ควบคุมอาหาร คีย์ลัดสุขภาพดีของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะอาหาร เป็นหนึ่งปัจจัยสี่ ที่มนุษย์ทุกคนจําเป็นต้องมีต้องใช้ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ในอดีต อาหารมีความจําเป็นทั้งในการป้องกัน และการรักษาโรค แต่ปัจจุบัน เรากลับพบว่า อาหารและพฤติกรรมการกินอาหาร กลับเป็นสาเหตุที่ทําให้มีการเกิดโรคภัยไข้เจ็บให้กับมนุษย์ซะงั้น
ยกตัวอย่างเช่น โรคยอดนิยมของคนไทย อย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูง นี่ไง และที่เจอกันอยู่บ่อยๆ ก็คือ เมื่อป่วยเป็นโรคแล้ว พฤติกรรมการกินของคนเราก็ใช่ว่าจะปรับเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ เพราะว่าเป็นความเคยชินที่ถูกสะสมเป็นประสบการณ์ชีวิตมาแต่เล็กแต่น้อย อีกอย่าง คนไทยอย่างเราๆ มักจะให้ความสําคัญกับเรื่องกินค่อนข้างมาก ดังคํากล่าวที่ว่า “เรื่องกินเรื่องใหญ่ เรื่องตายเรื่องเล็ก” หรือ “ท้องแตกตายดีกว่าของเหลือ”
ผู้ที่เป็นเบาหวาน มักจะได้รับคําบอกเล่าว่า ห้ามกินโน่นกินนี่ เดี๋ยวแสลง น้ำตาลขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งกดดันก่อให้เกิดความเครียด เวลาจะกินอะไรก็กังวลไปหมด กลัวว่าน้ำตาลจะขึ้น ก็รู้ว่าตัวเองต้องควบคุมอาหาร แต่จะคุมอย่างไรล่ะ?
บางครั้ง การควบคุมอาหารโดยวิธีการลด หรืออด ก็เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือขาดสารอาหารตามมา ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าผู้เป็นเบาหวานกินไม่เป็น จนเป็นสาเหตุของความไม่มั่นใจในการกินกันขึ้นมา
แล้วจะต้องกินเท่าไหร่ ถึงจะถือว่าพอดี?
คําตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับความแตกต่างกันในด้านของรูปร่าง อ้วนบ้าง ผอมบ้าง ดังนั้น จะต้องมีการคํานวณดัชนีมวลกาย (BMI) ก่อน เพื่อที่จะให้คําแนะนําเรื่องปริมาณ อาหาร และพลังงานที่เหมาะสมกับผู้เป็นเบาหวานมากที่สุด
ดัชนีมวลกาย (BMI)
น้ำหนัก (กิโลกรัม)
____________
ส่วนสูง (เมตร)
คราวนี้ เราก็ต้องบอกให้รู้จักวิธีการแบ่งกินให้เหมาะสมในแต่ละวัน เอากันชัดๆ ไปเลยว่า ในแต่ละคน จะกินข้าวได้กี่ทัพพี กินเนื้อสัตว์ได้เท่าไหร่ ผักผลไม้เท่าไหร่ นม น้ำมัน น้ำตาล น้ำปลาอีกเท่าไหร่ หากจะกินอะไรที่ผิดแปลกไปจากอาหารปกติ ก็ต้องรู้จักการเปลี่ยนกิน หรืออาหารแลกเปลี่ยน ที่เราชอบพูดกันนัก อยากกินอะไรเป็นพิเศษบ้างก็กินได้ แต่ต้องไม่เกินที่เคยกินอยู่ทุกวัน ซึ่งอาหารแลกเปลี่ยนคือ อาหารหมวดเดียวกัน ให้พลังงาน และสารอาหารโดยเฉลี่ยใกล้เคียงกัน จึงสามารถแลกเปลี่ยน หรือทดแทนกันได้
……………………………………………………….
หากต้องการกินข้าวเหนียวทุเรียน หรือข้าวเหนียวมะม่วง ต้องลดข้าวสวยลง เพื่อชดเชยกับการกินข้าวเหนียวทุเรียน หรือข้าวเหนียวมะม่วง เช่น กินข้าวเหนียวครึ่งถ้วย กับมะม่วงครึ่งผล ก็ต้องลดข้าวสวยลง 1 ถ้วยหรือ 1 ทัพพี และลดน้ำมันหรือน้ำตาลที่ใช้ปรุงอาหารลง 1 ช้อนชา
เนื้อหาโดย Dodeden.com