ที่มา: issue247

มาดูกันว่าใน 100 ปี รูปร่างของผู้หญิงเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง สุดยอดมากๆเลย!

01

มีข้อความมากมายปรากฏอยู่บนหน้านิตยสารอย่างเช่น “5 ท่วงท่าเพื่อต้นแขนกระชับอย่าง มิเชล โอบาม่า” หรือ “เคล็ดลับสะโพกดินระเบิดแบบบียอนเซ่” แต่ถ้าคุณเคยปรารถนาที่จะมีองค์เอวอย่างดาราสาวคนนี้หรือเรียวขาอย่างดีว่าสาวคนนั้น ขอบอกเลยว่าเทรนด์การรักษาหุ่นอันเป็นที่หมายปองของผู้หญิงเรานั้นไม่คงที่หรอก แม้จะมีการนำทรวดทรงในอุดมคติไปยัดเยียดลงในสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น, ภาพยนตร์, เพลง หรือแม้แต่การเมือง แต่รู้ไหมว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปทุกปี

เพื่อเป็นการพิสูจน์เราจึงนำทรวดทรงในอุดมคติของสาวๆทุกคนในรอบ 100 ปีมาให้ชมกัน ซึ่งในโลกของแฟชั่นมันอาจจะอินเทรนด์ แต่พอวันถัดไปมันอาจจะเอาท์ไปแล้วก็ได้

1910 ยุคกิ๊บสัน
02

เชิญพบกับสาวในยุคนี้ “สาวกิ๊บสัน” ผู้หญิงในยุคนี้จะมีรูปร่างคล้ายเลข 8 ต้องขอบคุณชุดรัดทรงคอร์เซ็ท (อย่าพยายามลองใส่ที่บ้านนะ!) สาวยุคนี้ไม่สวย แต่ลึกลับ สง่าผ่าเผย และค่อนข้างสูง โดยต้นแบบดั้งเดิมของยุคกิ๊บสันคือ Camille Clifford

1920 ยุคแฟลปเปอร์
03

บอกลาทรวดทรงโค้งเว้า, สูงสง่างาม, ทรงผมม้วนลอนฟูฟ่องและเพลงแจ๊สทั้งหมดด้วย และกล่าวต้อนรับชุดกระโปรงยาวสไตล์เรียบง่าย ซึ่งในยุคนี้เราจะไม่เน้นทรวดทรงแบบในยุคกิ๊บสันและแทนที่ด้วยก้นกับสะโพกกระจุ๋มกระจิ๋มแทน แฟชั่นยุคนี้จะขยับช่วงเอวต่ำลงมาจากสะดือสัก 2-3 นิ้ว ทำให้สะโพกดูแคบลง แต่ใช่ว่าชุดนี้จะทำให้ขาดเสน่ห์เนื่องจากจุดสนใจจะเปลี่ยนลงไปที่ขาแทน โดย Margaret Gorman มิสอเมริกาคนแรกในปี 1921 คือทรวดทรงในอุดมคติของยุคแฟลปเปอร์

1930 ยุคซอฟท์ไซเรน
04

เมื่อตลาดหุ้นแตก จิตใจก็ทิ้งดิ่งลงเหวเช่นเดียวกับช่วงปลายขา ชุดกระโปรงจะลดเหลี่ยมลงและโค้งเว้าไปตามสรีระมากขึ้น ไม่ว่าจะช่วงเอวหรือช่วงขา แถมมีการปิดไหล่ด้วย ลุคหน้าอกแบนราบซึ่งได้รับความนิยมในช่วงปี 1920 คือใบเบิกทางสู่ยุคช่วงรอบก้นเล็ก และเป็นผลโดยตรงให้มีการผลิตยกทรงขึ้นในยุคนี้ด้วย นักแสดงหญิง Doroles del Rio ถูกประกาศให้เป็นบุคคลผู้มีรูปร่างดีที่สุดในฮอลลีวู้ด ซึ่งหัวข้อข่าวชื่นชมถึงความกลมกลึงไปทุกสัดส่วนของเธอ

1940 ยุคสาวประกายดาว
05


โปรดฟัง! ยุคนี้ไม่ต้องบอกลาท่อนแขน แต่เราจะบอกลาลุคในยุค 30 ต้องขอบคุณสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทำให้ไหล่ที่กว้าง บึกบึน สมชายชาตรีของทหารกลายเป็นเทรนด์ที่ทันสมัย รวมถึงการจัดมุมจัดเหลี่ยมด้วย ยกทรงจะมีการตั้งชื่อว่า Bullet และ Torpedo ซึ่งเชื่อมโยงกับแขนขายาว ความสูงโปร่ง และโครงสร้างที่เป็นเหลี่ยมมากยิ่งขึ้น สะท้อนภาพบทบาทการใช้แรงงานของผู้หญิงมากขึ้นในขณะที่ผู้ชายต้องไปออกรบ

1950 ยุคนาฬิกาทราย
06

ขอต้อนรับสู่ยุคนาฬิกาทรายซึ่งมี Jessica Rabbit เป็นต้นแบบในอุดมคติ หลังจากที่ความเหลี่ยมมุมในยุคสงครามผ่านพ้นไปแล้วก็เข้าสู่ยุคแห่งการยั่วยวน หว่านเสน่ห์ แม้แต่โฆษณาในยุคนี้ยังแนะนำให้สาวร่างบางเพิ่มน้ำหนักเพื่อเน้นสัดส่วนโค้งเว้า ขณะที่นิตยสาร Playboy กับ Barbie ก็ถูกตีพิมพ์ขึ้น สะท้อนให้เห็นภาพสาวเอวบางร่างน้อย หน้าอกใหญ่ พร้อมกับแฟชั่นคอวีกับกระโปรงบาน

1960 ยุค Twig
07

ความผอมกลับมาอินเทรนด์ใหม่ ขณะที่สัดส่วนแบบ Jessica Rabbit ก็เชยไปแล้ว นางแบบอย่าง Twiggy กับ Jean Shrimpton คือต้นแบบของยุคนี้ ไม่ว่าจะใบหน้าสวยราวกับตุ๊กตา, รูปร่างผอมเพรียวและตัวเล็กกะทัดรัด เสื้อผ้าจะไม่เน้นเข้ารูปช่วงเอว การมีสะโพกกับก้นเล็กๆ รวมถึงมีหน้าท้องที่แบนราบ (คล้ายๆกับตอนเปลี่ยนจากยุคกิ๊บสันมาแฟลบเบอร์)

1970 ยุคดิสโก้ดีว่า
08

ดิสโก้! ชุดจัมป์สูท! กางเกงขากระดิ่ง! ทศวรรษนี้ต้องปาร์ตี้เท่านั้น แต่สาวๆในยุคนี้ก็ยังคงต้องเอวบางร่างน้อยเพื่อให้คล่องตัวในการเต้นดิสโก้ ผ้าใยสังเคราะห์อย่างโพลีเอสเตอร์กับสแปนเด็กซ์เริ่มมีการนำมาใช้แต่ก็ยังไม่นิยมเท่าที่ควร ลุคโดยรวมยังเน้นตัวบางแต่สัดส่วนเว้าโค้งเริ่มมีกระแสกลับมาใหม่ Beverly Johnson กลายเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ได้ขึ้นหน้าปก Vogue ขณะที่ Darnella Thomas ได้ปรากฏอยู่ในโฆษณาน้ำหอม Charlie

1980 ยุคซูเปอร์โมเดล
09

บอกเลยยุคนี้ซูเปอร์โมเดลครองเมือง ผู้หญิงสูงโปร่ง ขายาว กลายเป็นผู้หญิงในอุดมคติของยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น Elle MacPherson, Naomi Campbell และ Linda Evangelista สาวๆลักษณะนี้จะโดดเด่นมากเมื่ออยู่บนรันเวย์ และพบเห็นได้ทั้งในสื่อต่างๆและมิวสิควิดีโอ ยุค 1980 ยังเป็นยุคแห่งการออกกำลังกายด้วย ต้องขอบคุณผู้บุกเบิกอย่าง Jane Fonda ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่การสร้างกล้ามเนื้อได้รับการยอมรับและเป็นที่ปรารถนาในหมู่สาวๆ

1990 ยุคผอมแห้ง
10

Kate Moss คือตัวแทนของยุคผอมแห้ง ด้วยความสูงเพียง 165 ซม. แฟชั่นยีนส์เอวต่ำ, เสื้อถักหลุดลุ่ย และน้ำหอมที่ใช้ได้ทั้งชายและหญิง ทั้งหมดนี้ล้วนได้นับความนิยมมากในยุคนี้ แม้แต่ดาราฮอลลีวู้ดยังได้รับอิทธิพลดังกล่าวมาเยอะ เช่น Winona Ryder ซึ่ง Ben Stiller ถึงกับอุทานว่า “เธอตัวเล็กพอๆกับโต๊ะกาแฟเลย!”

2000 ยุคสวยมีน้ำมีนวล
11

สุดยอดนางแบบ Giselle Bundchen เป็นผู้นำความเซ็กซี่แบบมีน้ำมีนวล เธอปิดฉากยุคสาวเก๋แต่ผอมแห้ง บัดนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปิดเผยหน้าท้องและการพ่นผิวสีแทน Bunchen ได้รับตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Rolling Stone และเป็นราชินีแห่งวงการนางแบบ, โฆษณา, แฟชั่นโชว์ชุดชั้นในของ Victoria Secret และการเดินพรมแดงในอ้อมแขนของ Leonardo DiCaprio ด้วย

2010 ยุคสะโพกดินระเบิด
12

สะโพกดินระเบิดคือนิยามภาพลักษณ์ของผู้หญิงในทศวรรษนี้ Beyonce , Nicki Minaj กับ J.Lo ก็เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสะโพกดินระเบิดได้ดีทีเดียว รูปร่างในอุดมคติก็ไม่ต่างจากทุกสิ่งทุกอย่างในวัฒนธรรมป๊อบ มันเป็นเทรนด์ ผู้หญิงทุกคนต่างต้องการมีดวงตาสีฟ้าแบบชาวผิวขาว, ริมฝีปากอวบอิ่มแบบชาวสเปน, จมูกหยดน้ำ, ผิวสองสีเรียบเนียนปราศจากขน, ก้นเด้งแบบชาวจาไมก้า, ขาเรียวยาวแบบชาวสวีเดน, เท้าเล็กแบบชาวญี่ปุ่น, หน้าท้องแบนราบแบบเจ้าของโรงยิม, สะโพกแบบเด็กชายวัย 9 ขวบ, ท่อนแขนแบบ มิเชล โอบาม่า รวมทั้งมีหน้าอกสวยสมส่วน แต่แทนที่จะไล่ไขว่คว้าสิ่งเหล่านี้ คุณควรภูมิใจในสิ่งที่แม่ให้มาและจำไว้เสมอว่าความสวยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด แต่ความมั่นใจนี่สิคงทนและจะอยู่กับเราตลอดไป

เรื่องน่าสนใจ