สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Live5News ได้มีการเปิดเผยรายงานข่าวว่า นายชาลส์ตัน จากองค์การอาหารและยาของอังกฤษได้ออกมาเผยว่า ผู้ที่เคยผ่านการฉีดฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ แล้วได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 อาจจะได้รับไซด์เอฟเฟคท์จากการฉีดวัคซีนเกิดขึ้นทำให้เกิดอาการใบหน้า หรือริมฝีปากบวมขึ้นได้
ศัลยแพทย์พลาสติกด็อกเตอร์เดนนิสได้บอกว่า เขาได้มีการเก็บสถิติจากคนจำนวน 15,000 คนที่เคยผ่านการฉีดฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์ แล้วเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 โดยมี 2 คนที่เกิดเอฟเฟคท์ขึ้นอย่างแน่นอนคือมีอาการหน้า และปากบวม ซึ่งคนหนึ่งเกิดอาการขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 วัน ส่วนอีกคนเกิดอาการขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนใน 6 เดือนให้หลัง
ด็อกเตอร์เดนนิสยังเผยถึงผู้ที่เคยผ่านการฉีดฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์ แล้วเกิดอาการอักเสบ มีอาการบวมอีกว่าเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนหรือไม่นั้น ประโยชน์ของตัววัคซีนที่มีประสิทธิภาพป้องกันโรค Covid-19 นั้น อาจจะมีการทำงานที่ส่งผลต่อสารแปลกปลอมอื่นๆ ในร่างกาย เขายังเผยอีกว่าการที่วัคซีนมีปฏิกิริยาทำให้เกิดอาการบวมในผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์มาจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน
เขายังกล่าวอีกว่า แน่นอนว่าร่างกายของคนเราจะมีการระแวดระวังสิ่งที่ผิดปกติในร่างกายเป็นพิเศษ และฟิลเลอร์ก็เป็นหนึ่งในสารแปลกปลอม ดังนั้นเมื่อมีการฉีดวัคซีนจึงทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ทำให้มีอาการบวม อักเสบขึ้นได้ เช่นเดียวกับที่ในสมัยก่อนมีอาการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แล้วเกิดปัญหาเช่นเดียวกัน ดังนั้นวัคซีนป้องกัน Covid จึงไม่ใช่วัคซีนที่ทำให้เกิดอาการอักเสบดังกล่าวโดยเฉพาะ ซึ่งอาการอักเสบอาจจะเกิดขึ้นได้ในบางคน ถ้าหากใครที่มีปัญหาดังกล่าวก็ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ดูอาการอย่างรวดเร็วนั่นเอง
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่
