ตรวจคัดกรองมะเร็ง ช่วยป้องกันตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และรักษาให้หายขาดได้ เพราะปัจจุบัน โรคมะเร็ง นับว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้คนทั่วโลก และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มจํานวนมากขึ้นทุกปี และหนึ่งในสาเหตุที่ทําให้ผู้คนมากมายจบชีวิตด้วยโรคมะเร็งนั้น ก็เพราะกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคและกว่าจะมาพบแพทย์ ก็อยู่ในระยะท้ายๆ ของโรค และสายเกินจะเยียวยาแล้ว

 

ตรวจคัดกรองมะเร็ง
ภาพจาก bangkokpost.com

 

ตรวจคัดกรองมะเร็ง ช่วยป้องกันตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และรักษาให้หายขาดได้

แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว โรคมะเร็งหลายชนิด สามารถรักษาให้หายได้ หากตรวจพบในระยะเริ่มแรก ผลการรักษาก็ย่อมดีกว่า และมะเร็งบางชนิดก็สามารถหายขาดได้ ซึ่งในการตรวจวินิจฉัยนั้น จะมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ การตรวจคัดกรองมะเร็ง และตรวจเมื่อเริ่มมีอาการ

การตรวจคัดกรองมะเร็ง หมายความว่าไม่จําเป็นต้องรอให้มีอาการ แต่สามารถตรวจคัดกรอง หรือตรวจวินิจฉัยได้ตั้งแต่ที่มะเร็งยังไม่ทําให้เกิดอาการใดๆ ซึ่งอาจจะตรวจได้ในมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูก เราสามารถจะตรวจภายในได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ แบบนี้เรียกว่าการตรวจคัดกรองมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีมะเร็งลําไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งตับ (ในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีหรือตับแข็ง) ที่สามารถตรวจคัดกรองตั้งแต่ยังไม่มีอาการได้ ซึ่งการตรวจคัดกรองนี้เรียกว่าแทบจะครอบคลุมมะเร็งเกือบทุกชนิดที่พบบ่อยในประเทศไทย ทั้งในเพศชายและเพศหญิง เช่น มะเร็งตับและท่อน้ำดี, มะเร็งปอด มะเร็งลําไส้ มะเร็งเต้านม, มะเร็งปากมดลูก

ส่วนการตรวจเมื่อเริ่มมีอาการ หรือมีสัญญาณเตือน ที่เริ่มสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งหรือไม่นั้น ถ้าตรวจพบตั้งแต่ในระยะต้นๆ การรักษาก็จะง่ายกว่า และมีโอกาสที่จะหายขาดมากกว่า แต่เนื่องจากมะเร็งในปัจจุบันมีเป็นร้อยชนิด ดังนั้น สัญญาณอันตรายของมะเร็ง จึงสามารถแยกได้เป็น 2 แบบคือ

 

ตรวจคัดกรองมะเร็ง
ภาพจาก bangkokpost.com

 


อาการทั่วไป
ซึ่งชวนให้สงสัยว่าเป็นมะเร็ง เช่น น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหต, มีอาการปวดแบบเรื้อรัง ปวดจนรบกวนชีวิตประจําวัน, มีไข้เรื้อรัง, มีอาการอ่อนเพลีย โดยไม่ทราบสาเหตุ

อาการเฉพาะ
ต้องแยกเป็นมะเร็งแต่ละชนิด ยกตัวอย่างเช่น มะเร็งเต้านม สัญญาณอันตรายคือ คลําได้ก้อนที่เต้านม, มีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลซึมออกจากหัวนม ซึ่งต้องมีการตรวจ วินิจฉัยต่อไปว่าก้อนที่พบนั้นใช่มะเร็งหรือไม่อย่างไร มะเร็งปากมดลูก จะมาด้วยอาการเลือดออกผิดปกติ หลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีตกขาวผิดปกติมะเร็งตับและท่อน้ำดี ก็จะมาด้วยอาการจุกแน่นท้อง ตรงชายโครงด้านขวา ร่วมกับมีอาการของภาวะดีซ่าน หรือตัวเหลืองตาเหลือง เนื่องจากก้อนมะเร็งนั้นไปกดเบียดท่อน้ำดี มะเร็งปอด ส่วนใหญ่จะมาด้วยอาการไอเรื้อรัง หรือไอเป็นเลือด บางรายอาจมีอาการเหนื่อยผิดปกติ มะเร็งลําไส้ใหญ่ จะมาด้วยอาการขับถ่ายผิดปกติ ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือด หรือมีอาการปวด เบ่งถ่ายตลอดเวลา

……………………………………………………………

มะเร็งส่วนหนึ่งสามารถป้องกันได้ และอีกส่วนหนึ่งเราสามารถตรวจวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มต้นได้ และสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สิ่งสําคัญก็คือเราสามารถป้องกันมะเร็งได้ โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง เช่น งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา ออกกําลังกายสม่ําเสมอ ควบคุมน้ําหนักไม่ให้อ้วน เกินไป และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น การเปลี่ยน คู่นอนหลายคน เป็นต้น นอกจากนี้ควรมาตรวจคัดกรองมะเร็งที่พบบ่อย ตามอายุ โดยเฉพาะหลังอายุ 40 – 50 ปี และถ้าเริ่มสังเกตได้ว่ามีอาการ ผิดปกติที่ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร เช่น น้ําหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ มีอาการปวด มีไข้เรื้อรัง หรือถ่ายผิดปกติ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบพบแพทย์เพื่อให้สามารถวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรกได้

 

เนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ