แชร์เครื่องสำอางกับเพื่อนสาว เวลาที่หมดกระทันหัน หรือขาดบางสิ่งบางอย่างไป และหลายคนคงเป็นใช่มั้ยคะ เวลาไปลองเครื่องสําอางแล้วอดใจไม่ได้ที่จะหยิบลิปสติกที่เป็น tester ทาลงตรงๆ บนริมฝีปาก หรือลองปัดมาสคาร่าดูหน่อยสิว่ามันดีจริงรึเปล่า? ซึ่ง tester ที่ไม่ได้ทําความสะอาด มักจะเต็มไปด้วยเชื้อโรค ไม่รู้จากใครต่อใคร เราจึงสังเกตได้ว่าบีเอตามเคาน์เตอร์เครื่องสําอาง มักจะใส่ใจตรงจุดนี้มาก โดยหากอยากลองสีลิปสติก ก็จะมีแท่งพลาสติกไว้ปาดเนื้อให้เราลองโดยเฉพาะ ไม่ใช้ซ้ำ เพื่อเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง

 

แชร์เครื่องสำอางกับเพื่อนสาว
ภาพจาก : bagnet.org

 

นอกจากนี้ สาวๆ ก็มักจะอดใจแชร์เครื่องสําอางร่วมกับเพื่อนสาวคนสนิทไม่ได้ ซึ่งมันก็สนุกดีที่เราจะเล่นแต่งหน้ากัน แต่เดี๋ยวก่อน !!!ขอให้อ่านบทความนี้ เพราะบางทีการแชร์เครื่องสําอางกันบ่อยๆ นั้น มันก็ส่งผลร้ายได้เหมือนกันนะ!

 

แชร์เครื่องสำอางกับเพื่อนสาว กับความเสี่ยงของการติดเชื้อ

เพื่อนก็ต้องรักษาไว้ แต่ลิปสติกนั้นต้องรักษายิ่งกว่า
เมื่อการติดเชื้อเริ่มเกิดขึ้นได้ง่ายๆ จากการใช้ลิปสติก ลิปไลเนอร์ ลิปกลอสร่วมกัน การไปลองลิปสติกที่เป็น tester ลงบนปากตรงๆ จึงเป็นไอเดียที่ไม่ดีเลย เพราะโรคเริมติดกันง่ายมาก อีกอย่าง ถ้าเราให้ใครยืมลิปสติกไปแล้ว เขามีเชื้อโรคผิวหนังนี้อยู่ เชื้อก็จะลอยวนอยู่ในแท่งลิปสติกนั่นแหละ

เจ็บป่วยได้ง่ายๆ ก็โรคหวัดนั่นเอง
การใช้เครื่องสําอางร่วมกัน อาจทําให้เราเจ็บป่วยต่อมาได้อีกหลายวัน ไม่ว่าจะมีอุปกรณ์อย่างลูกกลิ้ง ฟองน้ำ หรือหลอดบีบ เชื้อไวรัสและแบคทีเรียสามารถส่งผ่านเชื้อผ่านทางหลอดบีบได้ ทําให้รับเชื้อหวัดมาได้เต็มๆ ลองนึกถึงลิปบาล์มในกระปุกสิคะ ให้คนอื่นยืมใช้แบบใช้นิ้วสัมผัสควักเนื้อบาล์มออกมา อื้อหืออออออ เชื้อโรคเข้าไปเพาะในนั้นเต็มที่เลยล่ะ!

 

แชร์เครื่องสำอางกับเพื่อนสาว
ภาพจาก : continentalhospitals.com

 

เสี่ยงเป็นตาแดง โรคเยื่อบุตาอักเสบ
เพราะเชื้อโรคสามารถติดกันได้ง่ายมากผ่านพาหะนําโรค ซึ่งก็คือเมคอัพทั้งหลายที่ใช้กับดวงตา เช่น กบเหลาอายไลเนอร์ ที่ดัดขนตา ดังนั้น ควรล้างทําความสะอาดด้วยสบู่และเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ หรือมาสคาร่าก็เป็นตัวกักเชื้อชั้นดี มันสามารถรับเชื้อได้ทุกครั้งที่เปิดใช้งาน อันนี้ไม่ควรแชร์กับคนอื่นเลย เพราะจะทําให้ตาติดเชื้อง่ายมาก ทั้งเปลือกตาอักเสบ ตาแดง

สิวขึ้น
เมื่ออุปกรณ์แต่งหน้าที่กักเก็บเชื้อโรคได้ง่ายอย่างฟองน้ำ ถูกสับเปลี่ยนเวียนกันใช้ แน่นอนมันจะเป็นที่กักเชื้อได้ง่ายมาก กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อของแบคทีเรียไปเลย จึงไม่แปลกใจที่ช่างแต่งหน้ามืออาชีพ จะทําความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าเหล่านี้ให้สะอาดอยู่เสมอ โดยการซักล้างและผึ่งให้แห้งสนิทก่อนนํามาใช้กับลูกค้า

 

แชร์เครื่องสำอางกับเพื่อนสาว
ภาพจาก : shakura.com

 

มีโอกาสแลกเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันจากผิวของใครหลายคน
แปรงแต่งหน้ามักจะเป็นที่แลกเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กับน้ำมันบนใบหน้ากันไปมา ให้นึกไว้ว่า เราไม่อยากแชร์แปรงสีฟันใช้กับคนอื่น ยังไงนั้น ก็จงทําเช่นเดียวกับแปรงแต่งหน้าของเราเช่นกัน

สัมผัสกับเลือดและของเหลวอื่นๆ ในร่างกาย
อย่างใบมีดโกนนั่นเอง ไม่ว่าจะใช้กําจัดขนใต้วงแขน หรือใบมีดสําหรับกันคิ้ว แม้ว่าเราจะเปิดน้ำก๊อกล้างแล้ว ก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่ามันชําระล้างเศษเลือดหรือของเหลวที่อยู่ในซอกได้หมด เป็นสาเหตุของการติดโรคไวรัสและแบคทีเรีย แต่ที่ร้ายสุดคือเชื้อ HIV และตับอักเสบ มีดโกนจึงห้ามแลกกันใช้เด็ดขาด

นอกจากนี้ การแชร์อุปกรณ์ทำสวยอื่นๆ เช่น มีดตัดเล็บ ใบมีดโกน หรือที่กันคิ้ว ก็ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อราที่เล็บและน้ำกัดเท้าด้วย เพราะเท้ากับนิ้วเท้ามักเป็นที่อยู่ของเชื้อราและมักจะเป็นอะไรที่รักษายาก เช่นเดียวกับใบมีด เราไม่ควรแชร์กรรไกรตัดเล็บกับใคร ยกเว้นในกรณีฉุกเฉินจริงๆ ควรล้างสบู่ให้สะอาดตามด้วยการเช็ดแอลกอฮอล์

เนื้อหาโดย Dodeden.com

 

ป้ายกำกับ:

เรื่องน่าสนใจ