เรื่องของแฟชั่นสำหรับผู้ชายเป็นสิ่งที่พูดกันเท่าไหร่ก็ไม่มีถูกหรือผิด คนที่ชอบแต่งตัวเยอะๆ ก็อาจจะมองคนแต่งตัวเซอร์ๆว่าไม่ดี ส่วนคนแต่งตัวเซอร์ๆ ก็มองคนแต่งตัวเยอะๆว่ามากเกินไป แต่ในอากาศที่ร้อนจัดในบ้านเราตอนนี้ ทั้ง 2 กลุ่มที่พูดมาน่าจะเหมาะกับ item ที่เรากำลังจะพูดถึงในบทความนี้ นั่นคือเสื้อเชิ้ตแขนสั้น เสื้อที่ให้ทั้งความสบายและความเท่ได้ ขึ้นอยู่กับการจับคู่กางกาง รองเท้า และอารมณ์ของเรา
ผู้ชายหลายคนอาจไม่นิยมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ทั้งที่จริงๆแล้วมันเป็นเสื้อที่เราใส่มาตั้งแต่เด็กๆจนถึงมหาลัย ดังนั้น เรื่องความผูกผันมีเต็มร้อยอยู่แล้ว แต่จะมีใครรู้หรือไม่ว่าเสื้อเชิ้ตแขนสั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร?
มันเริ่มจากเป็นอุปกรณ์กีฬา กว่าจะมาดังในเส้นทางสายแฟชั่น
Fashionbeans บอกไว้ว่าเสื้อเชิ้ตแขนสั้นไม่ใช่สิ่งที่ได้รับความนิยมเอาซะเลยในช่วงก่อน ปี 1950s เรียกว่าเปิดตู้เสื้อผ้าผู้ชายสมัยนั้น ไม่มีทางได้เจอเสื้อเชิ้ตแขนสั้นเลย แต่ก็เริ่มได้รับความสนใจขึ้นมาจากใช้เป็นเสื้อในการเล่นเทนนิส เนื่องจากสะดวกสบายขึ้นกว่าการใส่เชิ้ตแขนยาวเล่น จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงช่วง 1950s – 1960s ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างล้นหลาม พัฒนาจากเสื้อผ้ากีฬา มาเป็นเสื้อแฟชั่นเท่ๆ ที่ได้ดาราดังระดับโลกเป็นผู้สร้างกระแสให้ ไม่ว่าจะเป็น James Dean หรือ Elvis Presley และเหล่า Designer ก็หันไปให้ความสนใจเชิ้ตแขนสั้นขึ้นมาทันที
มาถึงช่วงปี 1970 เชิ้ตแขนสั้นก็แย่งชิงพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าผู้ชายทั่วไปได้ในที่สุด แฟชั่นในสมัยนั้นเป็นยุคที่ผู้ชายจิ๊กโก๋ๆจะใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับยีนส์ ฟอกๆและรองเท้าบูท ในขณะที่ผู้ชายที่มีหน้าที่การงานดี จะใส่เชิ้ตแขนยาวกับสูท และหลังจากนั้นไม่นาน เชิ้ตแขนสั้นก็โดนกีดกันอีกครั้ง สังคมมองว่าเชิ้ตแขนสั้นเป็นเสื้อที่ไม่เรียบร้อยนัก จึงค่อยๆถูกลดความนิยมลงไป แต่ไม่ใช่ในยุคปัจจุบัน ที่เชิ้ตแขนสั้น กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เป็นได้ทั้ง Casual และ Smart Casual ในตัว
วิธีเลือกเสื้อเชิ้ตแขนสั้นใส่ให้เท่สุดๆ
– เลือกผ้า Linen เหมาะสุดๆกับอากาศร้อนๆแบบบ้านเรา เนื้อผ้าลินินมีความทนทาน ยืดได้ไม่มากนัก ยับง่าย ไม่ค่อยเข้ารูปมากนัก เน้นใส่แบบ casual แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือใส่แล้วเย็นสบายที่สุด
– จุดที่สำคัญในการใส่ให้ดูดี คือเน้นบริเวณไหล่และแขนเสื้อเป็นหลัก พยายามมองหาเสื้อเชิ้ตแขนสั้นแบบ Slim Fit แต่ไม่ Tight หรือพูดง่ายๆคือเน้นให้หัวไหล่พอดี แขนเสื้อควรจะอยู่บริเวณกลาง bicep ห้ามยาวเกินไปจนอยู่แถวข้อศอกเด็ดขาด และการสวมใส่ขนาดหน้าอกต้องพอดี หลังพอดี ไม่รัดมากเกินไปจนเห็นกล้ามเนื้อหรือพุงชัดเจนจนกระดุมเว้าเป็นรู
– ดูให้ดีว่าเป็นเชิ้ตแขนสั้นแบบยัดในกางเกง (to-be-tucked) หรือแบบปล่อยชาย (untucked) สังเกตุได้จากความยาวและรายละเอียดของชายเสื้อเชิ้ต เพราะอารมณ์ที่ได้จะต่างกันมาก ถ้าเป็นเชิ้ตแขนสั้นแบบ formal มักจะมีชายเสื้อยาวกว่า และโค้งเหมือนเสื้อเชิ้ตแขนยาวทั่วไป
– เชิ้ตแขนสั้นก็สามารถใส่ไปทำงานได้ ด้วย Smart Casual look โดยการเน้นโทนสีเรียบๆ หรือจะมี pattern แบบคลาสสิคก็ยังได้ แต่ทรงต้อง Fit เท่พอดี จับคู่กับกางเกง Chinos พับขาหรือกางเกงสแลค slim fit ขาพอดีๆ บวกกับ Boat Shoes หรือ Loafers ก็เข้าทาง ส่วนถ้าจะใส่แบบ Casual วันหยุดก็แค่เปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นทรงสวยๆก็เรียบร้อย
เสื้อเชิ้ตแขนสั้นเป็นอีกชิ้นที่ดูเหมือนจะใส่ง่าย แต่จริงๆไม่ง่ายเลย ทางที่ดีควรจะต้องลองด้วยตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่ามันพอดีจริงๆ เพราะถ้าพลาดไป เล็กเกินหรือใหญ่ไป ก็ทำให้เราดูผิด Look ได้ง่ายๆ แต่ที่แน่ๆคือมันเหมาะกับช่วงอากาศร้อนๆ และถ้าจับคู่ Mix and Match ได้อย่างลงตัว มันก็เท่มากจริงๆ