ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

สะเทือนใจ! คดีรถชนควายตาย บริษัทประกันเรียก2แสน “ตายาย” ชาวนายากจน ไกล่เกลี่ยนับเหรียญให้ได้แค่3,000บาท

540x280_650266_1433414947

จากกรณีเฟซบุ๊คของ “ทนายจรูญศักดิ์ ศึกขยาด” ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวคดีความของ2ตายาย ซึ่งชาวนายากจน จ.ยโสธร ระบุว่า รถชนควายตาย บริษัทประกันรถมาฟ้องเจ้าของควาย เรียกค่าเสียหาย 200,000 บาท เจ้าของควายเป็นชาวนา อยู่กับเมียบนกระต๊อบเก่าๆ ตาหูไม่ดีต้องใช้เครื่องช่วยฟัง แกมีลูก3คน แต่ลูกทั้ง3ได้แยกย้ายออกจากบ้านไปหลายปีแล้ว และไม่เคยติดต่อหรือกลับมาหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“วันนี้ศาลนัดไกล่เกลี่ยตายายเตรียมเงินมา 3,000 ส่วนใหญ่มีแต่เหรียญเพื่อเอามาจ่ายให้โจทก์ โดยหวังว่าโจทก์จะเห็นใจ แต่ความจริงนั้นน่าเศร้า”

เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายจรูญศักดิ์ ศึกขยาด ซึ่งเป็นทนายความ ระบุว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ไปว่าความที่ศาลจังหวัดยโสธร ซึ่งโดยนิสัยส่วนตัวตนเป็นคนที่ชอบพูดคุยและเข้าไปถามไถ่ผู้คน โดยเฉพาะหากเป็นคนเฒ่าคนแก่ตนก็จะเข้าไปพูดคุยด้วย จนกระทั่งเห็นตายายคู่หนึ่ง ซึ่งตาได้ใส่เครื่องช่วยฟังเพราะหูไม่ดี ส่วนยายขาไม่ดีเดินกระเผลก ๆ มานั่งรออยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องพิจารณาคดี ตนจึงเข้าไปสอบถามว่ามาทำไม

จากนั้นตายายก็เล่าให้ฟังว่า ควายของตาถูกรถชน แล้วบริษัทประกันแห่งหนึ่งก็เรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของควายเป็นเงิน 2 แสนบาท ซึ่งตายายบอกว่าไม่มีเงิน วันนี้ศาลได้นัดมาไกล่เกลี่ย ตายายก็เลยเหมารถเพื่อนบ้านมา

นายจรูญศักดิ์ กล่าวอีกว่า พอตนได้รับฟังอย่างนั้นก็เกิดความรู้สึกสงสาร เพราะตายายมากันสองคนและไม่รู้หนังสือ อ่านหนังสือไม่ออก โดยสัญชาติญาณของทนายความตนจึงได้แนะนำเรื่องข้อกฎหมายไป แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ เพราะคดีนี้ศาลนัดมาไกล่เกลี่ยกัน

“สาเหตุที่ผมถ่ายภาพตายายและโพสต์ลงไปในเฟสบุ๊ค เพราะอยากให้คนได้รับรู้ว่ามีคนด้อยโอกาสแล้วพบเจอปัญหาแบบนี้อยู่เยอะ บางคนโชคดีมีทนายความเข้าไปช่วยเหลือ บางคนไม่มีโอกาสที่ผู้รู้กฎหมายจะได้แนะนำ ในฐานะที่เราเป็นทนายความและรู้กฎหมายก็อยากจะช่วยเหลือ ไม่ได้หวังจะสร้างกระแสหรือทำอะไร ผมเจตนาแค่เล่าเรื่อง ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปใส่ร้ายบริษัทประกันภัยที่ไหนทั้งสิ้น เราไม่ได้มีเจตนาจะทำให้กฎหมายหรือศาลเสื่อมเสีย แต่คนที่อ่านให้เขาคิดไปเอง เพราะผมไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนความจริงแต่อย่างใด” สายจรูญศักดิ์ กล่าว

เขายังกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังเห็นตายายถือเงินจำนวน 3 พันบาทมาด้วยซึ่งมีทั้งธนบัตรและเหรียญ เลยสอบถามไปว่าเอามาทำไม โดยตายายบอกว่า เอามาเพื่อจะเอามาจ่ายให้เขา คิดว่าหากจ่ายเงิน 3 พันบาทแล้วคดีคงจะจบเพราะทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินอยู่แค่นี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นไปไม่ได้เพราะผู้เสียหายเรียกร้องเงินมากถึง 2 แสนบาท เงินแค่ 3 พันบาทเขาคงไม่รับ

“ในกระบวนการชั้นศาล เบื้องต้นผมเข้าไปแนะนำในด้านกฎหมาย ในความเป็นไปได้และเทคนิคต่างๆ แนะนำเพื่อไม่ให้ตายายที่ไม่รู้หนังสือเลยเสียเปรียบ และช่วยพูดกับทางโจทก์เขาไปบ้าง แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ศาลที่ไกล่เกลี่ย และขึ้นอยู่กับฝ่ายโจทก์ว่าจะเอาอย่างไร แต่ก็คาดว่าน่าจะมีแนวโน้มที่ดี” นายจรูญศักดิ์ กล่าว

ด้านนายเจตน์ รอดอ่อน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยโสธร ได้เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้เบื้องต้นได้มีการไกล่เกลี่ยไปแล้ว โดยพบว่าควายที่ถูกชนนั้นเป็นควายของทางราชการ ที่ให้เกษตรกรนำมาเลี้ยงแล้วเมื่อควายตกลูกก็จะแบ่งลูกกันเพื่อเลี้ยงต่อไป ซึ่งพอควายถูกรถชนทางบริษัทประกันเลยฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของควาย แต่พอรู้ทางบริษัทประกันก็จะมาถอนคดี โดยรับปากจะมาถอนคดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะจบลงด้วยดี

เรื่องน่าสนใจ