ทุกครั้งที่เดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต คุณอาจจะใช้เวลามากขึ้นเพื่อพิจารณาเลือกซื้ออาหารโดยการ อ่านฉลากโภชนาการ ของแต่ละผลิภัณฑ์อย่างละเอียด เพราะนักวิจัยด้านโภชนาการพากันยืนยันว่าคนที่ อ่านฉลากโภชนาการ สามารถลดแคลอรีจากไขมันมากกว่าคนที่ไม่อ่าน และยังมีอีกหลายเหตุผลที่คุณควรเช็กข้อมูลทางโภชนาการเพื่อเลือกสิ่งดีที่สุด

 

ข้อมูลทางโภชนาการชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างอาหารสุขภาพ และอาหารสําเร็จรูปที่ผลิตขึ้นเพื่อความสะดวกสบายของผู้บริโภคเท่านั้น มันเป็นทางเดียวที่บอกให้รู้ว่า ของกินที่คุณหยิบมานั้นดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่

จากเอกสารที่ตีพิมพ์ใน Food Advisory Consumer Service, South African Law ผู้ผลิต จําเป็นต้องเผยข้อมูลเฉพาะที่ระบุไว้บนฉลากอาหาร อาทิ พลังงานทั้งหมด(กิโลจูล) โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน น้ำตาล เกลือ (โซเดียม) และวิตามินต่อปริมาณอาหาร 100 กรัม หรือ 100 มิลลิลิตร นี่คือสิ่งที่ควรระบุไว้ต่ออาหารในปริมาณปกติ อาจรวมวิตามินและเกลือแร่อย่างน้อย 15% เมื่อเป็นอาหารที่แนะนําให้กินทุกวัน หรือสรรพคุณที่ผู้ผลิตกล่าวอ้างว่าไขมันต่ำหรือไฟเบอร์สูง ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกับยี่ห้ออื่น

คุณประโยชน์ของสินค้า ที่คุณจะได้จากการ อ่านฉลากโภชนาการ

ปกป้องหัวใจให้เเข็งเเรง
อาหารที่ดีต่อหัวใจควรมีไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 1 ใน 3 ของไขมัน (เช่น หากอาหารมีไขมันประกอบ 6 กรัม ไขมันอิ่มตัวต้องไม่เกิน 2 กรัม) คอเลสเตอรอลที่อยู่ในเลือดไม่ได้มาจากอาหารคอเลสเตอรอลสูงหรอกนะคะ องค์กรสุขภาพแห่งโลกระบุว่า ร่างกายของคนเราสร้างคอเลสเตอรอลขึ้นจากไขมันอิ่มตัว การบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์มากเกินไปมีผลต่อโรคหัวใจและโรคไม่ติดต่อหลายชนิดที่มีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นทั่วโลก

ไขมันเหล่านี้จะเพิ่มระดับ LDL (ไขมันไม่ดี) ก่อให้เกิดชั้นไขมันในหลอดเลือด ดังนั้น วิธีจํากัดปริมาณการบริโภคไขมันอิ่มตัวจึงช่วยลด LDL ได้ อาหารบางประเภทอย่างไข่และนมแทบจะไม่มีไขมันอิ่มตัวหรือมีไม่เกิน 1/3 ของไขมันทั้งหมด นี่เป็นตัวอย่างพื้นๆ ที่บ่งบอกว่าทุกสิ่งมีข้อยกเว้น แม้ไข่ขาวจะมีคอเลสเตอรอลสูงแต่ไข่ขาวประกอบไปด้วยโปรตีนล้วนๆ แถมยังมีกรดอมิโนที่สําคัญต่อร่างกายอีกด้วย ปริมาณที่ควรได้รับคือ 20 กรัมต่อวันหรือน้อยกว่านั้น

มองหา “ไขมัน 0 กรัม ในตารางแสดงสารอาหาร และในส่วนผสมไม่มี “hydrogenated”
ถ้าผู้ผลิตไม่ระบุว่ามีไขมันทรานส์ คุณไม่มีทางรู้เลยว่าอันที่จริงมันอาจแอบซ่อนอยู่ก็ได้ เราหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ได้โดยไม่กินฟาสต์ฟู้ด อาหารทอดกรอบ และอาหารแปรรูปต่างๆ ดูง่ายๆ หากอาหารนั้นมีลักษณะกรอบ อย่างแคร็กเกอร์ บิสกิต และขนมอบทั้งหลาย พวกนี้ต้องมีไขมันทรานส์อย่างแน่นอน

ทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อาหารแต่ละมื้อควรมีไขมันน้อยกว่า 10 กรัม และขนมควรมีไขมันน้อยกว่า 5 กรัม อาหารที่มีปริมาณไขมันน้อยกว่า 3 กรัมต่อปริมาณ 100 กรัม จัดเป็นอาหาร “ไขมันต่ำ” แต่คุณต้องแน่ใจว่ามันเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และกรดไขมันจําเป็น นอกจากนี้ยังต้องประกอบด้วยน้ำมันจากพืช นี่สิถึงจะเป็นเฮลตี้ฟู้ดของแท้ ปริมาณที่ควรได้รับต่อวันคือ 20-35% ของพลังงานทั้งหมด และ 2 ใน 3 ควรมาจากไขมันไม่อิ่มตัว

การอ่านฉลากอาหารช่วยให้คุณไม่หลงเชื่อคําโฆษณาเกินจริง และไปถึงเป้าหมายเพื่อสุขภาพที่ตั้งไว้อย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าหมายอะไรไว้ อยากหุ่นเพรียวสวย ต้องการบำรุงสมอง ก็บรรลุเป้าหมายได้ไม่ยาก เพียงแค่เสียเวลาอ่านฉลากโภชนาการสักนิด

 

เนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ