“รางจืด” มีชื่อพื้นเมืองอื่น ๆ ได้แก่ กำลังช้างเผือก เครือเขาเขียว ขอบชะนาง ยาเขียว(ภาคกลาง)คาย รางเย็น (ยะลา) จอลอดิเออ ซั้งกะ ปั้งกะล่ะ พอหน่อเตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ดุเหว่า (ปัตตานี) ทิดพุด (นครศรีธรรมราช) น้ำนอง (สระบุรี) ย่ำแย้ แอดแอ (เพชรบูรณ์)

เป็นชื่อของพืชสมุนไพรประเภทไม้เลื้อยหรือไม้เถา มีลักษณะเนื้อแข็ง เลื้อยพาดพันไปตามต้นไม้ เถาจะมีลักษณะเป็นข้อปล้องกลมมีสีเขียวสดหรือสีเขียวเข้ม ดอกจะเป็นสีม่วงอ่อนๆหรือสีคราม ออกดอกเป็นช่อห้อยลงตามซอกใบ มีสรรพคุณทางยาในด้านการถอนพิษต่างๆ หรือใช้เป็นยาพอกบาดแผล น้ำร้อนลวก ไฟไหม้ รวมถึงใช้เป็นยารับประทานเป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำ

Thunbergia BLUE GLORY Blue Trumpet vine

รางจืด เป็นสมุนไพรไทยที่ได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่า มีสรรพคุณ แก้ท้องร่วง อาการแพ้ ผื่นคัน แก้พิษยาฆ่าแมลงในสัตว์ แก้พิษจากสารในยา กำจัดศัตรูพืช แก้พิษเคมี พิษเบื่อเมา พิษแอลกอฮอล์ พิษสุราเรื้อรัง พิษสะสม ในร่างกาย ไข้ร้อนใน ฯลฯ

ตำราสมุนไพรไทย กล่าวว่ารางจืดเป็นตัวยารสเย็น ใช้ได้ทั้ง ใบ ราก เถา ตำคั้นน้ำ หรือในตำรับยาไทยบางตำรา จะใช้น้ำซาวข้าวเป็นน้ำ กระสายยา เพื่อให้ฤทธิ์ยาแล่นเร็ว น้ำซาวข้าวจะนำตัวยาจับเม็ดเลือดเข้าสู่กระแสเลือดเร็ว กินเพียงสองครั้งก็เห็นผลในการใช้ดื่มถอนพิษ ทั้งที่เป็นพิษจากยาฆ่าแมลง อาหารเป็นพิษ พิษจากเมาสุรา

ทั้งนี้เพราะสรรพคุณของรางจืดจะเปลี่ยนกรดหรือด่างในร่างกายที่เป็นพิษให้ เป็นกลาง และเมื่อสารยาของรางจืดซึมเข้าไประบบประสาทในเส้นเลือด ไปปะทะกับพิษยา หรือสารพิษต่างๆในร่างกาย มันจะทำลายพิษเหล่านั้นให้เป็นกลางในเวลาอันรวดเร็ว

สารสำคัญที่พบในรางจืดเมื่อทำการสกัด คือ กลุ่ม fiavonoidphenolic, apigenin,cosmosin,deiphindin-3,5-di-O-B-D-glucoside, clorogenic acid, caffeic acid การสกัดด้วยการต้ม พบว่าให้ปริมาณสารสำคัญที่มากกว่า และทำให้ได้สารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงสุด

ว่านรางจืด

ประโยชน์ของรางจืด

  1. รากและเถาของรางจืด สามารถใช้รับประทานเป็นยาแก้ร้อนในได้
  2. ใช้เป็นปรุงเป็นยาถอนพิษไข้ได้ (ใบ,ราก)
  3. ใบรางจืด สรรพคุณใช้เป็นยาพอกบาดแผล ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
  4. ช่วยขจัดพิษจากยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ออกจากร่างกาย
  5. ช่วยแก้พิษจากสัตว์ที่เป็นพิษและพืชที่เป็นพิษ เช่น แก้พิษจากแมงดาทะเล หรือปลาปักเป้า
  6. รางจืดช่วยต่อต้านพิษจากสารตะกั่วไปสู่สมอง ซึ่งสารตะกั่วนี้ก็มาจากมลพิษจากเครื่องยนต์ แน่นอนว่าคนที่อาศัยอยู่ในเมืองจะมีโอกาสได้รับสารตะกั่วสูงกว่าคนทั่วไป
  7. ช่วยถอนพิษจากยาเบื่อชนิดต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม (เช่น พิษจากผลไม้ที่ติดอยู่ฝักที่รับประทาน เป็นต้น) รวมไปถึงพิษจากสตริกนิน(Strychnine)
  8. งานวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒพบว่ารางจืดมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทคล้ายๆกับฤทธิ์ของสารเสพติดอย่างแอมเฟตามีนและโคเคน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนโดพามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่หลั่งออกมามากในขณะที่ผู้ป่วยใช้สารแอมเฟตามีนซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยสารสกัดจากรางจืดนั้นเกิดความพึงพอใจ เช่นเดียวกับการใช้สารเสพติด และหากนำไปใช้ในการรักษากับผู้ป่วยก็จะทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องทุรนทุรายมากนัก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการช่วยลดและเลิกการใช้เสพติดได้ (ใบ,ราก)
  9. รางจืด ช่วยแก้อาการเมาค้าง แก้พิษจากแอลกอฮอล์พิษจากการดื่มเหล้าในปริมาณมากเกินไป โดยคณะเภสัชศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำการศึกษาวิจัยฤทธิ์ของรางจืดในการต่อต้านพิษจากแอลกอฮอล์ต่อตับ และพบว่าสารสกัดด้วยน้ำของรางจืดนั้นสามารถช่วยป้องกันการตายของเซลล์ตับซึ่งเกิดจากพิษของแอลกอฮอล์และช่วยลดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดได้
  10. รางจืดช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน สามารถควบคุมเบาหวานและความดันได้ นอกจากนี้ยังพบว่าการให้สารสกัดจากน้ำของใบรางจืดมีฤทธิ์ช่วยลดน้ำตาลในเลือดและยังช่วยทำให้บีต้าเซลล์ของตับอ่อนฟื้นฟูขึ้น
  11. สารสกัดจากใบรางจืดมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก มีฤทธิ์ในการต่อต้านมะเร็ง
  12. แก้อาการอักเสบต่าง ๆ เช่น อาการผดผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย เริม งูสวัด อีสุกอีใส มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบสูงกว่ามังคุด ถึง 2 เท่า ! และยังมีความปลอดภัยสูงกว่าอีกด้วย นอกจากนี้สารสกัดจากรางจืดในรูปแบบชนิดครีมก็สามารถช่วยลดอาการอักเสบได้ดีเทียบเท่ากับครีมสเตียรอยด์ (ใบ,ราก)

รางจืด-24beautyherb

กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการวิจัยรางจืดอย่างจริงจัง พบว่าสามารถล้างพิษยาฆ่าแมลงได้ และได้นำข้อมูล การวิจัยมาเผยแพร่แก่ประชาชน เมื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลจากหน่วยงานราชการที่น่าเชื่อถือได้ ทำให้รางจืดได้รับความนิยมมากขึ้น บริษัทผลิตยาและศูนย์วิจัยต่างๆจึงหันมาให้ความสำคัญนำรางจืดไปผลิตยา สมุนไพรที่ได้มาตรฐาน

ทั้งนี้แม้ว่า รางจืด จะมีคุณสมบัติในการขับพิษ แต่ก็มีโทษในบางบุคคลเช่นกัน ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตต่ำ, ผู้ป่วยโรคหอบหืด และหญิงตั้งครรภ์ควรใช้อย่างระมัดระวัง เพราะมีผลข้างเคียงในเรื่องของการกดประสาท และระบบไหลเวียนของเลือด ทางที่ดีก่อนการรับประทาน โดดเด่นแนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนนะคะ

ข้อมูลจาก : เจียวกู่หลานtea4you, คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, rspg, รางจืด, wikipedia

เรื่องน่าสนใจ