“ทับทิม” เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สูงประมาณ 4-6 เมตร ทรงพุ่มโปร่ง มีหนามแหลมตามกิ่งก้าน ใบเดี่ยวขนาดเล็ก รูปใบยาวปลายแหลม ยาว 3-4 เซนติเมตร ดอกสีแดงหรือสีขาว ผลค่อนข้างกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6-10 เซนติเมตร เมื่อแก่จัดเปลือกผลสีเหลืองอมแดงหรือน้ำตาลอมส้ม ผิวมักแตกออกจนเห็นเมล็ดใสอยู่ภายในมากมาย เมล็ดมีเนื้อใสสีแดงหรือสีชมพูหุ้มอยู่แยกแต่ละเมล็ด เนื้อทับทิมมีน้ำมาก รสหวานหรือเปรี้ยวอมหวาน

ripe pomegranate fruit with leaves on blue background

ผลทับทิมใช้รับประทานเป็นผลไม้ มีรสหวานหรือเปรี้ยวอมหวาน ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ น้ำทับทิมมีวิตามินซีสูงและยังมีสารเกลือแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณที่สูงเหมาะสำหรับการดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย

น้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดและมีประสิทธิภาพสูงมากสามารถลดภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง บรรเทาโรคโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลังและความงาม ดื่มน้ำทับทิมคั้นวันละแก้วจะช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด ลดการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงและช่วยเสริมสุขภาพของหัวใจให้ดีขึ้น

Two glasses of pomegranate juice

ประโยชน์ของทับทิม

  1. ช่วยป้องกันตะคริว – ทับทิมมีกรดแพนโตธีนิค หรือ วิตามินบี 5 (Pantothenic acid or B5) ที่ช่วยป้องกันภาวะการต้านอินซูลิน (Insulin resistance) ถ้าร่างกายขาดวิตามิน B5 จะทำให้เกิดตะคริว (Muscle cramp) ได้
  2. สร้างความสมดุลของน้ำตาลในกระแสเลือด – ในเมล็ดทับทิมมีน้ำตาลสูง เมล็ดทับทิม 1/2 ถ้วย มีน้ำตาล 12 กรัม และมีเส้นใย (Fiber) จำนวน 3.5 กรัม ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับแอบเปิ้ล พบว่า ทับทิมมีเส้นใยมากกว่า แอบเปิ้ล ถึง 2 เท่า ในปริมาณที่เท่ากัน เส้นใยในทับทิม จะช่วยสร้างความสมดุลของน้ำตาลในกระแสเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเบาหวาน
  3. ลดการเป็นมะเร็งกว่า 13 ชนิดโดยเฉพาะมะเร็งเต้านม – งานวิจัยพบว่าน้ำทับทิมสดและน้ำทับทิมที่ผ่านการหมักมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งผิวหนัง เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งเต้านมจำนวนหนึ่งมีฤทธิ์เป็นเอสโทรเจนจากพืช สารกลุ่มเอลลาจิแทนนินจากเปลือกผลทับทิมมีฤทธิ์ต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งกว่า 13 ชนิด ได้แก่ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ เป็นต้น
  4. ต้านอนุมูลอิสระ – น้ำทับทิมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระดีมาก เกิดจากจากสารกลุ่มโพลีฟีนอลและแอนโทไซยานินปริมาณสูง ทำให้น้ำทับทิมมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระเป็น 3 เท่าของไวน์แดงและชาเขียว และสูงกว่าน้ำบลูเบอร์รี น้ำแครนเบอร์รี น้ำองุ่นสีม่วง และน้ำผลไม้ชนิดอื่น เปลือกทับทิมตากแห้งใช้เป็นยาแก้ท้องเดินและโรคบิดได้ สารกลุ่มเอลลาจิแทนนิน มีคุณสมบัติเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่ดี
  5. ลดภาวะการสะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและแข็งตัวซึ่งจะให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือดตามมา
  6. บำรุงหัวใจในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด โดยเพิ่มการไหลเวียนที่ดีขึ้นและลดภาวะหัวใจขาดเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจ
  7. บำรุงตับ ป้องกันการเป็นพิษต่อตับได้
  8. ลดอาการวูบวาบ วิงเวียน และอ่อนเพลียในผู้ป่วยช่วงวัยทอง
  9. ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
  10. บำรุงกำลัง ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืมในผู้สูงอายุ
  11. ควบคุมการทำงานของอินซูลิน ช่วยฟื้นฟูในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  12. ช่วยในการย่อยอาหาร ลดอาการจุกเสียด
  13. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยให้ผิวสวยจากภายใน ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันผิวจากการทำลายของรังสีอัลตราไวโอเลต
  14. ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
  15. ป้องกันโรคกระดูกพรุน – น้ำทับทิมมีผลหยุดการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายกระดูกอ่อน

Depositphotos_34689459_m-2015

ผู้ที่ไม่ควรรับประทานทับทิมสด หรือน้ำทับทิมสด ได้แก่

  • ผู้ที่ป่วยต้องฟอกล้างไต (แต่สามารถทานสารสกัดทับทิมชนิดเม็ดได้)
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีระดับน้ำตาลในเลือกสูง แนะนำให้รับประทานสารสกัดทับทิมชนิดเม็ดจะดีกว่าชนิดน้ำ
  • ผู้ป่วยโรคตับรุนแรง (SGOT, SGPT มากกว่า 40 IU)
  • ผู้ป่วยที่มีความดันต่ำและต้องทานยาลดความดันบางชนิด

ประโยชน์มากมายขนาดนี้ โดดเด่นขอแนะนำให้หาทับทิม หรือน้ำทับทิมมาติดตู้เย็นเอาไว้ ว่ากันว่าทานทับทิมแค่เพียง 1 ผล อาจจะไม่ต้องไปหาหมออีกนานเลยนะคะ แถมยังได้ผิวพรรณสดใส และลดการเป็นมะเร็งได้อีกด้วยล่ะค่ะ มากประโยชน์จริงๆ เลยล่ะ

 

ข้อมูลจาก : giftowin, ทองจุล, ชบากรุงเทพ, หมอชาวบ้าน, wiki

เรื่องน่าสนใจ