ในยุคปัจจุบันดูเหมือน การทำศัลยกรรมกำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติของหญิงสาวที่รักสวยรักงามไปซะแล้ว มันไม่ใช่เรื่องน่าปกปิดอีกต่อไป ตรงกันข้าม ผู้คนพร้อมเปิดเผยแบบหมดจดอีกต่างหาก
ถึงขนาดดาราสาวคนหนึ่งออกมาพูดในภาพยนตร์โฆษณาว่า ความสวยเปลี่ยนชีวิตเธอ เพื่อโฆษณาสถานเสริมความงาม
ในขณะที่ธุรกิจเสริมความงามก็เติบโตราวกับดอกเห็ด หญิงสาวจำนวนมากเดินเข้าสถานเสริมความงามอย่างไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกปิดอีกต่อไป การเสริมจุดโน้น จุดนี้ วิทยาการ เทคโนโลยีของธุรกิจเสริมความงามก็เกิดสารพัดเทคนิคใหม่ๆ หญิงสาวเจอกันก็ชวนพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างโจ่งครึ่ม
เราปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสสื่อมีส่วนสำคัญยิ่งที่ทำให้บรรดาหนุ่มสาวรุ่นใหม่อยากหล่ออยากสวยเหมือนดาราคนไหน จึงทำให้เกิดความอยากปรับจุดนั้นจุดนี้เพื่อหวังว่าจะดูดีขึ้น
ยิ่งตอนนี้กระแสเกาหลีมาแรง ทำให้บรรดาผู้ที่อยากจะมีใบหน้าละม้ายชาวเกาหลีต่างก็ต้องหันมาพึ่งศัลยกรรมเพื่อความอินเทรนด์ และกลายเป็นที่มาของเด็กวัยรุ่นจำนวนหนึ่งที่เสื้อผ้าหน้าผมละม้ายคล้ายกันไปหมด
เรื่องนี้เป็นสิทธิเสรีภาพค่ะ ไม่มีใครว่าอะไรใครได้ เพียงแต่สิ่งที่จะชวนคิดก็คือค่านิยมเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก สิ่งเร้ารอบตัวที่ให้ความสำคัญในเรื่องรูปร่างหน้าตาเป็นประเด็นสำคัญที่กำลังเกาะกินในใจของเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องเติบโตขึ้นมาท่ามกลางกระแส “สวยสร้างได้”
ดูเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัว แต่มันก็อธิบายปรากฏการณ์บางอย่างในบ้านเราได้ ว่าเด็กรุ่นใหม่จะเติบโตขึ้นไปแบบไหน เมื่อไม่พอใจรูปร่างหน้าตาก็สามารถปรับแต่งได้อย่างตามที่ต้องการ
ประโยคเด็ดขำๆ ที่ไม่ขำอย่าง “ทำบุญทำทานสวยชาติหน้า ทำนมทำหน้าสวยชาตินี้” สะท้อนค่านิยมและความคิดของคนรุ่นใหม่ต่อเรื่องความสวยความงามในยุคปัจจุบันอย่างมาก
และมันอาจสะท้อนอะไรหลายอย่างในชีวิตได้หรือไม่ว่า บางเรื่องที่เราทำสิ่งใดๆ นั้น เป็นเพราะเราห่วงเรื่องหน้าตา เรื่องภายนอก มากกว่าด้านในของจิตใจ !
ค่านิยมเรื่องหน้าตาดี รูปร่างดี กลายเป็นปัญหาใหญ่ของเด็กสาวในสมัยนี้ เพราะเห็นแบบอย่างในสังคม ที่ทุกกระแสต่างวิ่งเข้าสู่ค่านิยมนี้ ไม่ว่าจะเป็นถนนสายบันเทิงและธุรกิจจำนวนมาก ที่ใช้ผู้หญิงรูปร่างสวยหน้าตาดีเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นและยั่วยวนใจให้เด็กสาวรุ่นใหม่อยากดูดีเพราะมีรายได้ที่ดีรออยู่ข้างหน้า
และ..นั่นหมายถึง การยอมที่จะเสียเงินเสียทองเพื่อทำศัลยกรรมให้ตัวเองดูดีในสายตาของคนอื่น แม้จะต้องเสี่ยงอันตรายต่อตัวเองก็ยอม
ที่น่าตกใจ คือ ค่านิยมเหล่านี้ได้เข้าไปอยู่ในครอบครัวด้วย มีพ่อแม่จำนวนมากที่พยายามเสกสรรปั้นแต่งลูกให้สวยงามดูดี หรือสร้างภาพลักษณ์ให้กับลูกตั้งแต่เด็ก สังเกตได้จากการจัดงานประกวดมากมาย ที่ส่งเสริมให้เด็กแต่งตัวเกินวัย และจับให้เด็กทำตัวแก่แดด แต่งหน้าแต่งตัวเกินเด็ก พ่อแม่ก็แห่แหนส่งลูกไปร่วมจำนวนมาก
เรียกว่าแทบจะกลบกระแสความสวยความงามที่มันต้องเริ่มจาก “จิตใจด้านใน” เป็นหลัก เรื่องเหล่านี้พ่อแม่ไม่ควรมองข้ามไป เพราะแท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ “พ่อแม่สร้างได้”
เริ่มจากการสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง (Self Esteem)ให้ลูก ปลูกฝังตั้งแต่เล็ก เพราะจะมีผลต่อทุกช่วงพัฒนาการ และความภาคภูมิใจจะเป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจให้ทำสิ่งต่างๆ ได้สำเร็จ
สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้เด็กเกิดความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองก็สามารถทำอะไรดีๆ ได้มากมาย รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
เมื่อเขารู้สึกว่ามีกิจกรรมอะไรดีๆ มากมายที่สามารถสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง ผู้อื่น และสังคม เขาจะเรียนรู้เรื่องการมองชีวิต และจะทำให้มองเรื่องความสวยความงามจากภายนอกเป็นเรื่องรอง แต่การให้ความสำคัญจากคุณค่าด้านในของใจสำคัญกว่า
โดย สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน//คอลัมน์ พ่อแม่ลูกปลูกรัก
ที่มาจาก ผู้จัดการออนไลน์