ที่มา: INN News

วันนี้ (2 พ.ค 67) ที่ สภ.ปากเกร็ด นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกันจอมพลัง พร้อมผู้เสียหาย เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีหลังหญิงสาวรายหนึ่ง เดินทางไปทำศัลยกรรมตัดถุงใต้ตากับหมอที่คลินิกแห่งนึง แต่ศัลยกรรมผิดพลาด ทำให้ใต้ตาเกิดอาการบวมและติดเชื้อ ทำให้ตัวเองกลายเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงต้องทานยาทุกวันและคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองมีอาการบวมบริเวณใต้ตา อยากรักษาให้เรียบปกติ จึงหาที่แก้ไข แล้วไปเจอคุณหมอท่านดังกล่าว จึงตัดสินใจเข้าไปผ่าตัด หลังจากการผ่าตัดมีอาการบวม จากนั้นกลับบ้านมา มีอาการปวดเป็นอย่างมาก จึงสอบถามทางคลินิก ว่าสามารถกินยาแบบแรงได้หรือไม่ แต่ทางคลินิกแนะนำว่า ให้ทานยาแก้ปวดที่หมอให้เท่านั้น จากนั้นตนเองก็ทำตามที่หมอสั่ง แต่อาการปวดก็ไม่ได้ทุเราลง หลังจากครอบ 1 สัปดาห์ ตนเดินทางไปพบหมอ เพื่อที่จะไปตัดไหม คุณหมอบอกว่ามีอาการบวมมาก ต้องมีการแก้ไขต้องนำเลือดออก

 

 

แต่หลังจากทำเสร็จ หมอมีการเปลี่ยนแผนการรักษา ไม่มีการให้ยาเพิ่ม และให้ยาฆ่าเชื้อมา 3 ตัว หลังจากนั้นคุณหมอบอกว่าอาการจะดีขึ้น ตนเองก็กลับบ้านมากินยาย่างต่อเนื่อง จากนั้นกลับไปหาหมออีกครั้ง รอบที่ 3 คุณหมอบอกว่าต้องผ่าตัดอีกครั้ง โดยการดูดเอาเลือดออก แต่รอบนี่ดูดเลือดออกได้เพียงนิดเดียว หลังจากผ่าตัดเสร็จ คุณหมอให้ทานยาฆ่าเชื้อต่อ แต่รอบนี้ให้ยาฆ่าเชื้อมาทาน นานถึง 1 เดือน จากนั้นอาการเริ่มดีขึ้น อาการบวมเริ่มลดลง แต่คุณหมอบอกว่า อาการของตนเองเสี่ยงตาอาจบอดได้ ซึ่งทางคุณหมอยังถามอีกว่า ตนเองได้ทานยาจำพวก อาหารเสริมหรือไม่ ซึ่งตนเองไม่เคยทานอาหารเสริม ยืนยันว่าหยุดมาแล้ว 3 เดือน ซึ่งคุณหมอก็บอกให้ตนเองรักษาต่อ หลังจากนั้นผิวหนังด้านนอก มีอาการตกสะเก็ด แผลเริ่มแข็ง ตาจึงเริ่มเลาะมากขึ้น คุณหมอบบอกว่า ต้องได้รับการผ่าตัดอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ตนตัดสินใจไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลอื่น

เนื่องจากเริ่มไม่ไว้วางใจกับคุณหมอคนเดิม เพราะมีการผ่าตัดซ้ำหลายรอบ ซึ่งคุณหมอโรงพยาบาลเฉพาะทางที่ตนไปสอบถาม ได้ให้คำปรึกษาแนวทางการรักษา และแจ้งว่า บริเวณใต้ตาของตน เนื้อตายทั้งหมด ซึ่งร่างกายเราเยียวยามาได้ในระดับนึงแล้ว และให้ตนเองเลือก 2 อย่าง 1.เอาเนื้อใต้ตาออก แล้งนำเนื้อส่วนอื่นมาแปะ แต่ข้อเสียคือสีผิวก็จะแตกต่างกัน ส่วนวิธีที่ 2. ทำวิธีการบอลลูนที่ใบหน้า แต่ต้องมีการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง เพื่อทำให้เนื้อที่ตายกลับมาสภาพสมบูรณ์มากที่สุด แต่บาดแผลจะดูรุนแรงและใช้ระยะเวลานานมากกว่า 1 ปี อย่างไรก็จะเป็นการเสียงโฉมอยู่ ไม่กลับมาสมบูรณ์ แต่สามารถใช้ชีวิตได้จามปกติ

 

 

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ตนเองรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าการทำศัลยกรรมจะเปลี่ยนชีวิตของตนเองให้ทรมานขนาดนี้ ทำให้ตนเองอาการหนังขึ้นจนถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า กลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช จนถึงปัจจุบันมีการรักษาในเรื่องของสภาพจิตใจ ตนจึงอยากมาดำเนินการ ในเรื่องของคดีความ แจ้งความ รวมถึงอยากให้รับการเยียวยาจากคุณหมอที่ทำให้ชีวิตของตนเองเปลี่ยนไป ทำให้ตนเองต้องทุกข์ทรมานกับบาดแผล ทำให้ตนเองเป็นคนซึมเศร้า กลายเป็นคนที่เป็นพลังลบของที่บ้านอีกด้วย ผู้เสียหาย กล่าวอีกด้วยว่า ตนมาทราบภายหลังว่าคลินิกดังกล่าวไม่ได้ใช้หมอเฉพาะทางมาศัลยกรรมให้กับตน แต่เป็นหมอทั่วไปทำให้ตนเองต้องทนทุกข์ทรมานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงตนเคยเป็นเจ้าของแบรนด์ครีม จึงไม่สามารถออกไปทำงานปกติได้ และขายสินค้าโฆษณาครีมของตัวเองได้ และหลังจากเกิดเหตุ หมอไม่มีการเยียวยาใดๆ และตนไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ จึงได้ส่งเรื่องร้องเรียนมายัง กัน จอมพลัง เพราเตนอยากให้ช่วยตรวจสอบสถานประกอบการของดังกล่าว รวมถึงตัวหมอที่ทำการศัลยกรรมให้กับตนเอง รวมถึงทางด้านเนินคดีความด้วย

ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ตนอยากฝากถึงหมอให้ออกมาช่วยรับผิดชอบ ซึ่งทางน้องผู้เสียหายไม่กล้ากลับไปรับการรักษาที่เดิมแล้ว ซึ่งทางคุณหมอควรออกมารับผิดชอบ วันนี้ตนจึงพาผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด จากนั้นประสานกระทรวงสาธานะสุข ให้ตรวจสอบคลินิกดังกล่ว รวมถึงสถานที่ว่าเหมาะกับการทำหัตกรรมหรือไม่ต่อไป

 

 

ขอขอบคุณภาพจากรายการ ข่าวเที่ยงช่องวัน จากช่องวัน31

 

สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่

โดดเด่น
ศัลยกรรม
webdodeden

 

เรื่องน่าสนใจ