บริษัท แอปเปิล จัดงานอีเวนต์พิเศษเมื่อวันพุธ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายอย่างรวมทั้ง ไอโฟน 6เอส และ ไอโฟน 6เอส พลัส ตามความคาดหมาย และทำเซอร์ไพรส์ด้วยไอแพดรุ่นใหม่จอยักษ์…
แอปเปิล บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของโลก จัดงานอีเวนต์พิเศษในวันที่ 9 ก.ย. ที่อาคาร บิล เกรแฮม ซิวิค ออดิโทเรียม ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากมาย รวมทั้ง ‘ไอโฟน 6เอส’ และ ‘ไอโฟน 6เอส พลัส’ ตามความคาดหมาย นอกจากนี้ยังเปิดตัว ‘ไอแพด โปร’ ไอแพดรุ่นใหม่ ซึ่งมีหน้าจอขนาดใหญ่ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซลของ ไอโฟน 6เอส และ 6 เอส พลัส (ภาพ: AP)
เมนูลัดเมื่อใช้ 3D Touch (ภาพ: CNET)
ดาวโหลดไอโอเอส 9 ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. เป็นต้นไป (ภาพ: AFP)
ไอโฟน 6เอส มีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ขณะที่ ไอโฟน 6เอส พลัส จอกว้าง 5.5 นิ้ว ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ไอโอเอส 9 ติดตั้งชิพประมวลผล ‘A9’ ชิพ 64-bit รุ่นที่ 3 ของแอปเปิล ซึ่งมี CPU และ GPU เร็วว่าชิพ A8 ถึง 70% และ 90% ตามลำดับ นอกจากนี้แอปเปิล ยังติดตั้งชิพประมวลความเคลื่อนไหว ‘M9’ ไว้ในชิพ A9 เป็นครั้งแรก ทำให้การเรียกใช้งาน Siri ด้วยคำสั่งเสียง “Hey Siri!” พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ขณะที่พัฒนา TouchID เป็นรุ่นที่ 2 ทำให้การประมวลลายนิ้วมือเร็วขึ้น 2 เท่า ขณะที่รองรับเครือข่าย LTE เพิ่มขึ้นเป็น 23 ย่านความถี่
แอปเปิลยกเครื่องกล้อง iSight ด้านหลังของ ไอโฟน 6เอส และ 6 เอส พลัส ใหม่ ให้มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีพิกเซลมากกว่าเดิม 50% ระบบโฟกัสอัตโนมัติยังรวดเร็วขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี Deep Trench Isolation ซึ่งช่วยรักษาความแม่นยำของสี อีกทั้งยังสามารถถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดระดับ 4K 8 ล้านพิกเซลได้แล้ว ขณะที่กล้อง FaceTime หรือกล้องหน้ารุ่นใหม่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และใช้แสงจากหน้าจอแทนแสงแฟลชเรียกว่า Retina Flash
สัญลักษณ์ระลอกคลื่น เมื่อกดดูภาพแบบ Live Photos (ภาพ: CNET)
ไอโฟน 6เอส และ 6 เอส พลัส มี 4 สีให้เลือก (ภาพ: AP)
ฟีเจอร์ใหม่ของ ไอโฟน 6เอส และ 6 เอส พลัส คือ 3D Touch เพิ่มลูกเล่นเวลากดค้างที่ไอคอนแอพ, อีเมล ฯลฯ โดยจะมีคำสั่งลัดขึ้นมาให้เลือกโดยไม่ต้องเข้าไปในแอพ หรือหากกดค้างที่อีเมลในหน้ากล่องข้อความ ก็จะสามารถดูเนื้อหาภายในได้โดยไม่ต้องกดเข้าไป เมื่อปล่อยก็จะกลับมาอยู่ในหน้ากล่องข้อความเหมือนเดิม 3D Touch ยังทำให้สามารถใช้งานระบบ Mutitasking ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถเปลี่ยนไปยังแอพอื่นที่เปิดอยู่ด้วยการกดมุมจอแล้วด้านข้าง ไม่จำเป็นต้องดับเบิลคลิกที่ปุ่มโฮมเหมือนเมื่อก่อน
3D Touch ยังถูกนำมาใช้ในด้านการถ่ายภาพ โดยแอปเปิลได้เพิ่มการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบใหม่เรียกว่า Live Photos เมื่อกดค้างที่ภาพนิ่งจะทำให้ภาพกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวระยะสั้นไป
ราคาคีย์บอร์ดและดินสอ (ภาพ: AP)
แอปเปิลจะเปิดให้ดาวน์โหลด ไอโอเอส 9 ในวันที่ 16 ก.ย. และจะเปิดให้สั่งจอง ไอโฟน 6เอส และ 6 เอส พลัส ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯ, จีน, ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และอื่นๆ ในวันที่ 25 ก.ย. และจะวางจำหน่ายใน 130 ประเทศทั่วโลกภายในสิ้นปี 2015 โดยมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ เงิน, ทอง, สเปซ เกรย์ และ โรส โกลด์ ส่วนราคาเครื่องแบบติดสัญญา 2 ปี สำหรับ iPhone 6 เริ่มที่ $199 (16GB) ส่วน iPhone 6 Plus เริ่มที่ $299 (16GB)
ภายในงาน แอปเปิลได้เปิดตัว ไอแพด โปร มาพร้อมจอขนาดใหญ่กว้าง 12.9 นิ้ว ความละเอียด 2732×2748 พิกเซล หรือ 5.6 ล้านพิกเซล ติดตั้งชิพประมวลผล A9X ชิพ 64-bit สำหรับไอแพดรุ่นที่ 3 ของแอปเปิล ขยายความกว้างของช่องทางในการส่งข้อมูล (memory bandwidth) เป็น 2 เท่าจากชิพรุ่นก่อน
แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง มีกล้อง iSight 12 ล้านพิกเซล, กล้อง FaceTime หรือกล้องหน้าแบบ HD 5 ล้านพิกเซล รองรับ ไวไฟ 802.11ac มีระบบรักษาสมดุลอัตโนมัติด้านซ้ายและขวาของเครื่องให้ขึ้นอยู่กับลักษณะการถือของผู้ใช้งาน เพิ่มลำโพงเป็น 4 ตัวอยู่บริเวณมุมทั้ง 4 ด้าน
แอปเปิลยังเปิดตัว Smart Keyboard หรือคีย์บอร์ดอัจฉริยะ และดินสอ Apple Pencil สำหรับใช้งานคู่กับ ไอแพด โปร โดยเฉพาะ ซึ่งดินสอแท่งนี้มีความแม่นยำสูงด้วยการสแกนถึง 2 ครั้ง มีเซ็นเซอร์ระบุตำแหน่ง, น้ำหนักการกด และความเอียง
มันมีแบตเตอรี่ในตัวเอง แต่ชาร์จได้โดยเชื่อมต่อกับ Lightning port กับ ไอแพด โปร ได้โดยตรง แอปเปิลยังจับมือกับบริษัทอย่าง ไมโครซอฟท์, อโดบี และอื่นๆ เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่รองรับการใช้กับ Apple Pencil ด้วย
ไอแพด โปร จอใหญ่ขึ้น (ภาพ: CNET)
ดินสอ แอปเปิล เพนซิล (ภาพ: AP)
ไอแพด โปร จะวางจำหน่ายในเดือน พ.ย. โดยเครื่องรุ่น 32GB มีราคา $799 (ราว 28,900 บาท), รุ่น 128GB ราคา $949 (ราว 34,350 บาท) และ รุ่น 128GB+LTE ราคา $1,079 (ราว 39,000 บาท) ส่วนดินสอ Apple Pencil ราคา $99 (ราว 3,580 บาท) ส่วน Smart Keyboard ราคา $169 (ราว 6,100 บาท)
นอกจากนี้ แอปเปิลยังเผยข้อมูลเกี่ยวกับนาฬิกาอัจฉริยะ Apple Watch โดยจะเปิดให้อัพเดตระบบปฏิบัติการ WatchOS 2 ในวันที่ 16 ก.ย. นี้ ส่วน Apple TV ถูกยกเครื่องใหม่ โดยเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการ tvOS กล้องรับสัญญาณใช้ชิพประมวลผล A8 รองรับ Blutooth 4.0 เช่นเดียวกับรีโมตใหม่ ซึ่งมีทัชแพดสำหรับใช้นิ้วสัมผัส และไมโครโฟนสำหรับสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri ทั้งการออกคำสั่งต่างๆ และค้นหาคอนเทนต์ที่ต้องการ การวางจำหน่ายแบ่งเป็น 2 รุ่น โดยกล่องความจุ 32GB ราคา $149 (ราว 5,390 บาท) และกล่องความจุ 64 GB ราคา $199 (ราว 7,200 บาท)
แอปเปิลจับมือกับ แอร์เมส ออกแบบสายนาฬิกาให้ Apple Watch (ภาพ: AP)