ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

หนังสือโป๊ที่ไม่มีภาพเปลือยภาพนู้ดโชว์ความอึ๋มความเซ็กซี่ของนางแบบ ก็คงไม่ต่างจากการกินข้าวผัดกะเพราไก่ไข่ดาว ที่ไม่ใส่ใบกะเพรา!! หนุ่มๆทั้งโลกแทบจะประท้วงไม่ยอมทำการบ้านทันทีที่รู้ข่าวว่านิตยสารโป๊เก่าแก่กว่า 60 ปี ของอเมริกา “เพลย์บอย” ซึ่งเป็นเพื่อนคู่คิดติดเตียงคุณผู้ชายมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อ ประกาศเลิกตีพิมพ์ภาพโป๊เปลือยในแมกกาซีนปลุกใจเสือป่าซะแล้ว

EyWwB5WU57MYnKOuXocv5Dh4RTFjMRP7D3VNqCJAZ37dW3aqed5vp9

แต่จะหันมานำเสนอภาพศิลป์สวยๆและบทความแปลกใหม่เต็มไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์แทน เพื่อหวังว่าจะเป็นทางรอดดึงดูดนักอ่านรุ่นใหม่ๆให้หันมาอุดหนุนเพลย์บอยเพิ่มขึ้น หลังจากสถานการณ์ของเพลย์บอยตกต่ำอย่างน่าตกใจ เพราะภายใน 5 ปีมานี้ ยอดขายนิตยสารร่วงกราวจาก 5 ล้านฉบับ เหลือเพียง 8 แสนฉบับ อันเป็นผลกระทบจากอิทธิพลการแพร่ระบาดของสื่ออินเตอร์เน็ต

ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าเสือเฒ่าไม่ทิ้งลายอย่าง “ฮิวจ์เฮฟเนอร์” ซึ่งปลุกปั้นนิตยสารเพลย์บอยมากับมือ ตั้งแต่ 6 ทศวรรษที่แล้ว กระทั่งขึ้นหิ้งเป็นหนังสือโป๊คลาสสิกในตำนานโลก จะยอมปล่อยให้เพลย์บอยเปลี่ยนโฉมหน้าตัวเองไปถึงขนาดนี้ มันช่างขัดแย้งกับอุดมการณ์ของต้นตำรับเพลย์บอยรุ่นเดอะ ที่ชีวิตนี้ไม่เคยขาดสาวอึ๋มทรงโตคอยปรน เปรอความสุขล้อมหน้าล้อมหลัง

ในขณะที่กองบรรณาธิการเพลย์บอย พยายามคิดยุทธศาสตร์ใหม่ๆ เพื่อดิ้นรนทุกทางให้อยู่รอดให้ได้ในยุคอินเตอร์เน็ตครอง โลก นายทุนใหญ่อย่าง “คุณปู่เฮฟเนอร์” ในวัย 89 ปี ก็ได้แต่ยิ้มอ่อนๆไม่สะดุ้งสะเทือนเท่าไหร่ เพราะยังไงซะคุณปู่ก็ยังรวยติดอันดับต้นๆของเศรษฐีมะกันที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยลำแข้งตัวเอง โดยขยายธุรกิจไปทำรายการทีวี, ลงทุนในอสังหาฯ, ตลาดหุ้น และเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้ามากมายหลายตัว ภายใต้กลุ่มธุรกิจเพลย์บอย เอ็นเตอร์ไพรส์ ว่างๆก็ยังไปเล่นหนังและเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์ดังหลายเรื่อง

ย้อนกลับไปในวันแรก การก่อตั้งเพลย์บอยเริ่มต้นขึ้นภายในอพาร์ตเมนต์เล็กๆในชิคาโก โดยมีพนักงานแค่คนเดียวคือ นายเฮฟเนอร์กับเครื่องพิมพ์ดีดเก่าๆ แม้จะไม่มีเงินทุนเลย เพราะพ่อแม่เป็นแค่ครู แต่เขาก็วิ่งเต้นหาเงินมาจนได้ นอกจากจะกู้เงินแบงก์ 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ เขายังเรี่ยไรเงินได้ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการลงขันของนักลงทุน 45 คน และได้เงินสมทบเพิ่ม 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯจากมารดา ที่อยากส่งเสริมลูกชายเป็นเถ้าแก่น้อย

กระทั่งสามารถเข็น Playboy ฉบับแรกวางแผงสำเร็จในเดือน ธ.ค.ปี 1953 โดยมีเซ็กซี่สตาร์แห่งยุค “มาริลิน มอนโร” ขึ้นปกฉบับปฐมฤกษ์ ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับเกินคาด ขายได้ถึง 5 หมื่นฉบับ จากนั้นเพลย์บอยก็ติดลมบนมาเรื่อยๆ กลายเป็นหนังสือใต้เตียงเล่มโปรดของผู้ชายยุคนั้น และยังเป็นสัญลักษณ์ของความเซ็กซี่แห่งยุค ที่มี “เพลย์บอย บันนี่” สาวอึ๋มคาดหูกระต่ายเป็นโลโก้ประจำตัว สมัยหนุ่มๆเฮฟเนอร์ขึ้นชื่อเรื่องความกล้าบ้าบิ่นชอบท้าชนกับคู่แข่ง กระนั้น ก็ได้รับการยกย่องเป็นนักปฏิวัติวงการแมกกาซีน

ชีวิตรักของคุณปู่ก็มากสีสันสมฉายา “เจ้าพ่อเพลย์บอย” คุณปู่มีเมียจริงจัง 7 คน และลูก 4 คน ยังไม่นับรวมกิ๊กอีกเป็นพันที่วนเวียนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะเจ้าชู้สะบัดขนาดนี้ ตอนหนุ่มๆเฮฟเนอร์รักเดียวใจเดียว แต่เพราะฝังใจเจ็บจากเมียคนแรกที่แอบมีชู้ ตั้งแต่นั้นมาเลยกลายเป็นเสือผู้หญิงเต็มตัว ฟาดเรียบตั้งแต่นางแบบโนเนมยันนางแบบดังแห่งยุค เสร็จป๋ามาหมดแล้วทั้งดอนน่า มิเชล, มาริลิน โคล, ลิเลียน มูเลอร์, แชนนอน ทวีด, บาร์บี้ เบนตัน, คาเรน คริสตี้, ซอนดร้า ธีโอดอร์ และแคร์รี่ ลีห์

แต่ที่แสบสุดเห็นจะเป็นเมียคนที่ 6 ของป๋า “ฮอลลี่ เมดิสัน” ออกมาเขียนหนังสือแฉแหลกเมื่อกลางปี หลังอยู่กินกับปู่เฮฟเนอร์มา 7 ปีเต็ม โดยฮือฮาสุดคือ การเปิดโปงความลับดำมืดของฮาเร็มเจ้าพ่อในตำนาน “เพลย์บอย แมนชั่น” ที่ปู่ใช้เป็นรังรักมาหลายทศวรรษ นางยืนยันว่าในนั้นมีครบทุกสิ่ง ทั้งเงิน-เซ็กซ์-ยา-หนังโป๊-โบท็อกซ์ ขาดอย่างเดียวก็แค่ความสุข!!

เรื่องน่าสนใจ