นักวิชาการแนะฟังหูไว้หู หลังมีข่าวชาวแพร่อ้างดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศทุกวันจนรักษามะเร็งได้ ระบุ ยังไม่มีผลวิจัยยืนยัน และต้องระวังด้วย เพราะสารสกัดใบทุเรียนมีความเป็นพิษสูงต่อเซลล์ประสาทและไต
เป็นข่าวฮือฮาพอสมควร เมื่อนายพินิจ แสงสร้อย อายุ 52 ปี ทนายความจากจังหวัดแพร่ ได้เปิดเผยว่า ตนเองดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศทุกวัน กระทั่งโรคมะเร็งลำคอดีขึ้นจากระยะ 4 กลายเป็นระยะ 1 จนแม้แต่แพทย์ก็ไม่อยากเชื่อ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ทานยาชนิดอื่นเลย จึงเชื่อว่าโรคร้ายของตัวเองดีขึ้นเพราะดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศ
อย่างไรก็ตาม เรื่องสรรพคุณของใบทุเรียนเทศที่ช่วยรักษาโรคมะเร็งนั้น ยังไม่เป็นที่ยืนยันแน่ชัด โดยเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 ผศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant เพื่อแนะนำให้ฟังหูไว้หูกับข่าวนี้ เพราะเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง ไม่ใช่รายงานทางการแพทย์ พร้อมกับต้องระวังถึงความเสี่ยงจากสารสกัดใบทุเรียนเทศด้วยว่ามีความเป็นพิษสูงต่อเซลล์ประสาทและไต
“ที่แชร์ ๆ กันวันนี้เรื่อง น้ำต้มทุเรียนเทศรักษามะเร็งสำเร็จของลุงคนนึงเนี่ย … ควรฟังหูไว้หูนะครับ เพราะเป็นการกล่าวอ้างของเค้าคนเดียว ไม่ใช่รายงานทางการแพทย์อะไร … สารสกัดจากใบทุเรียนเทศมันมีผลเป็นพิษสูงต่อเซลล์ประสาทและไต ถ้าจะทำตาม ก็รับความเสี่ยงกันเองนะครับ”
ทั้งนี้ ผศ. ดร.เจษฎา ยังได้ยกข้อมูลที่ นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เคยออกมาเตือนไว้ว่า แม้ทุเรียนเทศสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นยารักษามะเร็ง หรืออาจใช้ร่วมกับเคมีบำบัดในอนาคต แต่มีข้อมูลการวิจัยพบว่า มีสารแอนโนนาซินเป็นพิษต่อเซลล์ประสาท
นอกจากนี้ ในรายงานการวิจัยของประเทศกานา ยังพบว่า หนูทดลองที่ได้รับสารสกัดใบทุเรียนเทศในปริมาณสูงมีผลต่อการทำงานของไต ดังนั้น การนำทุเรียนเทศมาใช้บำบัดโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ยังต้องผ่านกระบวนการศึกษาวิจัยอีกมาก เช่น กลไกออกฤทธิ์ต่อเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็ง การส่งสัญญาณภายในเซลล์ การแยกสารสำคัญออกฤทธิ์ชนิดต่าง ๆ การควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงด้านพิษวิทยาและความปลอดภัย
ทั้งนี้สถาบันวิจัยสมุนไพร กำลังรวบรวมวัตถุดิบใบทุเรียนเทศในไทยมาศึกษาความเป็นพิษเบื้องต้นในห้องปฏิบัติการ เพื่อเป็นข้อมูลคุ้มครองผู้บริโภค และวางแผนศึกษาวิจัยเพื่อหาทางนำมาใช้ประโยชน์ต่อไป
