เป็นออร์แกไนซ์มือวางอันดับหนึ่งก็ว่าได้ ที่ไม่ว่าจะงานอีเว้นท์ยิ่งใหญ่อลังการสุดเริ่ดสุดปังก็ได้ผ่านมือมาแล้วสำหรับ “ตือ สมบัษร” หรือที่หลายคนรู้จักกันดี ในชื่อ ‘ป้าตือ’ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ ป้าตือก็ผ่านความลำบากมามากและทำงานมาหลายอย่าง ล่าสุดเจ้าตัวได้มานั่งเปิดใจในรายการ DARASTORY บันเทิงเรื่องใหญ่ โดยเผยเรื่องราวชีวิตของตัวเองผ่านรายการว่า

ป้าตือ

 

กว่าจะมาถึงจุดนี้เป็นยังไงบ้าง
ชีวิตเคยได้เงินเดือน 3,200 บาท ตอนนั้นทำงานที่ห้างแถวลาดพร้าว ทำเกี่ยวกับดิสเพลย์เมื่อประมาณ 36 ปีที่แล้ว จบด้านสถาปัตย์มาแล้วก็ไม่อยากทำงานที่เกี่ยวกับการออกแบบบ้านแล้วเลยมาทำเกี่ยวกับดิสเพลย์ ‘จริงๆ อาชีพทำดิสเพลย์ในวันนั้นมันต่อยอดให้เรามาถึงจุดนี้ได้’

ทำงานที่ห้างนานไหม
ประมาณ 1-2 ปี แล้วก็ไปทำงานที่บริษัทโฆษณา อีก 2 ปีทำเกี่ยวกับโปรดิวเซอร์หลายอย่าง ภาพนิ่ง ทำหนัง, สไตล์ลิส, โปรดักซ์ชั่นดีไซน์ และก็ไปเป็นผู้กำกับหนัง

 

 

อาชีพออแกไนท์เซอร์มาได้ยังไง
จริงๆ เป็นอาชีพที่มาแบบโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ คือเพื่อนอยากให้ช่วยทำโชว์ให้ จนต่อยอดมาจนถึงทุกวันนี้  เรียกว่างานแรกเป็นงานของเพื่อน

ได้ข่าวมาว่าหนึ่งวัน รับ 20 งานรึเปล่า
ไม่จริงไม่ขนาดนั้น เราทำไปเรื่อยๆ เคยมากสุดหนึ่งวัน 6 งาน คือก็ต้องมีการจัดระบบบริหารเวลาด้วย แต่ตอนนี้ก็ 2-3 งานต่อวันก็ถือว่ามากแล้ว สมัยนี้ออแกไนซ์เยอะมากแต่ “เราซื่อสัตย์กับงานของเราไม่ต้องแข่งกับใครเราแข่งกับตัวเอง”

 

 

ถือเป็น ‘เพอร์เฟคชั่นนิส’ ตัวจริง
ด้วยความที่เราอยากให้งานออกมาดี แล้วก็เรียบร้อยละเอียดมากต่อให้งานที่เราไปจัดแล้วลูกค้าชมว่างานออกมาดี ซึ่งถ้ามีจุดไหนที่ผิดพลาดก็จะมาคุยกับลูกน้องทีหลัง เป็นคนโชคดีที่มีลูกน้องดี แล้วก็อยู่ด้วยกันมานานเป็น 10-20 ปี เราเองก็มียืดหยุ่นกันบ้าง

กว่าจะเก่งก็เคยพลาดมาก่อน
บอกลูกน้องตลอดว่าต้องทำงานอะไรก็แล้วแต่ต้องตั้งใจทำเพื่อให้งานออกมาให้ดีที่สุด อาจจะเพราะว่าเราเป็นคนมาตรฐานสูงด้วย

เคยมีประสบการณ์จัดอีเว้นท์พัง
ก็เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ได้รับโจทย์ให้จัดงานคอนเสิร์ตซึ่งสถานที่บอกเลยว่าไกลมาก เราก็บอกลูกค้าว่าอย่าจัดเลย ตอนนั้นแจกบัตรไป 20,000 ใบ แต่มีคนมาดูจริงที่งาน 26 คนเอง เลยถือเป็นประสบการณ์ในการทำงานเลย ณ ตอนนั้น ทั้งสถานที่และเรื่องการเดินทางที่ไม่สะดวกในสมัยนั้น รวมถึงเรื่องการโปรโมทในสมัยก่อนที่เรายังไม่เก่งมาก  ซึ่งเราไม่เสียใจนะแค่เรียนรู้เป็นบทเรียนแล้วก็ปรับปรุง

 

 

 

เรียกว่าเรื่องราวชีวิต “ป้าตือ” ก็ผ่านอะไรมามากมายซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องใช้ทั้งความมานะอดทนพยายามเรียนรู้การทำงานหลายอย่างหลายรูปแบบ แถมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตที่ได้เจอะเจอมาพัฒนาต่อยอดจนมาเป็นที่รู้จักกันในวงการ นอกจากนี้ 2 พิธีกร “ไก่ สมพล” และ “หยาด หยาดทิพย์” จะมาล้วงเรื่องราวสุดแซ่บของ ‘ป้าตือ’ อีกเพียบติดตามต่อในรายการ

 

 

ป้ายกำกับ: |

เรื่องน่าสนใจ