ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

คณะนักวิทยาศาสตร์จาก กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณอู่ซ่อมรถยนต์สัญญาศิริ ที่ จ.ตาก เพื่อตรวจสอบก๊าซ ที่ผุดมาจากบ่อบาดาล โดยเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบคาดอีก 3 วัน จะรู้ว่าเป็นก๊าซประเภทใด…

EyWwB5WU57MYnKOuXxyIgPpIKS7Nahmx6fklnsCLyYOkkFkcTvxtGo

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 นายวุฒิพงษ์ คงเพชรศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และ นายธนิศร์ ศรีสมทรัพย์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน และคณะลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณอู่ซ่อมรถยนต์สัญญาศิริ บ้านผาลาด ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด เพื่อเก็บตัวอย่างก๊าซ ตัวอย่างน้ำ และชั้นหินน้ำมันที่ขุดพบบริเวณพื้นที่ขุดเจาะบ่อบาดาล โดยคณะมีการดูดน้ำที่อยู่ในท่อออก พบว่าแรงดันก๊าซสูงถึง 6 ปอนด์/ตารางนิ้ว นอกจากนี้ยังมีการต่อท่อเพื่อทดลองแรงดันก๊าซ ปรากฏมีเปลวไฟแรงมาก ทำให้บรรดาไทยมุงมีมากในทุกพื้นที่ ทุกเหตุการณ์ ถึงกับอึ้งในความแรงของเปลวไฟ

NjpUs24nCQKx5e1D7RzElsDI23GpyIESxWrTYvIi4g8นักวิทยาศาสตร์ ลงตรวจสอบบ่อก๊าซ

นายธนิศร์ ศรีสมทรัพย์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ เปิดเผยว่า ก๊าซมีความดันสูงมาก สามารถจุดไฟใช้ได้เหมือนก๊าซธรรมชาติทั่วไปแต่ยังระบุแน่ชัดไม่ได้ว่า เป็นก๊าซชนิดใด ปกติก๊าซมีเทนประกอบด้วยคาร์บอน ไฮโดรเจน และไอน้ำ ที่เกิดจากซากสัตว์หรือพืช โดยเป็นก๊าซชีวภาพ เกิดได้ทั่วไป ลึก 5-10 เมตร ก็พบแล้ว แต่ก๊าซตัวนี้อยู่ลึกถึง 70 เมตร ก็ยังสงสัยอยู่ว่ามันเป็นอะไรกันแน่ โดยเฉพาะชั้นหินน้ำมันจึงต้องนำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการว่า หินต้นกำเนิดอายุเท่าไหร่ ชั้นหินประเภทไหน ถึงจะทราบว่า ก๊าซตัวนี้เป็นก๊าซอะไร

NjpUs24nCQKx5e1D7RzElsDI23GpyIGJdmCMhh8y3cdแรงดันก๊าซค่อนข้างแรงไฟลุกและให้ความร้อนสูง

นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องการเจาะพิสูจน์ ถ้าสามารถเจาะได้ก็ดี แต่ถ้าเจาะไม่ได้ ก็ต้องดูข้อมูลเก่าที่มีอยู่ โดยเบื้องต้นพบว่า ก๊าซตัวนี้กลิ่นไม่แรง แต่จะมีปริมาณมากหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ คาดว่าอีกประมาณ 3 วันก็รู้ผลแล้ว

เรื่องน่าสนใจ