ที่มา: Tnamcot

ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ หลายคนบ่นอุบ แดดร้อนเปรี้ยง เดินไปไหนมาไหนที เหงื่อไหลไคลย้อย หน้าฉ่ำ เสื้อแฉะ พาลปวดหัว บางคนอาบน้ำก็แล้ว เปิดแอร์ก็แล้ว แต่ทำไมยังรู้สึกร้อนวูบวาบอยู่ภายใน

รองศาสตราจารย์ ดร.สมพร กันทรดุษฎี คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยามหิดล กล่าวในรายการบ่ายนี้มีคำตอบว่า ช่วงอากาศร้อนแบบนี้ ปกติร่างกายคนเราทำงานตลอดเวลา จึงเกิดความร้อนในร่างกาย ประกอบกับอากาศที่ร้อนขึ้นจะทำให้ร่างกายร้อนขึ้นไปอีก หลายคนมีวิธีการคลายร้อน เช่น อยู่ในห้องแอร์ อาบน้ำบ่อยขึ้น ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ไอศกรีม แต่ก็ช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น

01

รศ.ดร.สมพร บอกวิธีคลายร้อนได้ดีที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คือ อาหารการกิน และรสชาติของอาหารมีหลายรส ส่วน รสที่ช่วยคลายร้อนได้ดี คือ รสขม และรสเย็น สำหรับชุดอาหารคลายร้อนยอดนิยม เช่น ข้าวชุดน้ำพริกปลาทู พร้อมผักเครื่องเคียงที่มีฤทธิ์เย็น เช่น มะระขี้นก มะระจีน ผักบุ้งไทย ใบบัวบก สายบัว มะเขือยาว มะเขือเปราะ มะเขือเทศ แตงกวา กระเจี๊ยบอ่อน หัวไชเท้า ฟัก เห็ด

ส่วนเมนูอาหารที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ต้มจืดตำลึง แกงเลียง แกงจืดฟัก ข้าวกล้อง น้ำมะพร้าวอ่อน ทานควบคู่กันก็จะช่วยคลายร้อนในร่างกายได้ดี สำหรับผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ฝรั่ง แก้วมังกร แตงโม มังคุด กล้วยน้ำว้า ส้มโอ ชมพู่

02

03

อาหารที่มีฤทธิ์เย็น หากรับประทานให้มากกว่าฤทธิ์เผ็ดร้อน จะช่วยลดความร้อนในร่างกายลง ทำให้การทำงานของอวัยวะภายในยืนยาวขึ้น ช่วยชะลอวัย การเสื่อมของร่างกายช้าลง ผิวพรรณดี อายุยืนยาว

วิธีการสังเกตความร้อนในร่างกาย ง่ายๆ คือ หากอยู่ใกล้จะรู้สึกได้ถึงความร้อน มีแผลในช่องปาก ท้องผูก มีกลิ่นปาก กลิ่นตัวแรง อ่อนเพลีย หากร่างกายมีภาวะร้อนเกินสะสมไว้เป็นเวลานาน อาจพัฒนาไปสู่โรคร้ายแรงอย่าง หัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมะเร็งได้

04

05

การรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับสภาพอากาศแต่ละฤดู จะทำให้ร่างกายสมดุล แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย หากวันไหนรับประทานอาหารฤทธิ์ร้อนมากก็เสริมด้วยอาหารฤทธิ์เย็น ถ้าช่วงไหนร่างกายเย็นก็ปรับด้วยอาหารฤทธิ์ร้อน ซึ่งมักมีกลิ่นฉุน รสร้อนแรง โดยมีหลักคิดง่ายๆ คือ ร้อนแก้เย็น เย็นแก้ร้อน

นอกจากคลายร้อนด้วยอาหารแล้ว สิ่งสำคัญก็คือ อุณหภูมิใจ ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือเย็น ขอให้ใจเราสบาย ก็คงจะยิ้มกันได้ทุกฤดู

เรื่องน่าสนใจ