ที่มา: Prachachat.net

จากกระแสข่าวกรณีรัฐบาลเตรียมพิจารณายุบห้องสมุดทีเคปาร์ค ทีซีดีซี หรือศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (Thailand Creative & Design Center) และมิวเซียมสยาม โดยเตรียมนำเข้าที่ประชุมครม.ในวันนี้ (10 พ.ย.58) กระแสในโลกออนไลน์และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว 

ไม่ว่าจะเป็น  “สิริกร มณีรินทร์” ผู้ก่อตั้ง ทีเคปาร์ค และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่แสดงความเห็นและตั้งคำถามว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการปิดประเทศทางปัญญาหรือไม่ ในฐานะผู้ก่อตั้งและอดีตกรรมการบริหาร ตนยืนยันว่าตั้งใจทำสิ่งที่เป็นเสมือนโครงสร้างทางปัญญาให้แก่เด็กและเยาวชน ไม่ได้เป็นเพียงห้องสมุดที่ให้บริการในห้างหรูเท่านั้น

09

ด้านตัวแทนเยาวชน “พริษฐ์ ชิวารักษ์” หรือ “เพนกวิน” นักเรียนชั้นม.5 ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา และเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊คเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณากรณีการเสนอยุบองค์กรดังกล่าวซึ่งมีความสำคัญต่อเยาวชนไทยและในฐานะเยาวชนที่มีความผูกพันกับทีเคปาร์คซึ่งเป็นแหล่งให้ความรู้ตนมาโดยตลอด

10

อีกทั้งนักเขียนชื่อดังอย่าง”นิ้วกลม”หรือ”สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์”ก็ได้ออกมาโพสต์แสดงความเห็นถึงประโยชน์ขององค์กรดังกล่าวที่มีส่วนให้นักคิดนักเขียนศิลปินแขนงต่างๆ สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้เพราะการมีอยู่ขององค์กรเหล่านี้

นอกจากนี้ “ดวงฤทธิ์ บุนนาค” สถาปนิกชื่อดัง โพสต์บนเฟซบุ๊ค Duangrit Bunnag กล่าวถึงกรณีนี้ โดยระบุว่า

“สรุปว่าเรื่อง TCDC / OKMD เข้าสู่การพิจารณาของครม.วันนี้นะครับ แต่ท่านนายกไม่ให้นำเข้าวาระ โดยให้ความเห็นว่า ′ผมให้ไปศึกษา ไม่ได้ให้ไปยุบเขา′ กพร.เลยต้องนำเรื่องกลับไปศึกษาใหม่

คนที่บอกว่าผมกุข่าวเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลสรุปว่าเรื่องเข้าครม.จริงนะครับผมไม่ได้โกหก เชื่อว่าเพราะเป็นกระแสที่พวกเราที่ช่วยกันสนับสนุน TCDC อย่างล้นหลามในช่วงข้ามคืน ทำให้ท่านนายกฯเห็นความสำคัญของหน่วยงานนี้ และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ

ขอบคุณทุกคนที่เป็นจุดยืนร่วมกันครับและอย่างที่ผมบอกทุกคนหวังดีกับประเทศนี้ และเมื่อเรายืนร่วมกันย่อมมีพลังที่พลิกโลกนี้ได้ครับ ไม่ว่าในบริบทใดก็ตาม”

ล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงว่า ยังไม่มีมติยุบทีซีดีซี ทีเค ปาร์คและมิวเซียมสยามโดยกำลังอยู่ระหว่างการประเมินผลงาน โดยได้สั่งให้มีการประเมินและตรวจสอบองค์การมหาชน เพื่อปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตนจึงสั่งให้ไปทบทวนว่ามีการจัดการบรรลุตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งหรือไม่ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร.เป็นผู้ประเมินผลงานและบุคลากร ภายในระยะเวลา 3 เดือนนี้

นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนและประเมินเท่านั้นขอบุคลากรและผู้เกี่ยวข้องอย่าเป็นกังวล ขอให้ร่วมกันสร้างผลงานให้ตรงตามจุดมุ่งหมาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต

เรื่องน่าสนใจ