รอยเตอร์ รายงานว่า โยมา สเตรทิจิก โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ได้ผนึกเข้าเป็นหุ้นส่วนกับ บริษัทยัมแบรนด์ เพื่อเปิดภัตตาคารเคเอฟซีสาขาแรกในพม่าในปี 2558 นี้
บริษัทระดับโลกจำนวนมากได้เรียงหน้ากันเข้าต่อแถวกัน เพื่อเข้าหาโอกาสในตลาดพม่าที่ต่างชาติยังแทรกตัวเข้าไปไม่มาก นับตั้งแต่เปิดตัวเองในปี 2554 หลังจากอยู่ใต้การปกครองโดยระบอบเผด็จการทหารนานหลายทศวรรษ
บริษัทยัมซึ่งเป็นเจ้าของภัตตาคารเคเอฟซี กับพิซซ่าฮัท ได้เข้าร่วมขบวนกับบรรดาบริษัทข้ามชาติอต่างๆ ซึ่งรวมทั้งยูนิลีเวอร์ กับโคคา-โคลา ที่ต่างก็หวังจะเข้าไปมีส่วนแบ่งผลประโยชน์ในประเทศที่ ชนชั้นกลางกับกลุ่มชนที่ร่ำรวย กำลังมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบริษัทบอสตันคอนซัลติงกรุ๊ป กล่าวว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในปี 2563 กลุ่มนี้ระบุในรายงานว่า เมื่อปี 2556 มีชาวพม่าเพียงไม่ถึง 4 คนจากทุกๆ 10 คน ที่ชอบเข้ารับประทานตามร้านอาหาร
“ด้วยประชากร 50 ล้าน กับชนชั้นกลางที่มีกำลังจับจ่ายมีจำนวนมากขึ้น ประเทศนี้ได้ให้โอกาสเกี่ยวกับผู้บริโภคอย่างสูงสำหรับโยมา สเตรทิจิก ในการเพิ่มขยายร้านเคเอฟซีในระยะยาว” โยมาระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง
โยมา ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นตลาดพม่า กล่าวว่าในระยะเริ่มแรกแฟรนไชส์เคเอฟซี จะเน้นไปที่นครย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดในประเทศ
“แผนการพัฒนาได้เรียกหาการเข้าสู่ตลาดในระยะแรกในนครย่างกุ้ง และมีความเป็นไปได้ที่จะขยายต่อไปยังเมืองระดับ 2-3 ในประเทศ” นายเจอาร์ชิง (J R Ching) หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของโยมาสเตรทิจิก กล่าวกับรอยเตอร์ แต่ไม่ไสามารถให้รายะเอียดใดๆ ได้อีกโดยกล่าวว่า บริษัทกำลังจัดการสรุปแผนธุรกิจ
โยมาซึ่งมีนายเซอร์กี ปุน (Serge Pun) เป็นประธาน กำลังพยายามขยายธุรกิจออกไปมากกว่า ธุรกิจบ้านและที่ดิน โดยเข้าเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทข้ามชาติต่างๆ พยายามเข้าตลาดพม่า บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในเอเชียเบฟเวอเรจ (Beverages) ที่จำหน่ายน้ำดื่มกับเครื่องอื่มแอลกอฮอล์ในประเทศ และ ยังสนใจธุรกิจค้าปลีกอีกด้วย
ที่มา ผู้จัดการ