หลังจากเกิดข่าวมีปัญหากันมานานหลายเดือน ระหว่างแพท ณปภา ตันตระกูล นางเอกช่อง 3 และ แมน การิน ศตายุ ดาราหนุ่มชื่อดัง ที่ร่วมกันเปิดคลินิกเสริมความงามย่านสาทร
แต่ล่าสุดแพทได้ยุติในการทำคลินิกเสริมความงามที่ร่วมกับ แมน การิน เรียบร้อยแล้ว
เรื่องราวดังกล่าวมีความเป็นไป เป็นมา ที่ค่อนข้างยาว โดย แมน การิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอมว่า ตนอยากให้จบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดและไม่อยากให้มีข่าวออกมาแล้ว ไม่ว่าแพทจะสัมภาษณ์อะไร เพราะตนไม่ต้องการความขัดแย้ง
เนื่องจากตอนนี้ต่างคนต่างทำธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว เจอกันก็คุยได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร
“ผมมองว่าเรื่องคลินิกเสริมความงามที่แพททำในตอนนี้ ( ย่านสุขุมวิท ) ที่เขาใช้ชื่อเดิมก็น่าจะรุ่ง ผมไม่ได้ว่าอะไรเรื่องชื่อคลินิก อยากให้เขาประสบความสำเร็จมากๆ ขยายสาขาเยอะๆ ร่ำรวย มีงาน มีเงิน
เพราะผมเห็นใจเขา ผมไม่โกรธที่เขาจะออกมาให้ข่าวต่างๆ นานา แต่สิ่งเดียวที่ผมต้องการคืออยากให้เคลียร์เรื่องที่ยังคาราคาซังให้จบ”
แมน การิน กล่าวต่อว่า เรื่องของคลินิกเสริมความงามที่เราลงทุนด้วยกันทั้งหมด 4 คน มีตน แพท เกล ( แฟน แมน การิน ) และพี่อีกหนึ่งคนนั้น ในระยะเริ่มแรกธุรกิจดีมากมีคนไข้เข้ามาใช้บริการอย่างหนาแน่น ได้กำไรดี
แต่ทั้งนี้ พอมาปี 2554 เกิดน้ำท่วมใหญ่ก็ทำให้ธุรกิจทรุดลงเรื่อยๆ และต้องการเอาผลกำไรมาใช้จ่ายเพื่อพยุงคลินิกให้อยู่รอด
จนมาถึงจุดๆ หนึ่งที่ทางอาคารสถานที่ตั้งของคลินิก ( สาทร ) มีปัญหา บวกกับทางคลินิกเรียกระดมทุนเพิ่ม ซึ่งเหตุการณ์นี้มีเพียงตนกับแพทที่ดำเนินธุรกิจต่อ
แต่หุ้นส่วนคนอื่นขอยุติการลงทุนร่วมในครั้งนี้ โดยตนได้คุยกับแพทขอดูผลประกอบการอีก 3 เดือน ถ้าไม่ไหวตนจะขอหยุด แต่พอเมื่อถึง 3 เดือนแล้ว ก็ได้มีการพูดคุยกับแพทถึงผลประกอบการ และแนะนำว่าให้ปิดกิจการหรือย้ายสถานที่ใหม่
อย่างไรก็ตาม พอธุรกิจเริ่มไปไม่ไหวตนก็อยากให้เลิก แต่แพทไม่เลิก ซึ่งตนก็แนะนำไปว่าให้หาคนมาซื้อหุ้นในส่วนของคนอื่นไป
และตนกับหุ้นส่วนก็ยินดีให้ใช้ชื่อคลินิกเดิมต่อไป โดยไม่มีปัญหาใด เพราะเข้าใจว่ากว่าจะสร้างแบรนด์ขึ้นมาก็ต้องใช้เวลา
และสุดท้ายก็ได้คนมาซื้อหุ้นไป เมื่อมาถึงจุดนี้ก็ต้องมีการปิดบริษัทเดิมเพื่อให้แพทไปเปิดบริษัทใหม่ ส่วนเงินที่ได้จากการขายหุ้นและปิดบริษัททางหุ้นส่วนทุกคนก็สมควรจะได้รับตามปกติอยู่แล้ว
รวมทั้งตนก็ไม่ได้คาดหวังว่าเงินก้อนนี้จะเยอะ เพราะเข้าใจถึงสภาวะทางการเงินของบริษัทมาตลอด
ถ้าตนอยากได้เงินจริงคงเอาเครื่องมือในคลินิกไปขายข้างนอกแล้วเอาเงินส่วนนั้นมาแบ่งหุ้นส่วนทุกๆคน มันจะได้เงินมากกว่าหลายเท่า และแพทเองก็จะได้ส่วนแบ่งมากกว่านี้ด้วย แต่ตนและหุ้นส่วนคนอื่นอยากจะให้จบและปิดบริษัทไปเถอะ ดำเนินการให้ถูกต้องทุกประการเท่านั้นไม่ได้อยากจะได้เงินในส่วนอื่นๆ เลย
ส่วนที่บอกว่าตนไม่รับผิดชอบนั้นในวันที่มีการเคลียร์ค่าใช้จ่าย ตนก็ยอมให้มีการหักส่วนที่ควรต้องรับผิดชอบร่วมด้วย โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ ตนอยากให้แพทปิดบริษัทเดิมที่ตนมีชื่ออยู่ด้วยเพราะคลินิกใหม่ที่แพทไปเปิดย่านสุขุมวิทนั้น ตนเกรงว่าหากสมมุติมีปัญหาขึ้นมา หรือ หากเกิดสิ่งใดก็ตาม ตนและหุ้นส่วนเก่าคนอื่นๆ ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
ทางที่ดีอยากให้แพททำให้เรียบร้อย ปิดบริษัทเดิม แล้วไปเปิดใหม่เป็นชื่อแพทกับคุณหมอ ส่วนจะใช้ชื่อคลินิกเดิมหรือไม่นั้นตนไม่มีปัญหาเลย
นอกจากนี้ทางโดดเด่นดอทคอม ถาม แมน การิน ต่อว่าจะสามารถร่วมทำธุรกิจกับแพทต่อไปได้ไหม ??
แมน ตอบว่า ในปัจจุบันตนไม่ได้ทำธุรกิจในสายที่แพทถนัด นั่นก็คือเรื่องความสวย ความงาม ศัลยกรรม จึงคิดว่าไม่น่าจะมาร่วมทำธุรกิจด้วยกันอีก แต่หากเจอหรือได้ร่วมงานกันก็สามารถพูดคุยกันได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรเลย”