เนื้อหาโดย : โดดเด่นดอทคอม

กระเทียม เป็นพืชสมุนไพรหรือเครื่องเทศที่มีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย อีกทั้งยังเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้เลยในการปรุงอาหารของทุกครัวเรือน และทุกเชื้อชาติ

garlic on rough chopping board

หัวกระเทียมนั้นมีรสเผ็ดร้อน รับประทานได้ทั้งสดและตากแห้ง หรือนำไปดอง เป็นส่วนผสมที่สำคัญของน้ำจิ้มและอาหารสด น้ำพริกแกงหลายชนิดใส่กระเทียมเป็นส่วนประกอบ เช่นแกงเผ็ด แกงเขียวหวาน หรือใส่ในยำต่างๆ ระวัง! การรับประทานกระเทียมสดขณะท้องว่าง อาจทำให้ระคายเคืองในกระเพาะอาหาร

ในยุโรปสมัยโบราณถือว่า “กระเทียม” เป็นของขลัง ใช้ป้องกันภูตผีปีศาจ และเชื่อว่าการกินกระเทียมทำให้ร่างกายแข็งแรง อียิปต์สมัยโบราณให้ทาสกินกระเทียม ส่วนชาวโรมันให้ทหารและกรรมกรกินกระเทียม และ ชาวอังกฤษเชื่อว่าการรับประทานกระเทียมสด จะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นแวมไพร์ หรือป้องกันการเข้าถึงตัวของพวกแวมไพร์ในยามค่ำคืนได้

สรรพคุณของกระเทียม

กระเทียมนอกจากนำมารับประทานแล้ว ยังสามารถนำมาบดเป็นเนื้อละเอียด หมักหรือทาตามร่างกายได้อีกด้วย ส่วนมากมักนำมาใช้สำหรับการฆ่าเชื้อราต่างๆ บนร่างกาย

  1. ฆ่าเชื้อรา คือ กลาก เกลื้อน และเชื้อราที่เกิดตามเล็บ หนังศีรษะและผม
  2. ฆ่าเชื้อยีสต์ชนิดที่ทำให้เกิดลิ้นขาวเป็นฝ้าในเด็กทารก และทำให้เกิดโรคมุตกิดระดูขาวที่มักจะเกิดในหญิงที่ตั้งครรภ์ หรือกินยาคุมกำเนิด ยาปฏิชีวนะหรือยาสเตียรอยด์เป็นเวลานานๆ
  3. ลดความดันโลหิตสูง
  4. ลดไขมันและคอเลสเตอรอล
  5. ป้องกันผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว
  6. ลดน้ำตาลในเลือด
  7. ฆ่าหรือยับยั้งเชื้อแบคทีเรียแทบทุกชนิด กล่าวคือ มีสารอัลลิซิน ที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่มักทำให้เกิดโรคได้ถึง 15 ชนิด โดยเฉพาะยับยั้งเชื้อพวกที่ดื้อยาเพนนิซิลินได้ดีกว่าเชื้อพวกที่ไม่ดื้อยาอีกด้วย นอกจากนี้ ยังฆ่าเชื้อบิดมีตัวที่มีพิษต่อลำไส้ได้ดี โดยมีสารที่สำคัญคือ กาลิซิน รวมทั้งสามารถยับยั้งเชื้อบิดเทียม ซึ่งไม่รบกวนแบคทีเรียตัวอื่นที่มีประโยชน์ต่อลำไส้
  8. ยับยั้งเชื้อต่างๆ เช่น เชื้อที่ทำให้เกิดฝีหนอง และใช้รักษาแผลสด แผลที่เป็นหนอง คออักเสบ ทอนซิลอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ เชื้อวัณโรค และเชื้อปอดบวม
  9. รักษาไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
  10. เป็นยาขับเสมหะและมีฤทธิ์ขับเหงื่อและขับปัสสาวะ
  11. รักษาโรคไอกรน
  12. แก้หืดและโรคหลอดลม
  13. แก้ธาตุพิการอาหารไม่ย่อย
  14. ควบคุมโรคกระเพาะ คือมีสารเอเอส 1 ช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำย่อยอาหารมาย่อยแผลในกระเพาะ และยังช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบชนิดรุนแรงได้ด้วย
  15. ขับพยาธิต่างๆ ได้หลายชนิด ได้แก่ พยาธิเข็มหมุด พยาธิแส้ม้า พยาธิเส้นด้าย และมีรายงานทดสอบจากอินเดียว่า กระเทียมมีสารไดอัลลิลไดซัลไฟด์ มีฤทธิ์ใช้ฆ่าพยาธิไส้เดือนได้ดี
  16. แก้เคล็ดขัดยอกและเท้าแพลง เพราะมีสารอัลลิซินเป็นตัวช่วยทำให้เลือดไหลเวียนมายังบริเวณที่ทาถูนวดยาได้ดีมากขึ้น
  17. แก้ปวดข้อและปวดเมื่อย
  18. ต่อต้านเนื้องอก
  19. กำจัดพิษตะกั่ว
  20. บำรุงร่างกาย

Garlic

แต่ถึงจะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ก็มีข้อเสียเช่นกัน

ในเพศหญิงถ้าหากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป ร่างกายจะร้อน ซูบผอม จะแสดงอาการวิตก หงุดหงิด จากการเสียเหงื่ออย่างรุนแรง ส่งผลเสียต่อม้าม, ตับอ่อน, ไต และ การมีเพศสัมพันธ์ได้

วิธีเลือกซื้อกระเทียม
การเลือกซื้อกระเทียมนั้น มีหลักพิจารณาง่ายๆคือ เลือกกระเทียมที่หัวแน่น กลีบแน่น เปลือกบาง มีเนื้อสีเหลืองอ่อน สด แน่น ไม่ฝ่อและไม่มีเชื้อรา ที่สำคัญถ้าต้องทำอาหารที่ต้องการกลิ่นแรงๆ ต้องเลือกกระเทียมหัวเล็กเท่านั้น

Garlic

ในประเทศญี่ปุ่นได้ค้นพบสารในกระเทียมชื่อสคอร์ดินิน ไม่มีกลิ่น แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง รวมทั้งช่วยให้เนื้อเยื่อเจริญเติบโตและช่วยลดไขมันในร่างกาย และยังมีผู้พบว่าในกระเทียมมีธาตุเจอร์เมเนียมค่อนข้างสูง ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดมะเร็ง โรคหืด โรคไต โรคตับอ่อนและอาการท้องผูก รวมถึงมีสารชักนำวิตามินบี 1 เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้นเท่าตัว โดยรวมเป็นสารอัลลิลไทอะมิน ทำให้วิตามินบี 1 ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นถึง 20 เท่า

จะเห็นว่ากระเทียมมีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย ถึงกระเทียมจะมีกลิ่นแรง แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะรับประทาน ดังนั้นโดดเด่นขอแนะนำว่า อย่าลืมเพิ่มกระเทียมลงในเมนูอาหารทุกเมนู เพราะสรรพคุณและประโยชน์ของกระเทียมนั้นเหลือร้ายจริงๆ

ข้อมูลจาก : wikipedia, เกร็ดความรู้, thaiinperth

เรื่องน่าสนใจ