ที่มา: มติชน

จากรายงานของยอนฮัพ สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือได้รายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้สั่งให้ทหารที่ประจำอยู่บริเวณการอยู่บริเวณแนวหน้าติดกับชายแดนประเทศเกาหลีใต้ยกระดับความพร้อมสำหรับการสู้รบพร้อมประกาศให้ประเทศเข้าสู่ “สภาวะกึ่งสงคราม” หลังทั้งสองประเทศมียิงปืนใหญ่ตอบโต้กันบริเวณชายแดนด้านตะวันตกเมื่อวานนี้

14401290291440130218l

“ผู้บังคับบัญชาแห่งกองทัพประชาชนเกาหลีได้ถูกส่งเข้าประจำการในแนวหน้าอย่างเร่งด่วนเพื่ออำนวยการรบอันมีวัตถุประสงค์ในการทำลายเครื่องมือที่ใช้ในการทำสงครามจิตวิทยาหากศัตรูยังไม่ยุติการโฆษณาชวนเชื่อภายใน48 ชั่วโมง และเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตอบโต้จากศัตรู” คำประกาศของสื่อเกาหลีเหนือกล่าว

การยิงอาวุธหนักตอบโต้ระหว่างสองประเทศเริ่มขึ้นเมื่อเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่เข้าใส่เกาหลีใต้เมื่อช่วงบ่ายเมื่อวานนี้(20สิงหาคม)ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนออกแถลงการณ์ข่มขู่เกาหลีใต้ให้ยุติการออกอากาศโฆษณาชวนเชื่อบริเวณชายแดน

เอเอฟพีรายงานว่า ระยะเวลาที่เกาหลีเหนือขีดเส้นใต้ไว้จะตรงกับเวลา 17 นาฬิกาของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขู่พร้อมกล่าวว่า เกาหลีใต้จะออกอากาศโจมตีเกาหลีเหนือต่อไป

14401290291440130239l

นอกจากนี้ สำนักข่าว Rodong Sinmun สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือยังได้เผยแพร่แถลงการณ์ซึ่งออกเมื่อวันพุธที่ผ่านมาขององค์กรร่วมเพื่อชนชั้นแรงงานแห่งชาติของเกาหลีเหนือซึ่งประณามนางปาร์กกึนเฮประธานาธิบดีเกาหลีใต้ด้วยถ้อยคำที่มีลักษณะข่มขู่เอาชีวิตว่า “ปาร์ก กึน เฮ ควรถูกฝังในสุสานโดยเร็วที่สุด”

แถลงการณ์ดังกล่าวได้ประณามคำแถลงของนางปาร์กที่กล่าวเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมาที่ขอให้เกาหลีเหนือยอมรับความเปลี่ยนแปลงตามกระแสของนานาชาติ โดยได้ตอบโต้นางปาร์กกลับไปว่า ผู้ที่ควรเปลี่ยนแปลงคือเกาหลีใต้ “อาณานิคมของสหรัฐฯ”

โฆษกองค์กรแรงงานแห่งเกาหลีเหนือยังกล่าวหาว่า เกาหลีใต้เป็นฝ่ายที่ยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า โดยเฉพาะการวิจารณ์ประเด็นนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ที่แถลงการณ์อ้างว่าไม่ใช่แค่ประชาชนเชื้อชาติเกาหลีเท่านั้น แต่ทั่วทั้งโลกยอมรับว่า อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการปกป้องสันติภาพและความมั่นคงของชาติ และมีเพียงนางปาร์กเท่านั้น “ที่ไม่ยอมรับความจริงที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล”

14401290291440130239l

นอกจากนี้ แถลงการณ์นี้ยังโจมตีนางปาร์กอย่างสาดเสียเทเสียว่า “ไม่ว่าเธอจะโบ๊ะหน้าให้หน้าเตอะอย่างไร ก็สายเกินไปที่จะปิดบังความเน่าเฟะที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมาจากตัวเธอ พร้อมกับความฉอเลาะ ตลบแตลง และความต้องการเผชิญหน้า และท่าทีอันเป็นปฏิปักษ์ของเธอได้”

“สิ่งที่เธอควรจะต้องทำเพื่อชาติคือการออกจากชงวาแด (ที่ทำการของประธานาธิบดีเกาหลีใต้) บ้านพักของสุนัขรับใช้สหรัฐฯ ปิดปากอันบิดเบี้ยวของเธอ และฝังร่างที่ก่ออาชกรรมมาอย่างโชกโชนของเธอลงในสุสานโดยเร็วที่สุด” แถลงการณ์ขององค์กรร่วมเพื่อชนชั้นแรงงานแห่งชาติของเกาหลีเหนือกล่าว

เรื่องน่าสนใจ