เนื้อหาโดย Dodeden.com

ในฐานะ “พระราชา” พระองค์จะใช้ชีวิตหรูหรามากแค่ไหนก็ได้ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ “ในหลวง รัชกาลที่ 9” ทรงยึดถือปฏิบัติ เพราะเรารู้กันดีว่า พระองค์คือต้นแบบของความพอเพียง “ที่ไม่ต้องแพงและหรูหรา” แค่ใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าก็พอเเล้ว

รถธรรมดา … ของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่
แม้จะเรียบง่าย แต่ก็เป็นรถพระที่นั่งที่พระองค์ท่านทรงโปรด รถพระที่นั่งคันนี้ มีนามว่า “เจมส์ บอนด์” เป็นรถรุ่น Volkswagen Caravelle T4 สีเทา หมายเลขทะเบียน 1ด-0929 ด้านในรถมีความเรียบง่าย แทบไม่มีอะไรเลย นอกจากเครื่องวิทยุเดิมๆ ที่ติดมากับรถ กับโต๊ะขนาดเล็กไว้ทรงงาน มาพร้อมกับนายช่างประจำตัวที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการซ่อมบำรุงรถรุ่นนี้ เพื่อรับหน้าที่ในการดูแลและซ่อมแซมรถ ซึ่งรถพระที่นั่งคันนี้ ถูกใช้เป็น “รถอัญเชิญพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9” พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ในหัวใจคนไทยทั้งแผ่นดิน ซึ่งรถเคลื่อนพระบรมศพ ไม่มีการตกแต่ง ไม่มีแม้แต่ธงประดับ รถที่แสนธรรมดา แต่ข้างใน คือ พระราชาผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่รักยิ่งของคนไทย

 

นาฬิการาคาถูก ก็เดินเหมือนนาฬิการาคาแพง
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เล่าถึงนาฬิกาของในหลวง รัชกาลที่ 9 ไว้ว่า “เมื่อปี พ.ศ.2524 ครั้งหนึ่ง ผมพยายามจะแอบดูว่า พระองค์ท่านใส่นาฬิกายี่ห้ออะไร จนพระองค์ท่านรู้สึกได้ว่าผมพยายามอยากจะดูยี่ห้อ ท่านจึงยื่นข้อพระหัตถ์มาให้ดูตรงหน้า จึงทราบว่าพระองค์ ท่านใส่นาฬิการาคาเพียงเรือนละ 750 บาทเท่านั้น ซึ่งก็เดินเหมือนกันกับนาฬิกาเรือนแพง” ส่วนนาฬิกาข้อพระกรในภาพ คือ นาฬิกา Seiko SKJ045P นาฬิกาดำน้ำระบบ Kinetic ตัวเรือนเป็น Titanium ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงสวมในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี (ซึ่งจัดขึ้นในปี 2549) แรกเริ่มเดิมที ขายในราคาเพียงหลักพัน หากแต่ได้เลิกผลิตไปเป็นระยะเวลาร่วม 10 ปีแล้ว เมื่อมีข่าวว่าเป็นนาฬิกาข้อพระกรที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงสวม ราคานาฬิการุ่นดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นไปเป็นร้อยเท่าตัว

 

ไม่ต้องมีเยอะ เพราะเวลาเดินคนเราใส่รองเท้าได้คู่เดียว
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เล่าถึง ฉลองพระบาทของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่หลายคนหากทราบถึงราคาคงจะตกใจ เพราะคู่ละ 300 – 400 บาทเท่านั้น อีกทั้งฉลองพระบาทของพระองค์ยังถูกนำส่งไปซ่อมแล้วซ่อมอีก ที่ร้านเล็กๆใกล้วัง ชื่อ ร้าน ก.เปรมศิลป์ (สี่แยกพิชัย) นาย ศรไกร แน่นศรีนิล ช่างทำรองเท้า ได้เล่าว่า ฉลองพระบาทคู่โปรดของพระองค์ท่านนั้น เป็นรองเท้าหนังสีดำธรรมดา สภาพชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากการใช้งานหลายสิบปี ภายในรองเท้าผุกร่อนหลุดล่อนหลายแห่ง ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไป ก็อาจจะทิ้งไปแล้ว แต่พระองค์ท่านให้นำมาซ่อมเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่สามารถซ่อมได้แล้วจึงเปลี่ยนใหม่
ขณะที่ข้าราชบริพารใส่รองเท้าคู่ละ 3,000 – 4,000 บาท แต่เวลาพระองค์ทรงออกเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ห่างไกล ที่สุดแล้ว ข้าราชบริพารก็เดินตามพระองค์ไม่ทันอยู่ดี … พระองค์ท่าน มักจะตรัสถึงสาเหตุที่ไม่จำเป็นต้องมีฉลองพระบาทมากมาย ว่า “เวลาเดิน คนเราใส่รองเท้าได้คู่เดียว”
บีบจนแบนราบ ใช้ด้ามแปรงรีดจนเรียบ
ภาพหลอดยาสีพระทนต์ที่มีลักษณะแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษนี้ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอดยิ่งปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะพระองค์ท่านทรงใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีดและกดจนเป็นรอยบุ๋ม จนไม่หลงเหลือยาสีพระทนต์อยู่ในหลอด ครั้งหนึ่งมหาดเล็กห้องสรง เห็นว่า ยาสีพระทนต์ของพระองค์คงใช้หมดแล้ว จึงได้นำหลอดใหม่มาเปลี่ยนให้แทน เมื่อพระองค์ทรงทราบ ก็ได้ขอให้นำยาสีพระทนต์หลอดเก่ามาคืน และพระองค์ท่านยังทรงสามารถใช้ต่อไปได้อีกถึง 5 วัน
ดินสอแต่ละแท่ง ใช้ให้คุ้มค่าที่สุด
มีบันทึกว่า ในแต่ละปีพระองค์ท่านจะทรงเบิกดินสอที่มียางลบติดท้ายแท่ง เพียงแค่ 12 แท่งเท่านั้น โดยใช้เดือนละ 1 แท่ง จนกระทั่งดินสอแท่งนั้นสั้นเมื่อสั้นจะทรงใช้กระดาษมาม้วนต่อปลายดินสอให้ยาว เพื่อเขียนให้ได้ถนัดมือจนกระทั่งเขียนไม่ได้แล้วจึงเปลี่ยนแท่งใหม่ 

การกระทำสำคัญกว่าคำพูดใดๆ … “ในหลวง รัชกาลที่ 9”  ไม่ได้แค่ตรัสสอนให้พวกเราฟัง แต่ทรงทำให้พวกเราเห็นว่า การใช้ชีวิตอย่างพอเพียงของพระองค์นั้น ทำได้จริง และเป็นการใช้ชีวิตที่มีความสุขได้เช่นกัน 

เรื่องน่าสนใจ