จากกรณี การเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อโซเชียลว่ามีแพทย์ศัลยกรรมรายหนึ่ง ซึ่งเคยตกเป็นข่าวทำพริตตี้สาวเสียชีวิต จากอาการแพ้ยาสลบขณะผ่าตัดที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อปี พ.ศ. 2557 กลับมาเปิดคลินิกแห่งใหม่ ย่านพระราม 9 กทม. และทำการผ่าตัด “ใบหน้าเรียว” หรือที่เรียกว่า “ผ่าตัดวีไลน์” ผิดพลาดจนเป็นเหตุให้คนไข้เสียชีวิต นั้น
ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ ( 4 พฤษภาคม 2560 ) นายแพทย์วิศิษฏ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสุนนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของสถานพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ในย่านพระราม 9 กทม. พบว่าสถานพยาบาลดังกล่าวมีนิติบุคคลเป็นผู้ขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ประเภทคลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรม ศัลยกรรมตกแต่ง
ญาติผู้ตายอนุญาตให้โดดเด่นดอทคอม เผยแพร่ภาพ ผู้เสียชีวิตในปี 2557 ได้
โดยมีนายแพทย์อายุ 56 ปี ที่มีวุฒิบัตรด้านศัลยกรรมตกแต่ง เป็นแพทย์ผู้ดำเนินการประจำสถานพยาบาล โดยสถานพยาบาลดังกล่าวได้ยื่นเรื่องขอใบอนุญาตประกอบกิจการฯ มาที่กรม สบส.เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 และกรม สบส.ได้ส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจคุณภาพมาตรฐานสถานพยาบาลดังกล่าวในเดือนมีนาคม 2558
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2558 ญาติผู้เสียชีวิตได้ส่งเรื่องร้องเรียนที่สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรม สบส.กรณีผู้ป่วยเสียชีวิตโดยการผ่าตัดในสถานพยาบาล กรม สบส.จึงส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยพบว่าการเสียชีวิตผู้ป่วยรายดังกล่าวไม่มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานสถานพยาบาล แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมาตรฐานวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์ซึ่งอยู่ในการควบคุมกำกับของแพทยสภา โดยกรม สบส.จะรวบรวมเอกสาร หลักฐาน นำเสนอต่อแพทยสภาเพื่อดำเนินการด้านจริยธรรม ซึ่งต้องรอผลการวินิจฉัยจากแพทยสภาว่ามีกระบวนการรักษาที่ได้มาตรฐานตามหลักวิชาชีพหรือไม่ หรือเกิดจากโรคประจำตัวของผู้ป่วย
ทั้งนี้ ในการตรวจมาตรฐานสถานพยาบาลประเภทไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนประจำปี พ.ศ. 2560 ได้จัดให้สถานพยาบาลดังกล่าวอยู่ในกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีประวัติการรักษาที่เป็นเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต
ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ จะตรวจสอบสถานพยาบาลดังกล่าวอย่างเข้มข้นว่ามีการดำเนินการตามเกณฑ์คุณภาพ มาตรฐานที่พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2559 กำหนดครบทุกด้านหรือไม่ ทั้งด้านสถานที่ ต้องสะอาด สะดวก ปลอดภัย, แพทย์ผู้ให้บริการ ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมถูกต้องตามกฎหมาย
หรือต้องมี ใบอนุมัติบัตรตามสาขาที่ขออนุญาตจากแพทยสภา, การบริการเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ,เครื่องมือ ยา และเวชภัณฑ์ มีคุณภาพ ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และความปลอดภัย หากพบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งกรม สบส.จะให้สถานพยาบาลดังกล่าวมีการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้อง หากยังไม่มีการแก้ไขจะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น
ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำให้ประชาชนอย่าด่วนตัดสินใจเลือกรับบริการจากสถานพยาบาล เพราะการโฆษณา โดยเฉพาะจากสื่อโซเชียล หรือคำบอกเล่าปากต่อปากว่าดี ต้องตรวจสอบหลักฐาน และศึกษาให้แน่ชัดว่าสถานพยาบาลดังกล่าวเป็นสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน ถูกต้องตามกฎหมาย
โดยให้สังเกตหลักฐาน 5 ประการที่สถานพยาบาลจะต้องแสดง ประกอบด้วย 1.มีการแสดงเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการฯ 11 หลัก ให้เห็นได้ชัดเจนที่ป้ายด้านหน้าสถานพยาบาล 2.มีการแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ และอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาลไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย 3.ใบชำระค่าธรรมเนียมสถานพยาบาลเป็นปีปัจจุบัน
4.มีป้ายแสดงอัตราค่าบริการชัดเจน พร้อมมีจุดให้สอบถามอัตราค่าบริการ และ5.มีการแสดงป้ายชื่อพร้อมรูปถ่าย เลขที่ใบอนุญาตของแพทย์ที่ทำการรักษา ที่หน้าห้องตรวจ-รักษา และเพื่อความมั่นใจให้ตรวจสอบชื่อสถานพยาบาล ที่เว็บไซต์สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (http://www.mrd.go.th/mrd/)
โดยให้พิมพ์ชื่อสถานพยาลให้ถูกต้อง ระบบก็จะแจ้งให้ทราบทันทีว่าสถานพยาบาลดังกล่าวได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แต่หากไม่พบชื่อให้สงสัยว่าสถานพยาบาลนั้นเป็นสถานพยาบาลเถื่อน ควรหลีกเลี่ยงการรับบริการ และให้แจ้งเบาะแสมาที่กลุ่มคลินิก สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18407 ทันที
หรือจะแจ้งผ่านสื่อมวลชนที่ไว้ใจได้ โดยสามารถแจ้งเบาะแส สอบถาม ปรึกษา รวมทั้งแจ้งสถานพยาบาลเถื่อนต่างๆ มาได้ โดยกดไลค์เฟสบุ๊คโดดเด่นดอทคอม www.facebook.com/dodeden หรือ เว็บไซต์ www.dodeden.com
เพราะทางเว็บไซต์โดดเด่นดอทคอมมีผู้สื่อข่าวประจำกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ดังนั้นข้อมูลต่างๆ นักข่าวจะส่งตรงทางไลน์เพื่อเร่งรัดเอาผิดหมอเถื่อนอย่างทันทีเพื่อให้วงการนี้มีแต่หมอดีๆ เพราะเรายึดมั่นในความถูกต้อง และ มีจรรยาบรรณสื่อมวลชนเสมอ