กุหลาบเล่นไฟ-1-4

เรื่องย่อกุหลาบเล่นไฟ

ธิปไตย หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ หนีความวุ่นวายจากกรุงเทพฯ มาเที่ยวที่เกาะสมุยและได้พบกับปริตา ซึ่งเดินทางจากมหาวิทยาลัยที่ จ.นครปฐม เพื่อกลับบ้านที่เกาะสมุย ในช่วงปิดเทอมสุดท้ายของการเรียนระดับมหาวิทยาลัย เพื่อนำข่าวดีมาบอกนางวา ผู้เป็นแม่ ว่าอีกไม่นานเธอจะเรียนจบและพร้อมที่จะทำงานเลี้ยงแม่ ที่นี่เธอได้พบกับธิปไตย การพบกันครั้งแรกทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่กัดกันไปโดยปริยาย แต่หลังจากได้พูดคุยกันมากขึ้น ทั้งคู่รู้ซึ้งว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในจิตใจ ก่อนจากกันธิปไตยได้ให้นามบัตรกับปริตาเอาไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่ที่จะตามมาอีกมากมาย

ก่อนปิดเทอม 2 วัน ปริตากลับกรุงเทพฯ ก่อนเพื่อพบเพื่อนรักทั้ง 2 คน คือ ปัทมาศ ผู้เรียบร้อย กับสาวเปรี้ยวอย่างรัญชิตา ครั้งนี้รัญชิตานำเรื่องหนักใจมาปรึกษาเพราะช่วงปิดเทอมเธอโดนคุณหญิลชาลินี ผู้เป็นแม่ เร่งรัดให้ไปพบว่าที่คู่หมั้น นั่นก็คือ ธิปไตย ชายหนุ่มที่เธอไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อและหน้าตา เพราะการตกลงครั้งนี้เป็นความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายตั้งแต่เด็ก แต่โชคดีที่ว่าที่คู่หมั้นหนีหน้าไปเสียก่อน รัญชิตาย้ำกับเพื่อนว่าจะไม่หมั้นหรือแต่งงานกับผู้ชายที่แม่หาให้เด็ดขาด แต่รัญชิตาก็มีข่าวดีมาบอกเพื่อนเหมือนกัน

โดยเฉพาะปริตา และเมื่อเธอพาเพื่อนทั้งสองคนมาที่บ้าน ทั้งปริตาและปัทมาศได้พบกับพลศิษฎ์ น้องชายของรัญชิตา ที่เพิ่งกลับจากเรียนต่างประเทศ พลศิษฎ์ต้องไปเรียนต่างประเทศเพราะถูกแม่บังคับ เพื่อกีดกันให้ลูกชายอยู่ห่างกับปริตา หญิงสาวที่เขาหลงรัก เหตุผลที่โดนกีดกันเพราะปริตาไม่ใช่ลูกสาวผู้รากมากดีและมีสกุลอย่างที่คุณชาลินีต้องการ ดังนั้นการพบกันอีกครั้งของปริตาและพลศิษฎ์จึงก่อเกิดปัญหาขึ้นอีกเมื่อคุณหญิงชาลินีมาพบว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันสองต่อสองอย่างใกล้ชิดในบ้าน ใช่ว่าปัญหาจะจบแค่นั้นเพราะช่วงที่ปริตาไปพักที่บ้านปัทมาศก่อนเปิดเทอม เธอได้แนะนำให้ปริเทพ พี่ชายที่เดินทางจากระยองขึ้นมาสัมมนาที่กรุงเทพฯ ได้รู้จักกับปัทมาศ

แม้ทั้งคู่จะได้อยู่ใกล้ชิดกันในช่วงเวลาอันสั้น แต่ความรักก็ได้ก่อเกิดขึ้นในใจคนทั้งคู่ แต่ปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้นเมื่อคุณพัชรินทร์ แม่ของปัทมาศรู้ความจริง จึงกีดกันทั้งคู่ออกจากกัน และบังคับให้ลูกสาวเลิกติดต่อกับปริเทพเด็ดขาด การขัดคำสั่งของปัทมาศทำให้คุณพัชรินทร์ถึงขั้นล้มป่วย สุดท้ายปัทมาศจึงต้องทำตามความต้องการของแม่ด้วยการเลิกติดต่อกับปริเทพ ทำให้เขาและเธอต้องเจ็บปวดใจ แต่ปัทมาศก็ยังมีป้าสนคอยดูแลให้กำลังใจและคอยปลอบใจปัทมาศ วันเปิดเทอมมาถึง ปริตา ปัทมาศและรัญชิตา ต้องพบคู่อริ คือ พรพิมล ซึ่งถือว่าเป็นศัตรูคนสำคัญของรัญชิตา ทั้งคู่ชิงดีชิงเด่นกันมาตลอด การพบกันครั้งนี้ถึงขนาดลงไม้ลงมือกันทีเดียว และพรพิมลที่เป็นฝ่ายเจ็บตัวและขายหน้า จนต้องเก็บความแค้นไวในใจรอวันสะสาง และงานที่นักศึกษาทุกคนได้รับเมื่อตอนเปิดเทอมใหม่ คือต้องไปฝึกงานก่อนจะสำเร็จการศึกษา และนี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ที่จะทำให้เพื่อนรักทั้งสามคนได้เรียนรู้ชีวิตในสังคมใหม่     ปริตาและปัทมาศได้ไปฝึกงานที่บริษัทถ่ายโฆษณาของธิปไตย จากนามบัตรที่ปริตาได้จากเขา แต่แรกพบธิปไตยก็หลงรักปัทมาศในความเป็นผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน เป็นแบบฉบับที่ผู้ชายชอบ ส่วนปัทมาศเมื่อได้รับความรู้สึกดีจากเขา เธอก็มีความรักมอบให้กลับไปเช่นกัน ทำให้ปริตาซึ่งลึกๆ ในใจแอบรักธิปไตยอยู่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกพิเศษไว้ในใจคนเดียว ฝ่ายรัญชิตา ไปฝึกงานที่บริษัทโมเดลลิ่งและนิตยสารคุณหญิงคุณนายของสมภพ ชายหนุ่มที่รัฐมนตรีพิชัยหมายมั่นปั้นมือจะให้แต่งงานกับรัญชิตา แต่เธอไม่ชอบเขาเลยเพราะเขาเป็นผู้ชายที่ไม่จริงใจ และเอาใจจนเกินงาม เมื่อปริตาได้เข้ามาฝึกงานที่กรุงเทพฯ จึงเป็นโอกาสที่พลศิษฎ์จะได้ใกล้ชิดเธอมากขึ้น ด้วยการไปรับไปส่งที่ทำงาน แม้ว่าเขาจะโดนคุณชาลินีกีดขวางแต่เขาไม่เคยเชื่อฟัง จนทำให้เสี้ยวหนึ่งในจิตใจของธิปไตยนั้นออกอาการหึงหวงปริตาเช่นกัน

ฝ่ายปริตา ก็ทำตัวสนิทสนมกับพลศิษฎ์เพื่อประชดในความรักที่กำลังเบ่งบานของธิปไตยและปัทมาศ ในช่วงการฝึกงานที่กรุงเทพฯ ปริตาปัดความปรารถนาดีของปัทมาศที่จะให้ไปพักที่บ้านด้วยกันเพราะรู้ดีว่า คุณชัชรินทร์แม่ของปัทมาศไม่ชอบตัวเองตั้งแต่ตอนเกิดเรื่องที่ปริเทพมาหลงรักปัทมาศ ปริตาจึงไปพักอยู่กับคุณน้าลัดดาวัลย์ สไตลิสต์ประสบการณ์ยาวนานของวงการออกแบบและมีทีมผลิตคอสตูมของตัวเองด้วย ที่นี่ปริตาได้พบคุณชาลดา แมวมองคนดังของวงการปั้นดินให้เป็นดาว และเธอก็เห็นความงามที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวของปริตา จึงชวนเธอไปเป็นนักแสดง แต่ปริตารู้ตัวดีว่าไม่เหมาะกับอาชีพนั้น จึงบอกปัดไปอย่างสิ้นเชิง นับวันคุณหญิงชาลินีก็เร่งรัดให้รัญชิตาพบกับธิปไตย เพื่อตกลงเรื่องการหมั้นหมายและแต่งงาน เมื่อทนการรบเร้าไม่ไหวเจ้าตัวจึงให้สัญญากับผู้เป็นแม่ว่าจะพบธิปไตยหลังจากฝึกงานเสร็จ

แต่ยังยืนยันเจตนารมย์เดิมว่าไม่มีทางให้ผู้เป็นแม่จับคลุมถุงชนได้ การตกปากรับคำของรัญชิตาสร้างความดีใจให้คุณหญิงชาลินีที่ลูกสาวยอมเชื่อฟัง รวมทั้งคุณหญิงเสาวลักษณ์ แม่ของธิปไตยด้วยที่อยากจะเกี่ยวดองกับคุณหญิงชาลินีมานานแล้ว ก่อนการฝึกงานจะเสร็จตามกำหนดเวลา ธิปไตยก็ชักชวนปัทมาศให้ไปเที่ยวพักผ่อนที่น้ำตกนางรอง จ.นครนายกด้วยกัน แต่ปัทมาศก็มั่นใจว่าไม่มีทางที่ผู้เป็นแม่จะอนุญาตให้ไปต่างจังหวัด ปัทมาศจึงชวนปริตาไปด้วย ตอนแรกปริตาไม่อยากไปเพราะไม่อยากเป็นก้างขวางคอคนทั้งคู่ แต่เมื่อโดนสบประมาทจากธิปไตย เธอจึงรับคำที่จะไป การไปครั้งนี้ปริตาตั้งใจจะชวนพี่ชายไปด้วยเพื่อต้องการให้พี่ชายได้หลุดพ้นจากความทุกข์ใจที่ยังคิดว่าปัทมาศรักตัวเองอยู่ ทำให้การเดินทางไปเที่ยวร่วมกันของทั้ง 4 คนแทนที่จะมีความสุขกลับกลายเป็นความทุกข์แทน

ปัทมาศต้องเผชิญหน้ากับปริเทพด้วยความอึดอัดใจ แต่สุดท้ายปัทมาศก็บอกเลิกกับเขาอย่างเด็ดขาด ทำให้เขาเสียใจที่สุด แต่อีกทางก็ทำให้เขาตาสว่างและดำเนินชีวิตอย่างเข้มแข็งขึ้น การไปเที่ยวเดินป่าของทั้ง 4 คน เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อธิปไตยและปริตาพลัดหลงป่าไปด้วยกัน ทั้งคู่จึงต้องค้างคืนอยู่ในป่าร่วมกัน เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองก็มีปากเสียงกัน ธิปไตยพูดหักหาญน้ำใจปริตาจนเธอทนไม่ไหวเลยตบหน้าเขาอย่าแรง ธิปไตยจึงทำตามความต้องการของจิตใจด้วยการปล้ำจูบเธอ แต่โชคร้ายเมื่อจังหวะที่ปริตาผลักเขาล้มลงไปนั้นพลาดจนขาแพลงและเกิดไข้ขึ้นจากบาดแผล คืนนั้นธิปไตยจึงอยู่ในอ้อมกอดของปริตา ความสุขและความอบอุ่นที่เขาได้รับจากเธอทำให้เขาค้นพบความจริงในใจ เช่นเดียวกับปริตาที่มีความสุขเช่นกัน

ก่อนหน้าที่ทั้ง 3 จะรับปริญญาในวันสำเร็จการศึกษา จึงเป็นเวลาที่รัญชิตาต้องทำตามสัญญาที่ให้กับแม่ไว้ นั่นคือการไปพบธิปไตย และถึงแม้จะยึดมั่นกับตัวเองว่าไม่มีทางจะทำตามที่ผู้เป็นแม่ต้องการ แต่แค่แรกพบกับธิปไตยก็ทำให้รัญชิตาหลงเสน่ห์ตัวเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และลืมทุกอย่างที่เคยคิดไว้ ผิดกับธิปไตยที่แม้จะรู้สึกว่ารัญชิตาเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่มีเสน่ห์ในตัวมากมาย แต่เขาไม่ได้รู้สึกพิเศษเหมือนกับที่รู้สึกกับปัทมาศหรือปริตา ที่เขามีเธอซุกซ่อนไว้ในใจเลย เหตุการณ์เริ่มเลวร้ายเมื่อปริตาที่แวะเอาชุดครุยจากฝีมือการตัดเย็บของลูกน้องน้าลัดดาวัลย์ มาให้รัญชิตาที่บ้าน ก็ต้องช็อกจนแทบหัวใจหยุดเต้นเมื่อได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว ธิปไตยคือคู่หมั้นของรัญชิตา และหมายความว่า ณ บัดนี้ทั้งปัทมาศและรัญชิตา นั้นแอบหลงรักผู้ชายคนเดียวกันอยู่

ปริตาจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะให้เรื่องที่ส่อเค้าวุ่นวายนี้คลี่คลายลงไปได้ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสายเกินแก้ เมื่องานรับปริญญามาถึง และครั้งนี้ทำให้จุดเปลี่ยนในชีวิตของปริตาเกิดขึ้น เมื่อนางวา ผู้เป็นแม่ที่ขึ้นมางานรับปริญญาเกิดล้มป่วยอย่างหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล ความสูญเสียอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อนางวาลาโลกไปอย่างสงบด้วยอาการของโรคมะเร็งขั้นสุดท้าย โดยที่ปริเทพและปริตาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแม่เป็นโรคร้ายนี้ และจุดเปลี่ยนในชีวิตของปัทมาศและรัญชิตาก็ตามมา เมื่อทั้งคู่ไปร่วมงานสวดศพของนางวาที่สมุย ในงานวันเผาศพ ธิปไตยปรากฏตัวเพื่อแสดงความเสียใจต่อปริตา และที่นี่ทำให้ความลับทุกอย่างเปิดเผยออกมาเมื่อปัทมาศและรัญชิตาได้รู้ความจริงว่ากำลังตกหลุมรักผู้ชายคนเดียวกัน ความรักที่อยู่เหนือเหตุผลและมิตรภาพอันยาวนาน ทำให้ทั้งคู่ไม่ยอมตัดใจจากธิปไตย

รัญชิตาคิดว่าถือไพเหนือกว่าเพราะกำลังจะหมั้นหมายกับเขา ส่วนปัทมาศจากที่เคยเรียบร้อยเมื่อถึงเวลาที่ต้องการครอบครองธิปไตยก็พร้อมจะเพิ่มความกล้า และยกเหตุผลมาอ้างว่าเป็นแฟนกับธิปไตยมาก่อน ความสัมพันธ์ของเพื่อนรักที่เคยแน่นแฟ้นก็กลับกลายเป็นความบาดหมางตั้งแต่นั้น และในยามทุกข์ใจนี้ธิปไตยก็มีปริตาที่คอยให้กำลังใจและเป็นที่ปรึกษาได้ดีที่สุด ทุกอย่างเลวร้ายขึ้น เมื่อรัญชิตาบุกไปหาปัทมาศที่บ้านหลังจากกลับจากสมุยเพื่อตกลงเรื่องธิปไตย แต่ทุกอย่างก็ยากที่จะประสานให้เป็นดังเดิม เมื่อปัทมาศมีท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมปล่อยธิปไตยง่ายๆ ตามคำขอของรัญชิตา ทำให้รัญชิตาแค้นใจที่เป็นผู้แพ้ จึงเร่งรัดให้คุณหญิงชาลินีจัดการงานหมั้นให้เร็วที่สุด ฝ่ายธิปไตยก็ต้องยอมเข้าพิธีหมั้นกับรัญชิตาเพราะการขัดขืนของเขาทำให้อาการโรคหัวใจของแม่กำเริบหนัก เขาจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้แม่สบายใจและนั่นคือการรับหมั้นอย่างไม่เต็มใจ

ระหว่างรองานหมั้น รัญชิตาได้เข้าร่วมงานประกวดเพื่อเฟ้นหาสาวหน้าใส 10 คนเพื่อถ่ายโฆษณาให้ครีมทาผิวยี่ห้อดัง ที่รัฐมนตรีพิชัยผู้เป็นพ่อหมายหมั้นปั้นมือจะให้ลูกสาวเป็นคนที่ได้รับบทเด่นที่สุด เพื่อเปิดตัวในวงสังคมว่าลูกสาวโตแล้ว หวังจะก้าวหน้าในวงการการเมืองหรือธุรกิจต่อไป ครั้งนี้เธอพบความเจ้ากี้เจ้าการของสมภพอีกครั้ง แต่รัญชิตาคิดอย่างเดียวคือต้องการเอาใจพ่อบ้างและที่นี่เธอได้พบกับคู่อริคนสำคัญคือ พรพิมล ที่ก้าวมาเป็นนางแบบมืออาชีพในสังกัดคุณชาลดา และหวังจะได้ก้าวเข้าสู่จอแก้วกับงานนี้ และเมื่อโดนสบประมาทจากพรพิมลว่าเป็นได้แค่นางแบบภาพนิ่ง (สวยมุมเดียว) ดังนั้นคุณชาลดาชักชวนให้มาเข้าสังกัดนักแสดงของเธอ รัญชิตาจึงไม่รีรอที่จะรับปากเพราะต้องการหักหน้าพรพิมล และความลับที่รัญชิตาไม่ล่วงรู้เลยคือ พรพิมล คือเมียลับอีกคนของรัฐมนตรีพิชัยผู้เป็นพ่อของเธอ

ในค่ำคืนการเดินแบบเพื่อเปิดตัวโฆษณาและโชว์ตัวพรีเซ็นเตอร์ ปัทมาศปรากฏตัวในงานแบบลึกลับและใช้กลวิธีดึงตัวธิปไตยออกจากงานไป รัญชิตาจึงหัวเสียที่ธิปไตยหายตัวไปอย่างลึกลับ ปัทมาศขับรถพาธิปไตยไปยังชายหาดพัทยา ที่นั่นเธอต้องกระทำการที่ขัดกับตัวเอง คือยัดเยียดความบริสุทธิ์ให้ธิปไตย เพื่อต้องการยึดเหนี่ยวธิปไตยให้อยู่กับตัวเอง แต่จิตใจของปัทมาศแทบแตกสลายเมื่อไม่สามารถหยุดยั้งงานหมั้นระหว่างธิปไตยและรัญชิตาได้ แม้จะต้องเอาตัวเข้าแลกก็ตาม แต่เธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆ จึงบุกไปงานหมั้นด้วยการแต่งกายชุดดำเพื่อเยาะเย้ย แต่หมัดเด็ดที่เธอคิดว่าเหนือรัญชิตาก็คือการเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเมียของธิปไตยแล้ว แต่นั่นไม่ได้ทำให้รัญชิตาเพลี่ยงพล้ำแต่กลับเป็นจุดพลิกผันทำให้รัญชิตาได้ด่าทอปัทมาศให้อายว่าเป็นผู้หญิงเรียบร้อยแต่เปลือก แท้จริงก็แค่ผู้หญิงร่านสวาทที่ยอมนอนกับผู้ชายโดยไม่คิดอะไร

ทำให้ปัทมาศน้อยใจเมื่อธิปไตยก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ การดูถูกเหยียดหยามของรัญชิตาทำให้ปัทมาศได้แต่เก็บตัวเงียบและปล่อยตัวจนทรุดโทรม ปริตาก็ได้แต่สงสารเพื่อนและคอยปลอบใจอย่างใกล้ชิด เมื่อพ่ายแพ้ทุกอย่าง ปัทมาศหมดหนทางแก้ไขปัญหา ทางเดียวที่คิดได้ตอนนี้คือต้องการหลุดพ้นจากโลกนี้ไป เธอตัดสินใจนัดทั้งปริตาและรัญชิตาให้ไปที่ดาดฟ้าของหอพักในมหาวิทยาลัย สถานที่ที่ทั้ง 3 เคยมีสุขร่วมกันและเป็นที่ที่เคยให้สัญญากันว่าจะรักกันโดยไม่มีอะไรมาพรากจากกันได้ ปัทมาศตั้งใจจะใช้ปืนดับชีวิตตัวเองต่อหน้าเพื่อนรักทั้ง 2 คน แต่ช่วงที่ยกปืนขู่รัญชิตา ทั้งคู่ยื้อแย่งปืนกัน ความชุลมุนทำให้ปัทมาศพลาดตกจากตึกและลาจากโลกไปอย่างไม่มีวันกลับ

แม้จะผ่านงานหมั้นไปแล้วแต่ธิปไตยก็ไม่ได้แสดงความรักต่อรัญชิตาเลย และความสัมพันธ์ของปริตาและรัญชิตาก็ยิ่งห่างเหินกันไปมากขึ้นเมื่อคุณหญิงชาลินีต่อว่าปริตาว่าให้การซัดทอดจนรัญชิตาต้องถูกสอบสวน ทั้งที่ปริตาเล่าไปตามความจริง แต่สุดท้ายรัญชิตาก็หลุดพ้นจากคดีเพราะอำนาจเงินของรัฐมนตรีพิชัย และปริตาไม่พอใจรัญชิตาที่ไม่ยอมไปร่วมงานศพปัทมาศ เพราะกลัวตกเป็นเป้าสายตาว่าเป็นฆาตกร แต่เมื่อได้รับคำร้องขอจากเพื่อน รัญชิตาก็มาร่วมงานในวันเผาศพ รัญชิตามีปากเสียงกับคุณพัชรินทร์อย่างหนัก จนปริตาได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของรัญชิตามากขึ้น ความสัมพันธ์ของปริตาและรัญชิตาที่เคยเหนียวแน่นก็ยิ่งห่างเหินมากขึ้น และช่วงชีวิตของทั้งคู่ก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเส้นทางการเป็นนางเอกของรัญชิตานั้นเฉิดฉาย

ส่วนชีวิตของปริตายังนิ่งเงียบเพราะยังหางานทำไม่ได้ เธอจึงต้องช่วยน้าสาวส่งเสื้อผ้า และทำให้ปริตาได้เจอกับรัญชิตาบ้างตามงานละครทีวีและละครเวทีการกุศลทั่วไป ความรู้สึกดีภายในใจระหว่างธิปไตยกับปริตาถูกเปิดเผยมากขึ้น หลังการตายของปัทมาศ แต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนของรัญชิตาและปริตาก็จบสิ้นลงอย่างสิ้นเชิง เมื่อรัญชิตาทราบว่าทั้งคู่กำลังคบหากัน จากพลศิษฎ์ที่เมามายจนเผลอพูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และเมื่อรัญชิตาสะกดรอยตามทั้งคู่ไปก็ไดพบภาพหวานของทั้งคู่ ความเจ็บใจที่คิดว่าเพื่อนกับคู่หมั้นกำลังหลอกลวงอยู่ จึงเกิดเป็นแรงแค้นในใจรัญชิตาขึ้นมาทันที รัญชิตาระงับอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อโดนเตือนเรื่องการวางตัวอยู่ในวงการดาราจากคุณชาลดา ก็เลยสวนกลับชาลดาอย่างแรง สุดท้ายรัญชิตาเลิกเป็นเด็กในสังกัดของชาลดา ทำให้ชาลดาอยู่ในภาวะระส่ำระสาย เพราะเด็กในสังกัดที่เหลือรวมทั้งพรพิมลไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขั้น

ชาลดาต้องการลบคำสบประมาทของรัญชิตาที่ว่าไม่มีตัวเองแล้วจะไปไม่รอด ดังนั้นชาลดาจึงทำทุกวิถีทางที่จะชักชวนให้ปริตามาเป็นนางเอกใหม่ในสังกัด ตอนแรกปริตายังยืนยันเจตนารมย์เดิม แต่เมื่อโดนรัญชิตาด่าอย่างหนักเรื่องที่แอบคบหากับธิปไตย และยังสบประมาทว่าไม่มีทางเป็นดาราได้ ทำให้ปริตาตอบตกลงรับคำชวนของชาลดา และก้าวมาเป็นตัวเก็งนางเอกละครอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ของช่องอย่างไม่รู้ตัว ด้วยผลงานชิ้นแรกในฐานะนางเอกมิวสิควิดีโอของนักร้องวัยรุ่นชื่อดัง การห้ำหั่นอย่างถึงพริกถึงขิงในอาชีพดารานักแสดงระหว่างรัญชิตา และปริตา จึงดุเด็ดเผ็ดร้อน รัญชิตาได้สมภพเข้ามาช่วยดูแลรับงานละครและถ่ายแบบให้

ขณะที่ปริตารับแต่งานแสดงจะปฏิเสธงานถ่ายแบบทุกชิ้นเพราะไม่ต้องการจะชนกันโดยตรง รัญชิตาโดดเด่นกับงานถ่ายแบบด้วยฝีมือตากล้องธิปไตยและสมภพ แต่ยังมีแผนการลึกล้ำกว่าเดิมด้วยการยื่นข้อเสนอให้สมภพคอยแทรกกลางระหว่างความรักของธิปไตยและปริตา ถ้าทำให้ทั้งคู่แตกแยกกันได้เธอจะยอมมอบร่างกายให้สมภพอย่างที่เขาต้องการ ปริตา รัญชิตา พรพิมล และดาราเด็กทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกเรียกตัวมาเพื่ออบรมการแสดงเพื่อเฟ้นหาผู้แสดงบทสำคัญๆ ในละครฟอร์มยักษ์ของช่อง การทดสอบกินเวลานานถึงสามเดือน มีการตัดสินถึงสามรอบ ก่อนวันปฐมนิเทศ รัญชิตาพยายามใช้เส้นของรัฐมนตรีดันให้ตัวเองเป็นนางเอกทันที แต่ไม่เป็นผลเพราะผู้จัดและผู้กำกับชื่อดัง พ่ออู๊ด ยืนยันจะเลือกอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมเท่านั้น

ปริตาต้องขายหน้าจนแทบจะเลิกอาชีพนี้เมื่อโดนกลั่นแกล้งจากรัญชิตาจนพลาดการปฐมนิเทศเป็นเหตุให้ถูกพ่ออู๊ดของวงการตำหนิอย่างแรงท่ามกลางนักข่าวและผู้ลงสมัครทุกคน รัญชิตาสะใจที่ฉีกหน้าปริตาสำเร็จแต่ปริตาก็ไม่ยอมแพ้กลับควงธิปไตยออกไป ปล่อยให้รัญชิตาเจ็บใจเป็นที่สุด ในที่สุดรัญชิตาก็ทนไม่ไหวกับสภาพคู่หมั้นที่เป็นอยู่เพราะไม่เคยได้รับความรักจากธิปไตย เธอจึงถอนหมั้นกับเขา ยามนี้รัญชิตาคิดอย่างเดียวคือทำให้ทั้งธิปไตยและปริตาย่อยยับไปพร้อม ๆ กัน การฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ทำให้ปริตากลับมารับถ่ายหนังโฆษณาอีกชิ้น ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกคิดจะหยุดทำ แต่เพื่อลบคำสบประมาทของรัญชิตาและพ่ออู๊ดให้ได้ และความพยายามก็ทำให้ปริตาลุกขึ้นได้อย่างแข็งแรง ความโดดเด่นเป็นธรรมชาติทางการแสดงทำให้เธอเป็นที่สนใจของประชาชนมากขึ้น จนทางช่องต้องเรียกตัวเธอกลับมาลงทะเบียนตัวเก็งนางเอกละครประวัติศาสตร์อีกครั้ง และร่วมการทดสอบรอบที่สอง

แม้ว่ารัญชิตาจะแกล้งเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้ปริตาทำได้ดีมาก กลับเป็นรัญชิตาเองที่ต้องได้รับความขายหน้าแทน ชื่อเสียงของปริตาเพิ่มพูนมากขึ้นในฐานะพิธีกร วีเจ ละครเวที ตรงข้ามกับรัญชิตาที่นับวันงานจะน้อยลงเพราะขยันเป็นข่าวในแง่ลบ หรือจะเป็นการทะเลาะถึงขั้นตบตีกับพรพิมล รวมทั้งความเรื่องมากเพราะคิดว่ามีชื่อเสียงอยู่แล้ว เมื่อชื่อเสียงในวงการหมดสิ้น การตัดสินครั้งสุดท้ายสิ้นสุดลง รัญชิตากลับได้รับการเสนอบทนางร้าย และปริตาเป็นนางเอก ส่วนพรพิมลนั้นพลาดแม้แต่บทนางร้ายของเรื่อง รัญชิตายอมรับบทนางร้ายเพราะเห็นช่องที่จะชิงดีชิงเด่นกับปริตาได้อีก ระหว่างการถ่ายทำ รัญชิตาก็พุ่งเป้าในการทำลายชื่อเสียงของปริตาโดยมีสมภพเจ้าของโมเดลลิ่งที่ได้รับสัมปทานตัวประกอบหญิงทั้งหมดในเรื่อง คอยช่วยในการเป็นตัวกลางปล่อยข่าวสั่นคลอนความสัมพันธ์ของปริตาและธิปไตย และดูเหมือนจะเข้าทาง

เมื่อรัญชิตาทำทุกอย่างเพื่อให้ปริตามีข่าวคาวราคีเสียหาย ส่วนความสัมพันธ์กับธิปไตยก็เริ่มระหองระแหงเมื่อมีสมภพเป็นตัวกลางคอยเติมเชื้อเพลิงในใจของทั้งคู่อยู่ แถมปริตายังได้รับการกดดันจากผู้ใหญ่ที่มาคอยช่วยกันแก้ข่าวให้ว่าห้ามทำชื่อเสียอีกด้วยการห้ามพบธิปไตยเด็ดขาดจนกว่าละครจะถ่ายเสร็จและออกฉายแล้ว เพราะนี่เป็นละครส่งเสริมเกียรติประวัติของช่องจะมาเสียเพราะนางเอกคนเดียวไม่ได้ สุดท้ายปริตาทนกับสภาพที่ขาดความเป็นตัวของตัวเองต่อไปไม่ได้ ประกาศหยุดรับงานในวงการแม้จะมีคนมาติดต่อไปเป็นนางเอก และพิธีกรรายการมากมาย เพราะไม่ต้องการสวมหน้ากากเข้าหากันอีกต่อไป สร้งความพอใจให้รัญชิตาอย่างมากที่ขัดขวางทางรุ่งเรืองของศัตรูได้ แต่เรื่องหัวใจรัญชิตายังขัดขวางไม่สำเร็จ

เธอจึงต้องดำเนินแผนการสุดท้ายด้วยการให้สมภพโทรไปหาปริตาให้มาถ่ายแบบปกหนังสือครั้งสุดท้ายเป็นการทิ้งทวน ซึ่งจะยกกองไปถ่ายที่ชะอำ ปริตาซึ่งไม่เคยยอมรับงานถ่ายแบบตกปากรับคำโดยมีข้อแม้ว่าจะต้องให้ธิปไตยเป็นผู้ถ่ายแบบชุดนี้ให้ การเดินทางไปชะอำของทุกคนในครั้งนี้ จะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนอกเหนือจากปริตา ธิปไตย รัญชิตา สมภพ แล้วยังมีพลศิษฎ์ที่แอบได้ยินแผนการของพี่สาวในการทำร้ายปริตา เขาจึงขอตามมาด้วยหวังจะช่วยเหลือคนที่ตนเองรัก ส่วนพรพิมลก็ไปร่วมวงด้วยเพื่อหวังแก้แค้นรัญชิตาเช่นกัน การถ่ายแบบที่ชะอำครั้งนี้ ธิปไตยและปริตาต้องบาดหมางใจเพียงเพราะว่าการเอาอกเอาใจของสมภพที่มีต่อปริตา

รัญชิตาจึงเข้าสอดแทรกกลางด้วยการสนิทสนมกับธิปไตย ความไม่เข้าใจกันทำให้ทั้งธิปไตยและปริตาประชดซึ่งกันและกัน ทำให้เข้าทางแผนการของรัญชิตาทุกอย่าง ในที่สุดแผนการสุดท้ายมาถึง สมภพมอมยาและหวังจะข่มขืนปริตา แต่โชคดีที่พลศิษฎ์เข้ามาช่วยไว้ก่อน ปริตาจึงรอดพ้นมาได้ และเมื่อหนไปหาธิปไตยหวังจะให้เขาช่วยเหลือก็ต้องพบภาพบาดตาบาดใจที่ธิปไตยกำลังนอนอยู่บนเตียงกับรัญชิตา ความเสียใจทำให้เธอวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงออกไป จนเขาต้องวิ่งตามไป รัญชิตาสะใจที่แผนการสำเร็จ แต่เมื่อสมภพซึ่งสะบักสะบอมจากการต่อสู้กับพลศิษฎ์มาพบว่ารัญชิตาผิดคำสัญญด้วยการมีคามสัมพันธ์กับธิปไตย ทำให้เขาโมโหและข่มขืนรัญชิตาซ้ำ รัญชิตาเสียใจ และยิ่งเสียใจมากขึ้นเมื่อถูกพรพิมลเยาะเย้ยว่าเป็นผู้หญิงสำส่อนนอนกับผู้ชาย 2 คนซ้อน สมภพจึงฆ่าพรพิมลอย่างโหดเหี้ยม รัญชิตาหยุดความเสียใจและตั้งใจจะแก้แค้นต่อไป

ปริตาวิ่งหนีออกมายังชายหาด โดยมีธิปไตยวิ่งตามมา ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้ แต่ทุกอย่างสายไปแล้ว เมื่อรัญชิตาใช้ปืนขู่คนทั้งคู่ ปริตาถูกจับมัดแล้วเอาขึ้นรถไปพร้อมกับรัญชิตา และสมภพ ส่วนธิปไตยขับรถตามมาโดยมีพลศิษฎ์ขอตามมาด้วย รถทั้งสองคันขับไล่กันอย่างหนัก สมภพใช้รถเบียดรถของธิปไตยจนเกือบตกไหล่ทางหลายครั้ง รัญชิตาร้องขอไม่ให้สมภพทำอย่างนั้น เพราะในรถคันนั้นมีน้องชายอยู่ด้วย แต่ไม่ได้ผล สุดท้ายรัญชิตาจึงใช้ปืนขู่เขา แล้วความตายก็เริ่มขึ้น

เมื่อทั้งคู่ยื้อแย่งพวงมาลัยจนสุดท้ายรถทั้งสองคันก็พุ่งชนกันอย่างแรงและพลิกคว่ำจนไฟลุกท่วมรถ สมภพตายคาที่จาการโดนกระจกบาดคอ ส่วนธิปไตยหมดสติไป ปริตาติดอยู่ในรถที่กำลังจะระเบิด แต่รัญชิตาที่บัดนี้สำนึกได้ก็รีบช่วยเพื่อนออกจากรถได้ทัน เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าทั้งคู่ยังเหลือมิตรภาพเหลือให้กันอยู่ แต่รัญชิตาต้องเสียใจที่สุดเมื่อน้องชายต้องตายอย่างอนาถ และเธอก็โทษตัวเองว่าเป็นความคิดของเธอเอง ชีวิตของรัญชิตาไม่ได้สูญเสียเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อกลับกรุงเทพฯ เธอก็ได้รับข่าวร้ายเพราะรัฐมนตรีพิชัยต้องมาตายด้วยน้ำมือของคุณหญิงชาลินีที่บุกไปยิงเขาตายพร้อมกับเมียน้อย คุณหญิงชาลินีได้ข่าวทุกอย่างจากพรพิมลว่ารัญมนตรีพิชัยแอบเลี้ยงดูเมียน้อยซึ่งมีดีกรีเป็นนางงาม

ส่วนคุณหญิงชาลินีต้องติดคุกเพื่อชดใช้กรรม ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตทำให้รัญชิตาคิดได้ และก้มหน้ารับกับความสูญเสียนี้ ขณะที่รัญชิตาไปขอโทษปัทมาศที่หลุมฝังศพ ที่นั่นเธอได้พบกับกับธิปไตยที่นั่งอยู่บนรถเข็นเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ขาหัก 2 ข้าง ทั้งคู่สามารถปรับความเข้าใจกันได้และอโหสิกรรมต่อกัน ส่วนปริตาและรัญชิตาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะมีเรื่องร้ายมาทำให้บาดหมางใจแต่สุดท้ายมิตรภาพของทั้งคู่ก็กลับมาเป็นดังเดิม หลังจากผ่านประสบการณ์ร้ายที่ทำให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้ชีวิตมากมาย ธิปไตยขอปริตาแต่งงาน แต่เธอขอเวลาให้เขาพิสูจน์ตัวเอง ต่อมาทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและไม่มีปัญหาอย่างที่เคยเป็นมาเพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ทั้งคู่ได้บทเรียนชีวิตบทสำคัญ

 

ที่มา lcthai.com

 

เรื่องน่าสนใจ