เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ “แคนดี้ รากแก่น” รักครั้งล่าสุดกับสาวหล่อนามว่า “กังฟู” งานนี้ทั้งคู่เกี่ยวก้อยกันมาเปิดใจกับทีมข่าว “ช่อง 2” ข่าวลึก บันเทิงร้อน ถึงความรักครั้งนี้ พร้อมเผย “คุณแม่บานเย็น รากแก่น” จากที่เคยไม่ยอมรับเรื่องนี้ ก็กลับเปิดไฟเขียวให้ผ่านแบบสบายๆ
พบรักกันได้ยังไง ?
แคนดี้ : เจอกันในงาน ตอนนั้นแคนดี้เดินสายร้องเพลง แต่ว่าตอนนั้นก็ไม่ได้เป็นนักร้องเต็มตัว พอดีพี่ฟูเขาทำงานด้านส่งเสริมการตลาดที่ไทยประกัน เขาก็มาจ้างวงเรา ซึ่งจริงๆ ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้มีวงนะ เราไม่ได้ดิลงานกันโดยตรง มีลบูกน้องเขาดิลมาอีกทีหนึ่ง แล้วก้ไปเจอกันในงานครั้งแรกที่แคนดี้เจอเขาก็เป็นงานครั้งที่ 2-3 แล้ว แต่พี่ฟูนี่คือเจอเรามาก่อน
เราเป็นคนตั้งใจเลือกเขาให้ไปงานหรือเปล่า ?
กังฟู : ไม่เลย
ไม่ใช่รักแรกพบ ?
กังฟู :รู้จักเห็นเขามานานแล้วในทีวี แต่ว่าไม่เคยเจอกันในงาน
มาปิ๊งกันตอนไหน ?
แคนดี้ : เห็นเขาครั้งแรกแล้วเรารู้สึกว่าเขามีเสน่ดี ด้วยตัวแคนดี้เองชอบคนที่นิ่งๆ อยู่แล้ว พี่ฟูเขาไม่ค่อยพูด นิ่งๆ ขรึมๆ แล้วที่แปลกคือเวลาเจอใครคนจะชอบหยิกแกมหยอกแคนดี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเห็นเราเป็นคนขี้เล่น แต่เขาไม่มีเลย เขามานิ่งๆ เงียบๆ ก็เลยคิดว่าถูกใจ
คุณกังฟูเห็นแคนดี้ตอนแรกรู้สึกยังไง ?
กังฟู : ก็ประทับในสความสามารถ เกินความคาดหมาย เรามองตรงนั้นมากกว่า บนเวทีเขา โอ้โหไม่เคยเห็นใครแสดงแบบนี้
ปกติเราชอบสาวหล่ออยู่แล้วเหรอ ?
แคนดี้ : คือ…เอาเป็นว่าเราไม่ได้มองว่าเป็นเพศไหน แม้แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้มองว่าพี่ฟูเป็นสาวหล่อหรืออะไร อ่านข่าวบางทียังตกใจ เพราะว่าเขาก็คือเขา ไม่ได้มองว่าเป็นเพศไหน แต่ว่าถ้าให้แคนดี้มองจริงๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมองผู้ชายอยู่แล้ว
แคนดี้ปิ๊งก่อน เริ่มจีบกังฟูยังไง ?
แคนดี้ : (หัวเราะ) ในงานเราก็แทบไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว แต่อาจจะมีไปปาร์ตี้กันบ้างนิดหน่อย โดยปกติถ้าเกิดว่าหลังงานแคนดี้จะไม่เคยไปปาร์ตี้กับลูกค้า หรือกับใครอยู่แล้ว อย่างอันนี้เขาไม่ได้มาชวนเองด้วย ลูกน้องเขาชวน เราก็ไป แรกๆ ที่ไป ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอหรืออะไรเพราะเราไม่รู้เขาทำงานอะไร ที่เจอครั้งแรกเราไม่รู้เขาทำงานส่วนไหน หรือกับตรงไหนเกี่ยวอะไรกับเรา แต่พอเจอกฌนรู้สึกดี จนวันหนึ่งรู้สึกว่าจะไม่ได้เจอเขาแล้ว ก็เลยขอเบอร์ไว้ติดต่อ แต่ก็ไม่ได้ติดต่อเหมือนกัน จนพอถึงงานสุดท้ายหลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เจอกันบ้าง
คบกันนานแค่ไหนแล้ว ?
แคนดี้ : เกือบ 2 ปี
ก็นานนะ แต่เพิ่งมีข่าวว่าเปิดตัว ?
แคนดี้ : แคนดี้ไม่ได้เปิดตัวนะ แล้วก็ไม่เคยปิดกับความรักครั้งนี้ ถ้าใครติดตารมในไอจี หรือว่าในเฟชบุ๊คก็จะมีภาพตลอด แต่ว่าวันนั้นก็ไม่ได้เปิด วันนั้นบังเอิญพี่เขาไปให้กำลังใจเรา นักข่าวคงเห็น เรายังตกใจเลยว่าเฮ้ยไม่น่าเป็นข่าวได้แล้วคือไม่คิดว่าคนจะสนใจอะไรขนาดนั้น พอมาอย่างนี้ก็ยังเขินๆ อยู่ หลายๆ คนถามว่าทำไมถึงกล้า ทำไปถึงเปิด พอเรารู้สึกดี เราก็อยากแสดงความรู้สึก ความรัก หรือว่าการแสดงออกซึ่งความรู้สึกจริงๆ ของเราออกมามันมีความสุขนะ เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จตะเกิดอะไรขึ้นเลย ถ้าเราไม่บอกเขาวันนี้แล้วพรุ่งนี้เกิดอะไรขึ้นเราจะทำยังไง ปรากฏว่ามันเกิดอารยธรรมความหวาน ส่งต่อให้คนรอบข้าง
แคนดี้ชอบโชว์หวาน คุณกังฟูรุ้สึกยังไง ?
กังฟู : ก็เขินๆ (หัวเราะ) เขาก็เขินนะ เห็นแบบนี้ส่วนตัวเขาก็เป็นคนขี้อายเหมือนกัน
แคนดี้ทำอะไรหวานๆ ให้เราบ้าง ?
กังฟู : มันมีทุกวันเลย มันยกตัวอย่างออกมาอันหนึ่งไม่ได้
แคนดี้ : เราเป็นคนซ้ายสุด ขวาสุด ในอดีตที่ผ่านมาเราไม่เคยเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ นี่คือคนรักกันนะ แต่พอมีรักครั้งแรกมันก็แสดงออกมาเต็มที่ มันอยากทำให้ มันรู้สึกอยากดูแล
แฟนๆ ของเราเขาว่าไงบ้าง ?
แคนดี้ : เขาตั้งเป็นทีมเลย(หัวเราะ) ทีมฟูดี้ ก็เหมือนให้กำลังใจ หลายๆ คนเขาเห็นเรามานาน อย่างที่บอกเราไม่เคยปิด เห็นเรามาตลอด หลายๆ คนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นสาวหล่อ เวลาเรามีปัญหาเขาก็จะคอยให้กำลังใจ จะเห็นเขาอยู่ข้างๆ ตลอด ไม่ค่อยเห็นคนที่แอนตี้หรืออะไร ทุกคนให้กำลังใจแล้วก็เชียร์
เปิดตัวแบบนี้เรากลัวกระแสออะไรไหม ?
แคนดี้ : อย่างที่บอกว่าวันนี้แคนดี้มีความสุขนะ จากที่ไม่เคยมีเลย อันนี้เป็นความรักที่มีความสุขครั้งแรก เพราะฉะนั้นเราไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เลยรู้สึกว่าถ้ามีความรักก็อยากแผ่ออร่าความรักไปถึงคนอื่น แล้วถ้ามันทำให้คนรอบข้างเรามีความสุขด้วย ไม่ได้เดือดร้อนใคร หรือทำให้เขารู้สึกว่าอยากแสดงความรักแบบนี้บ้าง เราว่าเนี่ยมันได้บุญ มันมีความสุขมากกว่าการที่คิดว่าใครจะคิดยังไง จนทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่เป็นตัวของตัวเอง ความรักครั้งนี้ทำให้แคนดี้ได้เห็นความจริง แล้วก็บอกได้เลยว่าเป็นคนดีขึ้น ใจเย็นลง เมื่อก่อนเราคิดอะไร ทำอะไรคนเดียวมันก็อาจทำให้เราดูแกร่ง ดูกร้าว ดูแรงๆ เขามาแบ่งเบา ทุกครั้งที่เรามีทุกข์เขาจะรับรู้รับทราบ เราไม่เคยเจอความรู้สึกแบบนี้ เราแม้แต่แสดงความรู้สึกแม้แต่นิดเดียว เขายังรู้สึกได้ เราก็เลยรู้สึกว่า อ๋อนี่เหรอคนที่มาแบ่งเบาความรู้สึกเรา
คุณแม่ว่ายังไงบ้าง ?
แคนดี้ : ครั้งแรกเลย เราไม่ได้บอกเขาว่าคุณแม่เคยไม่ยอมรับเรื่องนี้ เราก็แอบพาเขาไปทานข้าว คุณแม่แอบสังเกตุเห็นว่ามันไม่ธรรมดา เราไม่เคยพาใครไปทานข้าวแบบนี้ คุณแม่ก็เลยเรียกคุย ตอนคุณแม่เรียกคุยใจเต้นมาก คุณแม่ก็ถามตรงๆ ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายใช่ไหม ครั้งแรกแม่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร แม่บอกเขาสุขุมดีนะ แม่เห็นเราอยู่ข้างกันแล้วน่ารักดี คือเราเป็นผู้หญิงแล้ว แม่ไม่เคยเห็นเราในมุมปกติอย่างนี้ หลังจากนั้นคุณแม่ก็ลองปล่อยดู อยู่ด้วยกีนแล้วมันมีแต่สิ่งที่ดี คุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร