มีกระแสลือกระฉ่อนโลกโซเชียล ว่าตอนนี้เจ้าแม่สื่อแห่งวงการบันเทิง “ติ๋ม ทีวีพูล” พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี เกิดอาการเครียดจัด หลังช่องทีวีดิจิตอลขาดทุนยับ ถึงขั้นเตรียมทำสัญญาขายขาดละคร 3 เรื่อง เรื่องละ 13 ล้านให้กับทางช่อง 8

205066

 อาทิ ดั่งไฟใต้น้ำ,นางโชว์,สาวน้อยคาเฟ่ โดยภายหลังข่าวได้เผยแพร่ออกไป เจ๊ติ๋มก็ได้ออกมาเปิดใจว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยจะขอกัดฟันสู้ต่อแม้ช่องเจอภาวะขาดทุน ด้าน “โด่ง องอาจ สิงห์ลำพอง” ผู้อำนวยการสายงานโทรทัศน์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เผยไม่รู้ใครกุข่าว อีกทั้งช่อง 8 มีคิวละครแน่นไปถึงปี 59 ไม่มีพื้นที่สำหรับละครนอกค่าย

“เคยเจอพี่ติ๋มตอนมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องกสทช. ในฐานะผู้ร่วมอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลด้วยกันก็ถกเถียงกันอยู่หลายเรื่องเกี่ยวกับการบริหารงานของกสทช.และการแจกกล่องคูปองมากกว่า ก็จะเจอกันในฐานะผู้ร่วมชะตาเดียวกันมากกว่า

ส่วนเรื่องของละครก็ทราบอยู่แล้วว่าแกจะทำละคร แล้วหลายๆ สถานีก็จะบริหารคอนเทนต์ด้วยละคร แล้วก็ทราบด้วยว่ามีละครเรื่องใดบ้างที่อยู่ในแผนของทางช่อง เราก็ยินดีด้วย ผมว่ามันเป็นนิมิตรหมายที่ต้องทำให้มันเกิด”

“ก็เห็นข่าวแล้วเมื่อวานก็อ่านอย่างละเอียดในมุมที่เขาเขียนมาก็ค่อนข้างละเอียด ในแง่มุมที่ว่าใครทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่อย่างไร ก็สรุปได้ว่าละคร 3 เรื่องละ 13 ล้านในมุมของการพูดคุยไม่มีเลย เนื่องจากเราเองก็มีละครในมือที่จะต้องเตรียมผลิตอยู่แล้วตอนนี้คิวก็แน่นไปถึงปีหน้า 2559

คือผังละครช่อง 8 เต็มแล้ว ไม่มีพื้นที่สำหรับละครเรื่องอื่นใดอีก เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปซื้อของใคร แล้วเชื่อว่าพี่ติ๋มเองเขาก็ต้องมีความจำเป็นในการใช้คอนเทนต์ของเขาด้วยเลยคิดว่าประเด็นนี้น่าจะมีความเข้าใจกันคลาดเคลื่อน คงมีใครสักคนประสงค์ให้ประเด็นนี้มันเกิดขึ้น ในมุมของผมกับพี่ติ๋มเราไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ในมุมของสถานีช่อง 8 ไม่มีการซื้อขายคอนเทนต์เหล่านั้นเกิดขึ้นเลย แล้วเราก็ไม่มีนโยบายแบบนั้นด้วย

หรือว่าถึงเขาจะอยากขายเขาก็ไม่มาขายเราหรอก พี่ติ๋มน่าจะเข้าใจว่าเราผลิตละครเองแล้วเราก็มีผู้จัดมากพอ เรามีพื้นที่สำหรับผู้จัดของเราที่เพียงพอแล้ว คงไม่มีโอกาสได้ไปซื้อของคนอื่น แล้วผมก็เชื่อมั่นว่าพี่ติ๋มไม่ขายคอนเทนต์ของตัวเองให้กับเราแน่ๆ”

บอกไม่ต้องเคลียร์อีกฝ่ายเพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ย้ำหากซื้อคอนเทนต์จริง งบประมาณต้องสูงกว่านี้

“ไม่ได้พูดคุยกันเพราะเรามองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะต้องคุย เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าคนที่เขียนประเด็นนี้ต้องการอะไร เรามองว่าไม่จำเป็นต้องพูดคุยเพราะมันไม่มีประเด็นอะไร เราต่างคนต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าเราทำอะไรกันอยู่

(แต่พอมีข่าวทำให้ดูว่าช่อง 8 ดูรวยมาก เพราะมีเงินซื้อถึง 39 ล้านบาท) ตัวเลขที่เห็นช่อง 8 เราทำมา ในงบไกลมากกว่าที่เห็นมากแล้วเลยไม่รู้ว่าจะมาซื้อคอนเทนต์ในราคาไหน ในงบประมาณของการลงทุนตัวเลขมันมากกว่านี้เยอะ ตัวเลขที่เห็นในข่าวมันใช้ไม่ได้กับการทำงานจริงคนที่ผลิตคอนเทนต์จะรู้ดี”

รับปี 58 ทีวีดิจิตอลแข่งเดือด เพราะถึงเวลาชี้ชะตา ให้จับตาดูสิ้นปี จะต้องมีคนล้ม ทุ่มงบ 2 พันล้านขยายรายการ-ละคร

“ตัวผมเองยอมรับว่าเหนื่อย คิดว่าตอนนี้ทุกคนเริ่มเอาจริงกันแล้ว คิดว่าปีนี้มันเป็นปีชี้เป็นชี้ตาย ผมเชื่อว่าสิ้นปีนี้ได้เห็นคนล้มเห็นคนคลุกฝุ่นแน่ๆ เหมือนที่ทุกคนคาดคะเนแต่จะเป็นใครต้องดูอนาคตอีกที

ความดุเดือดของมันจะทำให้อุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลเติบโตอย่างรวดเร็ว ในทางลบเราจะเห็นเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมล้มบาดเจ็บในความไม่พร้อมของคอนเทนต์หรือหน่วยงานที่ทำให้ทีวีดิจิตอลเกิด”

“มองจากคนนอกน่าจะเป็นการทำให้สถานีมีความคล่องตัว ทำให้ธุรกิจสามารถขยับขยายทำอะไรได้ง่ายขึ้น สำหรับช่อง 8 ปีนี้เราก็จะขยับขยายอะไรมากขึ้นทั้งในแง่ของละครและรายการ เห็นงบออกมาแล้วค่อนข้างตกใจเพราะมีจำนวนหลายพันล้าน

นี่เฉพาะคอนเทนต์นะไม่รวมเทคโนโลยีการออกอากาศ คิดว่าประเมินก็ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้าน เราเองตั้งเป้าไว้ว่าเราจะเป็นสถานีดิจิตอลที่เข้ามาปีแรกแล้วไม่ขาดทุนซึ่งปีที่ผ่านมาเราก็ไม่ขาดทุนทุกอย่างออกมาเป็นบวกหมดครับ”

ที่มา ผู้จัดการ

เรื่องน่าสนใจ