โรคหินปูนในหูชั้นในหลุด ภาวะอันตรายของอาการเวียนหัว บ้านหมุน ในตอนเช้าที่ลุกจากที่นอน คุณเคยมีอาการเวียนศีรษะจนต้องล้มตัวลงนอนอีกครั้งไหม? สําหรับใครที่กําลังมีอาการเช่นนี้อยู่ ต้องระวังโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนหลุด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โรคเวียนศีรษะเมื่อเปลี่ยนท่าทาง

 

โรคหินปูนในหูชั้นในหลุด
ภาพจาก medicalnewstoday.com

 

โรคนี้ จะเกิดขึ้นที่บริเวณหูชั้นใน ซึ่งหูชั้นในแต่ละข้าง จะมีกระดูกรูปก้นหอย (Cochlea) ทําหน้าที่รับเสียง และกระดูกหูรูปห่วงครึ่งวงกลมอยู่ข้างละ 3 ชิ้น (Semicircular canal) ทําหน้าที่ควบคุมการทรงตัวภายในกระดูกหู ชั้นใน และมีชิ้นตะกอนหินปูนเล็กๆ เกาะอยู่ (Otoconia) ใต้ตะกอนจะมีเซลล์ชิ้นเล็กๆ ทําหน้าที่รับกระแสสัญญาณ หากหินปูนเคลื่อนหลุดจากที่เกาะ มักจะลอยอยู่ในท่อ ทําให้การรับรู้ การเคลื่อนที่ของศีรษะผิดไป ตวงตาของเราจะกระตุก ภาพสิ่งของรอบๆ ตัวจะหมุนทันที

 

โรคหินปูนในหูชั้นในหลุด ภาวะอันตรายของอาการเวียนหัว บ้านหมุน

โรคหินปูนในหูชั้นในหลุด เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้บ่อยที่สุดในคนที่มีอาการเวียนศีรษะ ซึ่งจะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และมักพบในผู้ใหญ่ที่มีอายุประมาณ 30 – 70 ปี โดยอาการเวียนศีรษะจะเกิดในทันทีที่เปลี่ยนท่าทาง มักจะเกิตตอนล้มตัวลงนอน หรือผงกศีรษะตอนลุกจากที่นอน บางรายพลิกตัวเปลี่ยนท่าจะมีอาการเวียนหัวทุกครั้ง มีอาการบ้านหมุน สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราหมุน หากหลับตานิ่งๆ สักครู่จะหายหมุน แต่อาจมีอาการมึนงงอยู่ต่อสักประมาณ 10 – 30 นาที ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคนี้ อาจเกิดขึ้นจากการได้รับการกระทบกระเทือน หรือบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ หูชั้นในอักเสบ ติดเชื้อ โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือเกิดขึ้นเองตามวัย เป็นต้น

 

โรคหินปูนในหูชั้นในหลุด
ภาพจาก cmaj.ca

 

วิธีการวินิจฉัยอาการมี 2 ขั้นตอนคือ

  • แพทย์หูคอจมูก จะทําการซักประวัติ อาการแสดงระยะเวลาที่เกิดอาการลักษณะท่าทางที่ทําให้เกิดโรค
  • การตรวจร่างกายทางหูคอจมูกอย่างละเอียด ตรวจระบบการทรงตัว การทํางานของระบบประสาท ตรวจอาการเวียนศีรษะที่เกิดจากการเปลี่ยนท่าทาง รวมทั้งการตรวจพิเศษอื่นๆ หากสงสัยว่ามีโรคร่วมอื่นๆ เช่น การตรวจการได้ยิน การตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan), การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เป็นต้น

 

 

ภาพจาก semanticscholar.org

 

หลังจากทําการตรวจวินิจฉัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการรักษา ซึ่งการรักษาโรคหินปูนในหูชั้นในหลุดนั้น มี 3 วิธี คือ

  • ทานยา
    ระงับอาการเวียนศีรษะ แก้อาเจียน ให้น้ำเกลือแร่ เฉพาะในรายที่จําเป็นเท่านั้น
  • แพทย์อาจจะทําการหมุน เพื่อให้หินปูนกลับเข้าที่
    หรืออาจใส่ปลอกหุ้มคอชนิดอ่อน เพื่อป้องกันการก้มเงยศีรษะ หรือให้กลับไปทํากายภาพเองที่บ้าน (physical therapy)
  •  การผ่าตัด
    โดยปกติ โรคนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ แต่เป็นโรคที่สามารถควบคุมอาการได้ แพทย์จะให้การรักษาโดยการทํากายภาพบําบัดเป็นหลัก บางรายมีการให้ทานยาร่วมด้วย แต่หากไม่ตอบสนองต่อการรักษา หรือมีอาการรุนแรงมาก แพทย์อาจพิจารณาทําการผ่าตัด เพื่อทําให้อาการเวียนศีรษะหายไป หรือลดน้อยลง

………………………………………….

อย่างไรก็ตาม แพทย์มักจะแนะนําการดูแลตนเองด้วยวิธีง่ายๆ คือการทํากายภาพบําบัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ง่ายและสามารถทําได้ทุกวัน รวมถึงแนะนําให้ปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการนอน – การลุกจากที่นอน ว่าให้ระวังการขยับศีรษะ ค่อยๆ ลุก และนั่งพัก สัก 1-2 นาที แล้วค่อยลุกขึ้นเดิน แต่ถ้าพบว่าตัวเองมีอาการบ่อยๆ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แขนขาชา อ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อป้องกันการเกิดโรคที่รุนแรงตามมาได้

 

เนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ