หนุ่มไปรษณีย์ฉะเชิงเทรา พร้อมเพื่อนสำนึกผิด ให้แม่พาเข้ามอบตัว ตร. อ้างต้องการทรัพย์สินไปขาย เพื่อจ่ายค่างวดรถ จยย. ที่ค้างอยู่ และกำลังจะถูกยึด โดยไม่รู้ที่ห้องคัดแยกมีกล้องวงจรปิดอยู่ พร้อมขอรับโทษ …
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 ตุลาคม ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.ธนายุทธ สีดา รอง ผกก.สส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือนายอเนกพงศ์ ศิลป์นาวา หรือ อาร์ม อายุ 24 ปี และ นายนิยม คูฮวดหลี หรือ ยม อายุ 23 ปี พร้อมของกลาง ถุงบรรจุพัสดุไปรษณีย์สีน้ำตาล 1 ถุง ถุงพลาสติกใส่ซองจดหมาย 1 ถุง ถุงไปรษณีย์สีน้ำเงิน-ส้ม 1 กล่อง และกล่องกระดาษใส่สิ่งของ ระบุที่อยู่จากผู้ส่งและผู้รับปลายทางอีกจำนวน 5 กล่อง
พ.ต.อ.ธราเทพ ดูพานิช ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า นายอเนกพงศ์ และนายนิยม เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และรับของโจร โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายอเนกพงศ์ ซึ่งเป็นพนักงานคัดแยกซองจดหมาย ร่วมกับนายนิยม ได้เข้าไปขโมยทรัพย์สิน
ซึ่งเป็นถุงบรรจุพัสดุไปรษณีย์ขนาดใหญ่ จำนวน 3 ถุง วางอยู่ภายในห้องคัดแยก แล้วนำขึ้นรถยนต์เก๋งสีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน พากันหลบหนีไป ภายหลังได้นำถุงที่ขโมยไปบางส่วนนำไปโยนทิ้งไว้ภายในซอยโรงเรียนเทคโนฯแห่งหนึ่ง ถนนศรีโสธรตัดใหม่ แล้วพากันหลบหนีไป โดยเมื่อช่วงเช้า นางวันเพ็ญ ศิลป์นาวา อายุ 43 ปี มารดาได้พาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวกับตำรวจ จากการตรวจสอบพัสดุภัณฑ์และจดหมาย ที่ถูกขโมยไป ก็ได้รับคืนทั้งหมดและทางไปรษณีย์ได้ดำเนินการส่งถึงมือผู้รับปลายทางเรียบร้อยหมดแล้ว
ด้าน นายอเนกพงศ์ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ชักชวนเพื่อนมาร่วมก่อเหตุจริง โดยอ้างว่า ต้องการนำทรัพย์สินที่บรรจุภายในถุงไปรษณีย์ไปขาย เพื่อนำเงินไปจ่ายค่างวดรถจักรยานยนต์ ที่ติดค้างอยู่ 4 งวด และกำลังจะถูกยึด พอรุ่งเช้าจึงเปิดถุงไปรษณีย์ พบเพียงเสื้อผ้าและเอกสารและยาจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไม่พบของมีค่าแต่อย่างใด จึงนำถุงไปวางทิ้งไว้เพื่อต้องการคืนเจ้าของปลายทาง จากนั้นพากันหลบหนีไปอยู่บ้านเพื่อนที่จังหวัดชลบุรี และสำนึกผิด จึงติดต่อกับมารดาขอให้พาเข้ามอบตัวกับตำรวจ
“ผมทำงานมากว่า 2 ปีไม่รู้จริงๆว่า ที่ห้องคัดแยกได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ เพราะไม่เคยสังเกตเลย ถ้ารู้คงจะไม่คิดอ่านทำแบบนี้ และต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ทุกคน รวมทั้งเจ้าของพัสดุภัณฑ์และจดหมาย โดยเฉพาะผู้รับปลายทางที่ตนเองได้กระทำผิดจนเกิดความเสียหายและขอรับโทษกับสิ่งที่ทำลงไป” นายอเนกพงศ์ กล่าว
