที่เราไม่ได้เจอในการทำงาน หรือในชีวิตจริงครับ เป็นอะไรที่สนุกและมันส์มากครับ ผมยังจำวันแรกที่“พี่โขม” บอกว่าอยากให้ผมเป็นเสือใบได้ ตอนนั้นผมไว้ผมยาวอยู่ผมก็ไปตัดผมทรงที่เหลือแต่ตรงกลาง และกะว่าถ้าทรงนี้มันได้ก็จะเล่นเป็นเสือใบเลย แต่ปรากฏว่าเวลาผ่านไปสามปี หลังจากนั้นผมก็ซื้อปืนแก๊ปมาควง พอก่อนถ่ายก็ต้องไปเรียนขี่ม้า และมีการพัฒนาคาแร็กเตอร์ คือตื่นเต้นดีใจมากครับ และผมก็ชอบพี่โขมอยู่แล้ว คงต้องขอบคุณพี่โขมเป็นผู้มีพระคุณครับที่กล้าเอาผมมาเป็นมหาโจร เอาคนหน้าตี๋ๆ มาเปลี่ยนคาแร็กเตอร์เป็นคนที่สู้คนเช่นเดียวกับเสือใบเหมือนกัน สำหรับ “ขุนพันธ์ 3” ก็อยากให้มาดูกัน การถ่ายทำภาพ สี แสง การพูด ทุกอย่างมันไทยมากครับ แต่ว่ามันก็มีความแฟนตาซีแบบฝรั่ง มันเป็นการผสมผสานครับ ผมว่าไม่มีใครทำอะไรแบบนี้มานานแล้ว คือจะต้องทำโปรเจกท์ใหญ่ขนาดนี้งบประมาณขนาดนี้ มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก และผลตอบรับก็ดีเกินคาดครับ เสือใบเป็นตราแสตมป์หนึ่งที่ทำให้ผมภาคภูมิใจในการทำงานมากๆ ครับ”
ส่วน “เสือเบี้ย” ตัวละครสำคัญคู่หูเสือใบ นี่คือตัวละครที่ผู้กำกับตั้งใจอุทิศและกราบคารวะ “พิภพ ภู่ภิญโญ” ดาวร้ายในตำนานหนังไทยยุคอดีต ผ่านลีลาและการแสดงที่เชื่อมือได้ของ “จุ๊-คมสัน ขจรไพศาลสุข” หนึ่งในนักแสดงคู่บุญของผู้กำกับก้องเกียรติที่ได้มาร่วมสร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับเรื่องนี้ได้อย่างถึงใจ“มันเกินคาดไปเยอะเลยทีเดียว ตอนแรกที่เห็นบทแอบคิดว่ามันจะขนาดนี้ได้เหรอ ทำได้จริงๆ เหรอ แล้วก็ทำได้ อันนี้เป็นความดีความชอบของทีมงานเบื้องหลังทุกคนเลยครับ สำหรับแฟนๆ “พี่ใบ” กับ “ไอ้เบี้ย”อยากฝากให้ติดตาม “ขุนพันธ์ 3” ครับ ซึ่งมันจะเป็นการกลับมาที่จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง คุณจะได้เห็นกระสุนคตของเสือใบการขยี้หัว ความมุทะลุ โวยวายโหวกเหวกของไอ้เบี้ยที่จะสร้างสีสันความสนุกให้กับเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอนครับ” ร่วมปิดตำนานไตรภาค “จักรวาลขุนพันธ์” กับภารกิจจับตายขยายสู่สงครามแห่งอาคมเดือดกับ “เสือใบ-ไอ้เบี้ย” และ “แก๊งเสือร้าย” ใน “ขุนพันธ์ 3” มันส์ยิ่งกว่ามันส์ วันนี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่