เนื้อหาโดย : โดดเด่นดอทคอม

มะรุม จัดเป็นพืชผักพื้นบ้านของไทย มีประโยชน์ ทั้งทางด้านอาหาร, ยา และอุตสาหกรรม เป็นไม้ยืนต้นที่โตเร็ว ทนแล้ง ปลูกง่ายในเขตร้อน ใบมีรสหวานมัน ออกดอกในฤดูหนาว บางพันธุ์ออกดอกหลายครั้งในรอบปี ดอกเป็นดอกช่อ สีขาว ดอกมีรสขม หวาน มันเล็กน้อย ผลเป็นฝักยาว เปลือกสีเขียวมีส่วนคอดและส่วนมน เป็นระยะ ๆ ตามยาวของฝัก ฝักยาว 20 – 50 ซม. ฝักมีรสหวาน เมล็ดเป็นรูปสามเหลี่ยม

Depositphotos_24402289_m-2015

ในตำรายาพื้นบ้าน ใช้ใบมะรุมพอกแผลช่วยห้ามเลือด, เป็นยาบำรุงทำให้นอนหลับ, เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ และช่วยแก้ไข้, ดอกและผลเป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ และแก้ไข้, เมล็ดบดพอกแก้ปวดตามข้อ และแก้ไข้

ใน ภาพรวมของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการวิจัยในระดับเซลล์และสัตว์ทดลองพบว่า มะรุมมีฤทธิ์ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น ฤทธิ์ลดความดันโลหิต ต้านการเกิดเนื้องอก ต้านมะเร็ง ลดระดับคอเลสเตอรอล ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันตับอักเสบ ต้านออกซิเดชัน ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดระดับน้ำตาล และฤทธิ์ต้านการอักเสบ

Moringa leaves and bark with pills

สรรพคุณแยกตามส่วนต่างๆ

  1. ใบ ใช้ถอนพิษไข้ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ รักษาแผล ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับปัสสาวะ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต
  2. ยอดอ่อน ใช้ถอนพิษไข้
  3. ดอก ใช้แก้ไข้หัวลม เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันมะเร็ง
  4. ฝัก แก้ไข้ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต
  5. มล็ด เมล็ดปรุงเป็นยาแก้ไข้ แก้บวม แก้ปวดตามข้อ ป้องกันมะเร็ง
  6. ราก มีรสเผ็ด หวาน ขม สรรพคุณ แก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ รักษาโรคหัวใจ รักษาโรคไขข้อ
  7. ปลือกลำต้น รสร้อน สรรพคุณขับลมในลำไส้ ทำให้ผายหรือเรอ คุมธาตุอ่อน ๆ แก้ลมอัมพาต ป้องกันมะเร็ง เคี้ยวกินช่วยย่อยอาหาร
  8. ยาง ฆ่าเชื้อไทฟอยด์ ซิฟิลิส แก้ปวดฟัน

Bitter cucumber-chinese (Moringa oleifera Lam.)

ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร

  1. มีวิตามินเอ บำรุงสายตามากกว่าแครอท 3 เท่า ป้องกันการเกิดโรคเกี่ยวกับตา เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น หากรับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์
  2. มีวิตามินซี ช่วยป้องกันหวัดมากกว่า 7 เท่าของส้ม เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
  3. มีแคลเซียม บำรุงกระดูกเกิน 3 เท่าของนมสด
  4. มีโพแทสเซียม บำรุงสมองและระบบประสาท 3 เท่าของกล้วย
  5. มีใยอาหารและพลังงานไม่สูงมาก เหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก
  6. ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ และลดสถิติการพิการ และตาบอดได้เป็นอย่างดี
  7. ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้
  8. รักษาโรคความดันโลหิตสูง
  9. ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะ ควบคุมได้
  10. ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็ง แต่ถ้าหากเป็นอยู่แล้วก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น หยุดการเจริญเติบโตของโรคร้าย ใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบัน
  11. หากผู้ป่วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรง
  12. ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊าท์ โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม
  13. รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง ท้องเสีย ท้องผูก โรคพยาธิในลำไส้
  14. รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ
  15. เป็นยาปฏิชีวนะ

Moringa curry with fish

แต่นอกเหนือจากประโยชน์ที่จะได้รับแล้ว ผู้ป่วยที่ใช้มะรุมติดต่อเป็นเวลานานๆ ควรตรวจการทำงานของตับ เพราะพบว่าผู้ป่วยบางรายที่ใช้มะรุมติดต่อกันเป็นเวลานาน จะพบว่าเอนไซม์ตับเพิ่มขึ้น อาจทำให้เกิดอันตราย

ข้อห้าม สำหรับผู้ที่จะรับประทาน มะรุม

  1. เด็ก และสตรีมีครรภ์ เป็นข้อห้ามสำหรับสมุนไพรทุกชนิดอยู่แล้ว
  2. ผู้ป่วยโรค เลือด จีซิกพีดี ( G6PD ) ( โรคเลือดอื่น ๆ ไม่ได้ห้าม ) โรคนี้จะห้ามรับประทาน ถั่วปากอ้า
  3. ในมะรุม มีสารบางชนิดคล้ายในถั่วปากอ้า ผู้ที่แพ้ถั่ว ไม่ควรรับประทาน
  4. ผู้ป่วยโรค ตับ ตับอักเสบ หรือตับแข็ง เป็นข้อห้ามสำหรับสมุนไพรทุกชนิดอยู่แล้ว
  5. ผู้ที่รับประทานยา ต้านไวรัส เอชไอวี เพราะอาจจะมีผลรบกวนระดับยาได้

พืชสมุนไพรพื้นบ้านหลายๆชนิด มีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย แถมยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารแสนอร่อยได้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่เหมาะสมกับร่างกายของคนบางกลุ่ม เพราะฉะนั้น โดดเด่นขอแนะนำว่า อ่านประโยชน์ของพืชผักเหล่านี้แล้ว ควรอ่านข้อควรระวังด้วย เพราะแทนที่จะได้ประโยชน์ อาจต้องเข้าโรงพยาบาลแทนนะคะ

ข้อมูลจาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, wikipedia, kapook, google

เรื่องน่าสนใจ