เนื้อหาโดย Dodeden.com

มีหลาย ๆความเชื่อที่เล่าต่อกันมาปากต่อปาก บางครั้งก็ยังไม่มีผลวิจัยรองรับ หลาย ๆ คน ก็เชื่อ ก็แชร์กันไปเรียบร้อยแล้ว ยิ่งเกี่ยวกับสุขภาพ ที่บอกว่าทำแล้วจะอันตราย หรือทำแล้วจะดี เรายิ่งต้องศึกษาข้อมูลว่ามันดีจริงหรือ มันใช่หรือ อย่างความเชื่อดังต่อไปนี้ทำอาจเคยได้ยิน แต่แท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่ ไปดูกันค่ะ

ไหมขัดฟันป้องกันโรคหัวใจ
หลายศตวรรษมาแล้วที่หมอหลายคนพยายามโน้มน้าวให้เราเชื่อว่า โรคในช่องปากเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ พวกเขาคิดว่าแบคทีเรียทีอาศัยอยู่ในปาก นอกจากก่อให้เกิดโรคเหงือกแล้ว มันอาจหลุดเข้าไปในกระแสเลือด ทําให้เราติดเชื้อ แล้วเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองตีบ ความจริงก็คือ อะไรที่มันเกิดในปาก มันก็ยังอยู่แค่ในปาก แม้หมอหลายคนจะเชื่ออย่างนั้น แต่ก็ยังไม่มีการศึกษาใดรองรับความคิดนี้ ความหวานต่างหากคือผู้ร้ายตัวจริงที่เอื้อให้เกิดทั้งโรคเหงือกและโรคหัวใจ ไม่ใช่เป็นเพราะโรคเหงือกอย่างที่ใครๆ เคยเชื่อกัน สิ่งที่ต้องทําคือใช้ไหมขัดฟันต่อไป ไม่ใช่เพื่อหัวใจ แต่ไหมขัดฟันป้องกันการเกิดโรคเหงือกอักเสบ (คุณจะรู้สึกปวดและอาจถูกถอนฟัน) แถมลดการเกิดกลิ่นปากที่น่าอายได้ 

ถั่วเหลืองเป็นต้องห้ามสําหรับคนเคยเป็นมะเร็งเต้านม
เพราะในถั่วเหลืองมีสารไอโซฟลาโวน (isoflavones) มีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน แพทย์จึงกังวลว่าการกินเต้าหู้จะไปกระตุ้นเนื้อร้ายในเต้านมยิ่งโตขึ้น นอกจากนี้การวิจัยเมื่อปี 2006 ยังพบว่า สาร genistein ในถั่วเหลืองกระตุ้นให้มะเร็งในหนูทดลองโตขึ้น ความจริงก็คือ อาหารจากถั่วเหลืองนั้นปลอดภัยต่อสาวๆ ทุกคน ไม่ใช่แค่ปลอดภัยนะคะ แต่ยังปกป้องคุณด้วย

ผลศึกษาล่าสุดปี 2014 ชาวจีนและอเมริกันที่เคยเป็นมะเร็งเต้านม 10,000 คน บริโภคไอโซฟลาโวนมากกว่า 10 มิลลิกรัม/วัน (เท่ากับนมถั่วเหลืองครึ่งแก้ว) มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมซ้ำๆ น้อยลง แอนตี้ออกซิแดนต์ และวิตามินในถั่วเหลืองมีประโยชน์ต่อผู้หญิงทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านม (อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยนี้หมายถึงถั่วเหลืองเท่านั้น อาหารอื่นๆ อาจมีไอโซฟลาโวนสูงเกินไป)

ข่าวดีอีกอย่างคือ ถั่วเหลืองยังลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด สิ่งที่ต้องทําคือบริโภคเพียง 1 ครั้งต่อวันเท่านั้น ย้ำ! ในปริมาณที่พอเหมาะ ถั่วเหลืองก็เหมือนกับดาร์กช็อกโกแลตและไวน์นั่นแหละค่ะ ให้ประโยชน์เมื่อกินในปริมาณที่พอดี ผู้หญิงควรได้รับไอโซฟลาโวนวันละไม่เกิน 25 มิลลิกรัม แต่ผงถั่วเหลืองหรือโปรตีนมีไอโซฟลาโวนถึง 50-100 มิลลิกรัม ซึ่งสูงเกินไป แนะนําให้กินถั่วเหลือง (ถั่วแระ และเทมเป้) เพียงวันละครั้ง หรือผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากถั่วเหลืองเพียงวันละนิดเท่านั้น พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงขนมจากถั่วเหลือง ผงถั่วเหลือง เพราะมีไอโซฟลาโวนสูงเกินไป

น้ำสลัดไร้ไขมันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ไม่ว่าการศึกษาชิ้นไหนๆ ก็พูดถึงอาหารกับความอ้วน และคําพูดที่ว่า “You are what you eat” ก็เห็นจะเป็นเรื่องจริง ดังนั้นหากคุณพยายามลดน้ำ
หนักหรืออยากใส่เสื้อไซส์เดิม ง่ายๆ แค่กิน้ำสลัดไร้ไขมันช่วยได้เยอะ ความจริงก็คือ คุณจะได้รับสารอาหารมากกว่าถ้ากินน้ำสลัดที่มีไขมัน สลัดเป็นเหมือนหีบสมบัติเก็บวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ไว้มากมาย ถ้าเลือกกินน้ำสลัดไร้ไขมัน คุณจะพลาดของดี เพราะไขมันกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารในผัก ที่เรียกว่าแคโรทีนอยด์ได้เต็มที่ พบมากในแครอท มะเขือเทศ และพริกหวาน มันไม่ได้เป็นแค่ผักสีสันสวยงามเท่านั้น แต่ช่วยปกป้องคุณจากโรคมะเร็ง โรคที่เกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือด ตลอดจนความเสื่อมของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ (เช่น กล้ามเนื้อตาเสื่อม) นักวิจัยพบว่าน้ำสลัดประกอบด้วยไขมันไม่อิ่มตัวที่ดูดซึมสารอาหารดีกว่าไขมันอิ่มตัว สิ่งที่ต้องทําคือ เพิ่มไขมันให้สลัดสักหน่อย เราไม่ได้สนับสนุนให้คุณกินน้ำสลัดครีมหรือบลูชีส แต่เราแนะนําให้เลือกน้ำสลัดที่ทําจากคาโนล่าหรือน้ำมันมะกอก เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากผักเต็มๆ แถมขนาดรอบเอวไม่เพิ่มอีกด้วย

ในวงการวิทยาศาสตร์มันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกค่ะ มีทฤษฎีที่ขัดแย้งกันหรือทฤษฎีใหม่หักล้างทฤษฎีเก่าเสมอ ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย แม้การค้นพบใหม่ๆ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง ก็ทําให้คุณสับสนอยู่ดี อย่ากังวลใจไปค่ะ หมั่นหาข่าวและบทความใหม่ๆ มาอ่าน เพื่อที่คุณจะได้ล่วงรู้แบบทันใจไม่ตกข่าว!!

 

 

เรื่องน่าสนใจ