พูดคุย อัพเดทอาการ “น้องหมอ” ศัลยกรรมดูดไขมันพลาด แขนเกือบพิการ

Depositphotos_21975953_original

เรื่องราวความผิดพลาดจากการศัลยกรรม ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ และ “น้องหมอ”(นามสมมุติ) ก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่ได้ประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ความผิดพลาดจากการศัลยกรรมดูดไขมัน ด้วยตัวเอง ที่ทำให้เกือบพิการ แขนไม่สามารถใช้งานได้ปกติ เรื่องราวนี้เราได้นำเสนอไปบ้างแล้ว วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยอีกครั้ง จึงขออัพเดทอาการ และการใช้ชีวิตของน้องหมอสักหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้วตอนนี้ และ ทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่งก็ได้รับข่าวดีว่า อาการดีขึ้นเยอะมากใกล้เป็นปกติแล้ว

อาการตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วครับ แรงกลับมาประมาณ 90% แต่ยังมีอาการชาบริเวณปลายนิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วกลางด้านขวาอยู่ครับ ตอนนี้เริ่มมาทำงานที่โรงพยาบาลครับ (ตอนแรกทำงานเอกสารอยู่ สสจ ครับ)ก็ได้เริ่มจับเครื่องมือทำคนไข้ไปบ้างแล้วครับ งานส่วนใหญ่ที่ทำก็เป็นงานง่ายๆครับ ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟันอย่างง่ายแต่งานที่ต้องใช้ทักษะระดับสูง เช่น ทำครอบฟัน หรือรักษารากฟันตอนนี้ยังไม่ได้ทำครับ

 

ตอนนี้น้องหมอเผยว่าสภาพจิตใจดีขึ้น เพราะได้กำลังใจที่ดี และการดูแลที่ดีจากครอบครัวอย่างดีมาโดยตลอด

สบายมากครับ กำลังใจผมดีขึ้น ฮ่าๆ หลังจาก 2-3 เดือนที่ผ่านมาต้องให้พ่อแม่ดูแล เหมือนเด็ก ๆ เลย และก็เครียดด้วย ที่ทำให้พ่อแม่ต้องเป็นทุกข์ พ่อดูแลผม จนหลังยอกเลย เหมือนเลี้ยงลูกเล็ก ๆ แต่ตัวโตอ่ะครับ

 

ครอบครัวเป็นแรงสำคัญ และคอยเคียงข้าง และดูแลอย่างใกล้ชิดทำให้ผ่านวันร้ายๆมาได้

ที่บ้านดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เพราะต้องหาหมอตลอดทั้งที่โคราชและบางครั้งต้องเข้ากรุงเทพด้วย ซึ่งช่วงนั้นมือผมก็ยังใช้การไม่ได้ดี ตอนนี้ก็เดินสายแก้บนช่วงวันหยุด หลังจากนี้ก็จะหาทางไปปฏิบัติธรรมและเที่ยวพักผ่อนบ้างครับ

 

ย้อนเรื่องราวไปวันที่ตัดสินใจดูดไขมัน เหตุผลน้องหมอก็บอกว่าเหมือนคนอื่นทั่วๆไปที่อยากดูดีขึ้น ถึงแม้จะดูรีวิวมาบ้าง หากข้อมูลมาบ้าง แต่คิดว่าพลาดที่ไม่ได้ปรึกษาใคร

ที่ตัดสินใจไปดูดไขมันเพราะว่าผมเป็นคนมีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าอกและหน้าท้องครับ พอผมเรียนจบก็คิดว่าต่อไปเราก็พอจะมีเงินเดือนเป็นของตัวเองแล้ว ก็เลยอยากให้รางวัลตัวเองบ้าง(แบบจบมาก็อยากดูดีตอนไปทำงานน่ะครับ)ตอนช่วงตัดสินใจก็ดูจากเวบที่รีวิวการทำศัลยกรรมครับ ส่วนที่พลาดไปคิดว่าน่าจะเป็นการทำอะไรโดยไม่ปรึกษาผู้ใหญ่ แล้วก็ใจร้อนเกินไปไม่ได้หาข้อมูลมากเท่าที่ควรครับว่าการดูดไขมันที่คลินิก และหมอที่ไม่ได้มาตรฐานมันจะมีผลร้ายแรงเช่นนี้ ควรจะดูคลินิกและหมอที่ดีที่สุดครับ

 

ผลลัพท์หลังจากศัลยกรรม ก็ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง ซ้ำร้ายยังเกิดข้อผิดพลาด

จริงๆก็ไม่ได้ลดลงมาก หน้าอกก็ลดลงบ้างแต่ยังมีส่วนเกินอยู่ หน้าท้องก็ไม่มี six pack เหมือนคำโฆษณาเลยครับ รู้สึกเสียด่ายเงินที่ทำไปมันไม่คุ้มกับของที่ได้ รวมทั้งมือเกือบใช้งานไม่ได้

 

หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นจนถึงปัจจุบัน ได้รับการช่วยเหลือเพียงเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า และไม่ได้รับการดูแลดีเท่าที่ควร

เอาจริงๆ ได้แค่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้ากล้ามเนื้อมาเครื่องเดียว กับขนมเยลลี่หมี1 ถุงครับ. หลังจากนั้นก็ไม่มี ซึ่งเห็นคุณแม่บอกว่าจะให้ผมไปคลินิกเขาให้เขาดู อย่างที่ทราบ ในแต่ละวันผมต้องไป โรงพยาบาลมหาราช ฝังเข็มช่วงเช้า บ่าย ผมก็ต้องมาทำกายภาพที่โรงพยาบาลกรุงเทพ และผมก็ต้องเข้าสำนักงานที่ สสจ. ผมทำอะไรไม่ได้เลยช่วงนั้น พ่อแม่ต้องช่วยผมดูแลผม ประคองผมบ้างผมไม่มีแรงมือเลย แล้วจะให้ผมมีปัญญาไปกรุงเทพได้หรือ แค่นี้พ่อแม่ผม ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดอยู่แล้วเห็นทางคลินิกบอกว่าจะมาเยี่ยมที่บ้านแต่ก็ไม่เคยมาเลยครับ จะให้ผมไปได้อย่างไร เข้าห้องน้ำ พ่อหรือแม่ผมก็ต้องเข้าไปด้วยเลย

 

อยากให้ทางคลินิกแสดงความรับผิดชอบ 

คุณแม่ผม ก็เสียไปเป็นแสนแสนแล้วครับ ก็อยากให้เค้าชดใช้ค่าเสียโอกาส ค่าเสียเวลาและค่าทำขวัญบ้างตามสมควรครับ, 3 เดือนเต็มที่ผมไปได้ไปโรงพยาบาลเลย อยู่แต่ที่สสจ โคราช พ่อแม่รับส่ง กินข้าว หาหมอตลอด

 

ได้ยินมาว่าส่งเรื่องไปยังหน่วยงานต่างๆ มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง

ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างดำเนินการครับ คงต้องใช้เวลาซักหน่อย

 

หากย้อนเวลาได้ คงหาข้อมูลมากกว่านี้ น้องหมอกล่าว

อยากให้ตัวเราใจเย็นกว่านี้ หาข้อมูลให้มากกว่านี้ว่าคลินิกที่มีมาตรฐานและหมอดี ๆอยู่ที่ไหนบ้าง ศึกษาคลีนิกอย่างรอบคอบ และฟังความเห็นของผู้ใหญ่มากกว่านี้ครับ

 

มีแพลนสำหรับอนาคต ที่ยังไม่รู้ว่าจะหายปกติ 100%เมื่อไหร่??

ก็คงทำกายภาพด้วยตัวเองไปเรื่อยๆ จนกว่ากำลังและอาการชาจะหายไป พบคุณหมอตามวันนัด และขยันออกกำลังกายให้มากขึ้น สุขภาพดีเริ่มที่ตัวเราครับ

 

ฝากข้อคิด อยากรู้อย่าอายที่จะถาม เลือกสถานที่ที่ได้มาตรฐานยังเป็นสิ่งสำคัญ

อยากให้คิดว่าพ่อแม่รักเรามากกว่าเรารักตัวเองอีกครับ ก่อนที่จะทำอยากให้คุยกับคุณหมอท่านที่ทำเยอะๆครับ อย่าอายเรื่องไหนที่เราไม่รู้หรืออยากรู้ถามให้หมด และเรื่องผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดถึงจะบอกว่าเกิดน้อย แต่ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นไม่ได้ (ดูกรณีศึกษาของผมเป็นตัวอย่าง) และถึงผลข้างเคียงจะไม่ได้เกิดขึ้น แต่ผลการรักษาอาจจะไม่เป็นไปตามที่ใจเราคิดเสมอไปด้วยครับ

สุดท้าย การเลือกคลินิกและหมอที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งด้วยไม่งั้นเราอาจเสียอนาคตและชีวิตไปกับเรื่องแบบนี้

เรื่องน่าสนใจ