เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com
ทุกครั้งที่คุณเริ่มก้าวเท้าวิ่ง ทุกเซลล์ในร่างกายจะตื่นตัวและเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ซึ่งส่งผลดีต่อร่างกายและใจ หากทุกวันเราวิ่งอย่างน้อย วันละ 30 นาที ร่างกายเราจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
2-3 วินาทีแรก
กล้ามเนื้อของเราจะใช้ Adenosine Triphosphate (ATP) โมเลกุลในร่างกายที่ให้พลังงานจากการสลายสารอาหารของเซลล์ ATP จะเปลี่ยนเป็นโมเลกุลอีกชนิดหนึ่งซึ่งให้พลังงานสูง เซลล์กล้ามเนื้อจะเปลี่ยนโมเลกุล ADP กลับมาเป็น ATP หลังจาก 2-3 วินาทีแรก
90 วินาที
เพื่อให้ร่างกายหลั่ง ATP มันจะเปลี่ยนไกลโคเจน หรือพลังงานจากกลูโคสมาเก็บไว้ในกล้ามเนื้อคุณ โดยเซลล์จะดึงกลูโคสมาจากเลือด (หนึ่งในเหตุผลที่การออกกําลังกายช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง) ร่างกายจะดูดซึมกลูโคสมาใช้มากขึ้น และกล้ามเนื้อจะหลั่งกรดแล็กติกไปพร้อมกัน คุณจะรู้สึกว่าร่างกายกําลังเผาผลาญ และส่งสัญญาณไปยังสมองส่วนที่กระตุ้นร่างกาย
2-3 นาทีต่อมา
หัวใจเริ่มเต้นเร็ว เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อมากขึ้น และหยุดส่งเลือดไปยังอวัยวะที่ไม่ได้ใช้งานชั่วครู่ อย่างเช่นระบบ ย่อยอาหาร เพื่อให้ร่างกายดึงเอากลูโคสออกไปใช้ได้สะดวก เซลล์ต้องการออกซิเจนมาก ดังนั้น คุณควรหายใจลึกๆ ในแต่ละย่างก้าว กล้ามเนื้อ ส่วนก้นขา และช่วงกลางลําตัวจะรักษาการ ทรงตัวให้ตั้งตรง บังคับความเร็ว และขยายข้อต่อ สามารถสปริงเท้าจากพื้นได้ดี ร่างกายเริ่มเผาผลาญแคลอรี (ปกตินักวิ่งจะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากถึง 200-300 กิโลจูลต่อกิโลเมตร) รวมทั้งกลุ่มก้อนไขมันที่สะสมตามร่างกายด้วย การเผาผลาญไกลโคเจนและออกซิเจน เพิ่มอุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้น ระบบไหลเวียนโลหิตจะส่งเลือดไปเลี้ยงผิวหนัง ผิวจึงเป็นสีชมพูมีเลือดฝาด ต่อมเหงื่อระบายความร้อนออกมาเป็นน้ำ ร่างกายจึงเย็นลง
10 นาทีเเล้ว
หากคุณหุ่นดีอยู่แล้ว กล้ามเนื้อและร่างกายต้องการ ATP ที่เหมาะสม ร่างกายรับออกซิเจนและเผาผลาญไขมันกับกลูโคสได้มากพอ คุณจะรู้สึกแข็งแรง มีพลังยิ่งกว่าเดิม แต่ถ้าคุณไม่ออกกําลังกายสม่ำเสมอ ATP ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย คุณจะสูดออกซิเจนได้ไม่มากพอ กรดแล็กติกในเลือดมีเยอะมากเกินไป ร่างกายเลยทํางานหนักขึ้น จึงรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ
หลังจากวิ่งมา 30 นาที
เยส! ครบครึ่งชั่วโมงแล้ว เมื่อคุณเดินช้าลง พลังงานลดลง จังหวะหายใจกลับมาเป็นปกติ คุณจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความสุขโดปามีน การออกกําลังกายนั้นให้ผลดีเยี่ยม เพราะคุณจะหมดความอยากขนมหวานไปเลย
ไม่ต้องห่วงนะคะ หากอยากจะกินเค้กก้อนโตสักชิ้น เพราะการออกกําลังกายช่วยสร้างห้องกักเก็บแคลอรี่ไม่ให้มันแปรสภาพเป็นไขมัน เอ้าสาวๆ เตรียมตัว…ระวัง…ไป!