ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

ปภ.สั่งเฝ้าระวัง 24 ชม. พื้นที่ภาคกลาง-อีสาน รับมือฝนตกหนัก-น้ำป่าหลาก-ดินถล่ม เผย ช่วง 3-5 ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดน้ำท่วม 2 จังหวัดในนครสวรรค์ และระยอง ชี้หากไม่มีฝนเพิ่ม สถานการณ์จะคลี่คลายสู่ปกติ…

EyWwB5WU57MYnKOuXobWT9NKIPGw8L9ioKHT7lt77rsBsHGCuc1EDF

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหนาแน่น และฝนตกหนักบางแห่ง

อีกทั้งระยะนี้มีฝนสะสมในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย จึงได้เน้นย้ำให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย

สำหรับฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 3-5 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 2 จังหวัด 5 อำเภอ ดังนี้ จ.นครสวรรค์ น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ไพศาลี อ.ลาดยาว และ อ.บรรพตพิสัย โดยปัจจุบัน อ.ไพศาลี สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วน อ.ลาดยาว และ อ.บรรพตพิสัย หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1–2 วัน ขณะที่ จ.ระยอง มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านฉาง และ อ.นิคมพัฒนา หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้

ทั้งนี้ ทางกรมป้องกันฯ ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่ พร้อมวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ภัย และให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ตลอดจนซ่อมแซมสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว

เรื่องน่าสนใจ