ทำเอาฮือฮาสะท้านทั้งวงการนางงาม และวงการหมัดมวย เมื่อนางงามสุดอื้อฉาวแห่งยุค “น้ำเพชร สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ” อดีตรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 ตกเป็นข่าวซุ่มปลูกต้นรักนักมวยหมัดหนัก “บัวขาว บัญชาเมฆ” ถึงขั้นมีกระแสลือว่านักมวยดังประเคนข้าวของให้น้ำเพชร ทั้งรถ แบรนด์เนม ทองคำ
โดยภายหลังข่าวได้เผยแพร่ออกไป ก็ทำให้ฝ่ายนางงามฉาวโดนจวกเละว่าสร้างข่าวขึ้นมาเองหวังสร้างกระแส โดยเฉพาะในแฟนเพจ “บัญชาเมฆยิม” ที่ขุดภาพสมัยเจ้าตัวนั่งแหกอ้าในฐานะพริตตี้มาลงในเว็บแฟนเพจ ก่อนปล่อยหมัดเด็ดรัวๆ ใส่น้ำเพชรไม่ยั้ง ซัดน้ำเพชรชอบทำตัวเป็นข่าว อีกทั้งผู้จัดการของบัวขาวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองเดียวกัน
ในขณะที่น้ำเพชรเก็บตัวเงียบ แทบไม่รับโทรศัพท์ที่กระหน่ำโทร. หาเจ้าตัวหวิดสายไหม้ ปล่อยให้เกิดความคลุมเครือและคาดเดาไปต่างๆ นานา ว่าแท้จริงแล้ว ทั้งคู่ซุ่มคบหาดูใจกันจริงหรือไม่ แต่ในที่สุดเจ้าตัวก็ยอมเปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าว เผยเหตุผลที่ตอบความสัมพันธ์บัวขาวแบบคลุมเครือพราะตนตกใจและตั้งสติไม่ทันหลังโดนกระหน่ำด่าจนอ่วม
“หนูเห็นเพจที่พี่เขาเอามาโพสต์แล้วก็รู้สึกเสียใจมากๆ ค่ะ หนูคงทำอะไรไม่ได้คงได้แต่ยอมรับว่ารู้จักกันจริงๆ หนูเสียใจที่มีคนเข้ามากระหน่ำด่าหนูเยอะมาก คือหนูรู้สึกว่าหนูก็เป็นเด็กนักเรียนในค่ายธรรมดาที่ผ่านมาเราก็พูดคุยกันดีมาตลอด แต่พอเวลาที่มีปัญหามีข่าวแบบนี้ ทางค่ายมวยบัญชาเมฆกลับมาโพสต์ข้อความให้สัมภาษณ์กันแบบนี้ พี่ยิ้ม (ผู้จัดการบัวขาว)ก็เป็นเหมือนคุณครูหนูคนหนึ่ง พี่ยิ้มมาพูดแบบนี้หนูเสียใจค่ะ”
“ที่บอกว่าหนูเป็นคนปล่อยข่าวก็เสียความรู้สึกนะ แต่หนูยังไม่รู้ว่าเขาพูดว่ายังไง อยากเห็นก่อนว่าเป็นยังไงเขาพูดว่าอะไรบ้าง หนูก็ยังงงกับข่าวอยู่เลย หนูว่าเป็นเรื่องของน้ำใจมากกว่าค่ะ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกี่ยวกับความรู้สึกของคน ถ้าเกิดเป็นคนแอดมิน คนในค่าย ผู้จัดการพี่บัวขาวจริงๆ คงให้พี่ผู้จัดการทั้งสองฝ่ายคุยกันก่อนดีกว่าค่ะ”
“ก็แปลกใจว่าข่าวมาได้ยังไง ข่าวยังไงก็เป็นแค่ข่าว ความจริงคือความจริงแต่คือหนูยังงงๆ และตกใจ ที่เห็นพาดหัวข่าวมันแรงมากๆ ซึ่งตัวหนูเองถ้าไม่ได้มีพาดพิงพี่บัวขาวหนูก็อาจจะตอบได้ แต่อันนี้มันพาดพิงก็อยากให้เกียรติให้พี่เขาตอบเองด้วยและหนูเป็นผู้หญิงด้วย หนูเองก็ยังไม่กล้าที่จะสัมภาษณ์กับใครด้วยเพราะหนูพูดได้แค่นี้จริงๆ เรื่องที่พี่เขาซื้อของให้ไม่มีค่ะ กระเป๋าแบรนด์เนมไม่มีเลยค่ะไม่มีรถด้วย”
“ไม่มีชวนกันไปไหน พี่เขาต้องซ้อมทุกวัน หนูไม่ได้เจออะไรแบบนั้น เหมือนเป็นลูกศิษย์ที่ไปเรียนปกติ ถ้าพี่เขาอยู่ก็ต้องเจอแบบนั้นปกติ เวลาเจอกันก็ปกติเหมือนคนเจอกันทั่วไปเลยไม่ได้มีความพิเศษกุ๊กกิ๊กไม่มีเลย ไม่มีความเป็นชู้สาวเลย รู้จักกันมาประมาณหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นไปอย่างตามข่าว ไม่ใช่ชู้สาวเป็นเหมือนพี่น้องกันในวงการ รู้จักกันปกติเลย อย่างไปเรียนถ้าว่างๆ ก็ไปเพราะช่วงนี้หนูทำงานด้วยแต่ถ้าว่างก็ไปออกกำลังกายดูแลสุขภาพนิดหนึ่ง ล่าสุดที่เจอกันนี่จำไม่ได้เลยเมื่อไหร่”
พ้อโดนกระหน่ำด่าอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนโทรศัพ์หรือไลน์คุยกันเป็นเรื่องปกติประสาคนรู้จัก
“ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด มีแต่คนกระหน่ำด่าหนูอีกแล้ว หนูยังตกใจอยู่เลย ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันกับพี่เขาเลยอยากที่จะตอบอีกครั้งหลังจากที่ได้คุยกันแล้ว เพราะว่าหนูก็ไม่รู้ว่าคนที่ออกมาโพสต์เป็นผู้จัดการพี่บัวขาวจริงหรือเปล่า หนูได้ข่าวว่าเป็นของทางเพจ หนูก็อยากให้ทางพี่ผู้จัดการหนูและพี่ผู้จัดการพี่บัวขาวได้คุยกันก่อนหนูถึงจะตอบได้ เพราะหนูยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย หลังจากนี้คงให้พี่ผู้จัดการคุยกัน ยังไงหนูเป็นเด็กเดี๋ยวให้พี่เขาคุยกันเองดีกว่าค่ะ”
“เรื่องโทรศัพท์หรือไลน์ก็ปกติตามประสาคนรู้จัก ไปเรียนก็ทักกันปกติ ทั่วไป เรื่องให้กำลังใจมันก็มีบ้างเหมือนเราเป็นแฟนคลับคนหนึ่งตามปกติ มันเหมือนคนอื่นทั่วไปที่ให้กำลังใจปกติไม่ได้มีอะไรเลย เราเองก็ยังงง ข่าวที่ออกมาแบบเนี่ยมันก็เสียทั้งสองคนซึ่งจริงๆ แล้วพี่เขากับหนูไม่ได้เป็นอะไรกัน หนูมั่นใจ และบริสุทธิ์ใจเราเป็นแค่ครูกับลูกศิษย์เฉยๆ”
อุบตอบบัวขาวสเปก บอกคบคบที่จิตใจ ไม่ใช่หน้าตา
“อันนี้นอกประเด็น (หัวเราะ) จริงๆ แล้วเราคบคนที่จิตใจ ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตาแบบไหนไม่ได้สำคัญ มันอยู่ที่จิตใจการพูดคุยกัน คืออยู่ด้วยแล้วรู้สึกดีมันถึงจะเรียกว่าสเปกหรือเปล่าเพราะสมัยนี้ภายนอกดูกันไม่ได้จริงๆ หนูอยากให้หลายๆ คนเข้าใจ หนูไม่ได้อยากมีกระแสแบบนี้ หลังจากที่หนูมีกระแสลบจากหลายๆ คน หนูก็ไม่อยากวนเวียนกลับไปตรงนั้นอีก ไม่ได้อยากสร้างกระแส หลังจากประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เข้มแข็งขึ้น มันไม่มีใครอยากให้มาด่าเราเยอะๆ หรอกค่ะ มันเจ็บปวด คือถ้าหนูอยากสร้างกระแสจริงๆ หนูทำอย่างอื่นดีกว่า หนูอยากให้พี่ๆ คนที่อ่านข่าวอยากให้โฟกัสในสิ่งที่หนูทำ งานที่หนูทำบ้าง”
“หนูยังไม่มีแฟนค่ะ ยังเรียนอยู่แล้วก็ตั้งใจทำงานด้วย หลังจากที่เจอมรสุมชีวิต ไปกู้ธนาคารเปิดธุรกิจสกินแคร์ของตัวเอง อยากจะทุ่มเทตรงนี้มากๆ เพราะเราอยากทำเพื่ออนาคตเราแล้ว หนูโดนมาเยอะมากแล้ว ไม่มีใครอยากโดนด่าซ้ำสองหรอกค่ะ ไม่ได้เข็ดกับความรักนะคะเพราะถ้ามีเข้าหนูก็ยินดี เรื่องข่าวฉาวไม่เคยมีใครอยากมีข่าวฉาวติดตัว หนูพลาดมาแล้วครั้งหนึ่งไม่อยากให้มีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง”
ขอบคุณเนื้อหา manager